จุดประสงค์การเรียนรู้
1. รู้จักและใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์
2. เลือกใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้อง
องค์ประกอบของการสื่อสาร
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
เกิดจากการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันผ่านตัวกลางในการสื่อสาร เพื่อใช้งานข้อมูลและระบบร่วมกัน
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
แบ่งตามลักษณะการบริหารเครือข่าย
1.เครือข่ายส่วนบุคคลหรือแพน (Personal Area Network: PAN)
2.เครือข่ายเฉพาะที่หรือแลน (Local Area Network: LAN)
3.เครือข่ายบริเวณกว้างหรือแวน (Wide Area Network: WAN)
แบ่งตามลักษณะการให้บริการ
1.เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ (client-server network) เครือข่ายที่มีเครื่องบริการ (server) เพื่อรองรับการขอใช้บริการจากเครื่องรับบริการ (client)
2. เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer to Peer netwrok: P2P network)เครือข่ายที่แต่ละเครื่องเป็นได้ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำอะไรบ้าง
1.ใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกัน
2.แบ่งปันอุปกรณ์ในเครือข่าย
3.ติดต่อสื่อสาร
4.แบ่งปันแหล่งข้อมูลและความรู้
คลาวด์คอมพิวติง Cloud Computing
Cloud Computing คือ บริการที่ให้เราใช้หรือเช่าใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ ของผู้ให้บริการ โดยครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งเราสามารถเลือกกำลังการประมวลผล เลือกจำนวนทรัพยากร ได้ตามความต้องการในการใช้งาน พูดง่ายก็คือ ใช้เท่าไหร่ ก็จ่ายเท่านั้นนั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าถึงข้อมูลบน Cloud จากที่ไหนก็ได้เรียกได้ว่าทั้งสะดวกสบายแถมยังประหยัดเวลาแบบสุด ๆ
บริการ ของคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Service Models) มีอะไรบ้าง
คือ บริการที่ให้ใช้หรือเช่าใช้บริการ Software และ Applicationผ่านอินเทอร์เน็ต โดยประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการโดยที่เราไม่ต้องกังวล หรือหาคนมาดูแล Infrastructure และคนมาสร้าง Application ให้เรา เพราะทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมมาโดยผู้ให้บริการเรียบร้อยแล้ว
Highlight : ไม่ต้องลงทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เอง , ซอฟต์แวร์จะถูกเรียกใช้งานผ่าน Cloud จากที่ไหนก็ได้
Case Study : ตัวอย่างที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเช่น Google Docs หรือ Google Apps ที่มาในรูปแบบการใช้ซอฟต์แวร์ผ่านเว็บบราวเซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ลงบนเครื่อง หรือWeb-based Email Service ต่างๆ เช่น Hotmail, Gmail, Facebook, Twitter ที่มีการเก็บโปรแกรมและข้อมูลต่างๆไว้ที่ Host แล้วให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ application ต่างๆ ผ่านทางเว็บได้ ก็ถือว่าเป็นบริการประเภทนี้อีกเช่นเดียวกันเป็นต้น
คือ การให้บริการด้าน Platform สำหรับผู้ใช้งานเช่น นักพัฒนาระบบ หรือ Developer ที่ทำงานด้าน Software และ Applicationโดยผู้ให้บริการ Cloud จะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการพัฒนา Software และ Application เอาไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็น Hardware, Software, หรือชุดคำสั่ง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถต่อยอดได้เลย
Highlight : สามารถช่วยลดต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟท์แวร์ได้
Case Study : ตัวอย่างบริการทางด้านนี้เช่น Google App Engine, Microsoft Azure ที่สามารถนำมาพัฒนาแอพที่ให้บริการคนจำนวนมหาศาลได้ โดยใช้เวลาพัฒนาไม่นานด้วยทีมงานแค่ไม่กี่คน
คือ บริการที่ครอบคลุมเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีได้แก่ ระบบเครือข่าย (Network), ระบบจัดเก็บข้อมูล (Database), ระบบประมวลผล (CPU) ไปจนถึงอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น Servers และ ระบบปฏิบัติการ (OS)ใ นรูปแบบระบบเสมือน (Virtualization) โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Hardware ที่มีราคาแพง
Highlight : ไม่ต้องลงทุนซื้อเอง , สามารถขยายได้ง่ายตามการเติบโตของบริษัท และมีความยืดหยุ่นสูง ,ลดความยุ่งยากในการดูแลระบบเอง
Case Study : ตัวอย่างของคราวด์ประเภทนี้เช่น บริการ Cloud storage ต่าง ๆ เช่น Dropbox , ICloud Drive ,Google Drive หรือ Microsoft Onedrive เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีบริการให้เช่ากำลังประมวลผล, บริการให้เช่า เซิร์ฟเวอร์เสมือน เพื่อใช้ลงและรันแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เราต้องการเช่น OpenLandscape Cloud, Google Compute Engine, Amazon Web Services, Microsoft Azure เป็นต้น
ที่มา :: https://blog.openlandscape.cloud/what-is-cloud-computing
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายๆ เครือข่ายทั่วโลก
องค์ประกอบที่สำคัญในการใช้ระบบอินเทอร์เน็ต
1.เลขที่อยู่ไอพี (Internet Protocol address: IP address) หมายเลขที่ระบุที่อยู่ของคอมพิวเตอร์ เช่น 202.168.1.192
2.ชื่อโดเมน (domain name) ชื่อที่ระบุตัวตนของเครื่อง แทนการใช้เลขที่อยู่ไอพี เช่น www.facebook.com
สื่อการเรียนรู้
อ้างอิงแหล่งที่มา :: https://proj14.ipst.ac.th/m2/m2-cs/
ใบความรู้
ใบงาน