หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 หน้าที่พลเมืองดี
บทที่ 2 กิจกรรมประชาธิปไตย
1 บทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐบาล
ประเทศไทย มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการบริหารประเทศและดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้ โดยมีการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินไทยที่เป็นหลักการในการบริหารราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ดังนี้
1. การบริหารราชการส่วนกลาง
เป็นการจัดระบบราชการที่มุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวมมีหน่วยงานตลอดจนข้าราชการรับผิดชอบในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายต่าง ๆ ของคณะรัฐมนตรี ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง และกรม
2. การบริหารราชการส่วนภูมิภาค
เป็นการจัดระบบราชการโดยแบ่งอำนาจการบริหารราชการส่วนกลางบางส่วนออกไปยังส่วนภูมิภาค แยกออกไปตั้งที่ทำการอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของประเทศ
3. การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
เป็นการจัดระบบราชการแบบกระจายอำนาจจากส่วนกลาง เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสในการปกครองตนเองตามความต้องการ และตามความจำเป็นของแต่ละท้องถิ่น เป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาลในการบริหารงาน
1. บทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง องค์กรที่ทำหน้าที่บริหารงานในแต่ละท้องถิ่น
มีผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนในท้องถิ่น เป็นผู้รับผิดชอบต่อการบริหารงานอย่างอิสระในเขตพื้นที่ที่กำหนด มีอำนาจในการบริหารการเงินหรือการคลังและกำหนดนโยบายของตนเอง รวมทั้งมีหน้าที่ดำเนินกิจการภายในกรอบที่กฎหมายบัญญัติไว้ เพื่อประโยชน์ของรัฐและของประชาชนในท้องถิ่น
1) ประเภทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอยู่ ๔
ประเภท ดังนี้
1. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
2. เทศบาล
3. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
4. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
5. รูปแบบพิเศษ มี ๒ แห่ง คือ กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา
2) บทบาทหน้าที่สำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
1. จัดให้มีการทำนุบำรุงทางน้ำและทางบก ดูแลรักษาความสะอาดของถนนและพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งการกำจัดขยะมูลฝอย
2. ป้องกันโรค ระงับโรคติดต่อ และบรรเทาสาธารณภัย
3. จัดให้มีการบริการทางด้านสาธารณูปโภคให้แก่ประชาชนในในถิ่น
4. ส่งเสริมด้านการศึกษา การพัฒนาสตรี เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุและคนพิการ
5. ส่งเสริมการประกอบอาชีพของประชาชน เพื่อทำให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต
6. คุ้มครองดูแล รวมทั้งบำรุงรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งสิ่งแวดล้อม
7. บำรุงรักษาศิลปะ จารีดประเพณี วัฒนธรรม และภูปัญญาท้องถิ่น
8. ส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนเองนับถือ เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา อีกทั้งยังร่วมกันทำนุบำรุงศาสนสถานและศาสนวัตถุ
2. บทบาทหน้าที่ของรัฐบาล
รัฐบาลมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามบทบัญญัติของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลที่สำคัญ มีดังนี้
1. บริหารราชการแผ่นดิน
รัฐบาลต้องบริหารประเทศให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย และดำเนินไปตามนโยบายที่กำหนด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของประชาชน
2. รักษาเอกราชของประเทศชาติ
รัฐบาลต้องดูแลรักษาความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน
3. พัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าในทุก ๆ ด้านมีการดำเนินการที่เป็นระบบ โดยมีคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลดูแลและรับผิดชอบการทำงานของกระทรวงต่าง ๆ
4. จัดสวัสดิการให้แก่ประชาชน เป็นการพัฒนาด้านการบริการต่าง ๆ ให้มีคุณภาพและมีความทั่วถึงถึง เช่น การคมนาคมสะดวก การจัดการศึกษาไดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย การรักษาพยาบาล การให้บริการสาธารณูปโภค
5. ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักไข้สิทธิเสรีภาพและหน้าที่ของคนเอง
6. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในด้าน
ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทูต การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
7. ส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณธรรมจริยธรรมตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนเองนับถือ ซึ่งจะส่งผลต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างปกติสุข
8. ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี และปรองดองกันประชาชนในประเทศอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีการร่วมมือกันอนุรักษ์วัฒนธรรมภูมิปัญญาไทย และภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เป็นมรดกของท้องถิ่นและของชาติ
กล่าวได้ว่า บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลมีความแตกต่างกับบทบาทหนักที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรัฐบาลจะดูแลเและพัฒนาระดับประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพชีวิตของประชาชน ความมั่นคง ความปลอดภัย เศรษฐกิจ การศึกษา
ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลและพัฒนาในระดับท้องถิ่น เช่น สาธารณูปโภค การศึกษา สภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะต้องประสานการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
2. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยในท้องถิ่นและประเทศ
1. การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อเลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นคนดีเข้าไปเป็นตัวแทนในการบริหารประเทศในระดับต่าง ๆ
2. การร่วมมือกันทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เป็นผู้มีจิตสาธารณะรู้จักเสนอความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
3. ร่วมมือกับสมาชิกในชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนโดยยึดหลักเหตุผลและความถูกต้อง
4. เข้าร่วมชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของตนและประเทศชาติ
5. ประชาสัมพันธ์หรือรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปเห็นความสำคัญและไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
6. ร่วมกิจกรรมในการสืบสานวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสืบทอดมรดกสำคัญของท้องถิ่นและประเทศชาติ
7. ร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยกันประหยัดพลังงาน และรู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า
8. ร่วมมือกันรักษาสาธารณสมบัติ รักษาความสะอาดของถนนหนทางและสวนสาธารณะ
ในวัยของนักเรียนจะสามารถปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นการช่วยส่งเสริมประชาธิปไตยได้อย่างง่าย ๆ เช่น การร่วมกันแสตงความคิดเห็น การเลือกตั้งหัวหน้าห้อง การเลือกตั้งคณะกรมการนักเรียน
3. บทบาทและความสำคัญในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
การใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง เป็นการปฏิบัติตามแนวทางประชาธิบไตยอย่างหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเมืองการปกครองของประเทศ ประชาชนชาวไทยย่อมมีบทบาทเกี่ยวกับการออกเสียงเลือกตั้ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
1. การมีส่วนร่วมในการออกกฎหมาย ระเบียบ กติกาการเลือกตั้ง
โดยปกติแล้วการออกกฎหมายการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของรัฐสภาซึ่งประกอบไปด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แต่ประชาชนก็สามารถมีส่วนร่วมทางอ้อมโดยการเสนอความคิดเห็นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผ่านสมาชิกวุฒิสภา เพื่อนำข้อคิดเห็นของประชาชนไปประกอบการพิจารณาออกกฎหมายเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการออกระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยการแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาออกระเบียบ เช่น ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
2. การสอดส่องดูแลผู้มีพฤติกรรมการกระทำผิดการเลือกตั้ง และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการช่วยกันสอดส่องดูแลผู้กระทำผิดการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างสุจริต มีความโปร่งใส และให้ได้มาซึ่งบุคคลที่ดี ที่จะเป็นตัวแทนของเราต่อไป ทั้งนี้
การกระทำผิดการเลือกตั้งมีหลายลักษณะ เช่น การซื้อสิทธิชายเสียงการติดสินบน การหาเสียงนอกเวลาที่กำหนด การทำลายบัตรเลือกตั้งการสวมสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งถ้าหากเราพบเห็นหรือทราบเบาะแสของพฤติกรรมกระทำผิดการเลือกตั้ง ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
3. การตรวจสอบคุณสมบัติ
การเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ย่อมมีผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ลงแข่งขันกันในพื้นที่ ประชาชนซึ่งเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ควรมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อให้ได้คนที่ดี มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น และประเทศชาติอย่างยั่งยืน
4. การใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้มีการกำหนดไว้ว่าอำนาจอธิปไตยนั้นเป็นของปวงชนชาวไทย และกำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครอง เปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ เพื่อคอยลอดส่องดูแลให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความโปร่งใส ชัดเจน สุจริต และยุติธรรม ดังนั้น จึงกำหนดให้ประชาชนมีหน้าที่ไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร การไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ถือเป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็นวิธีการตามระบอบประชาธิปไตย