บทที่ 2
หลักธรรมนำความสุข
สำหรับบทนี้จะกล่าวถึงหลักธรรมทางศาสนาที่สำคัญในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ 3 ศาสนาหลักๆ ได้แก่
1 ศาสนาพุทธ
2 ศาสนาคริสต์
3 ศาสนาอิสลาม
1 หลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบสำคัญ ที่เรียกว่า พระรัตนตรัย
พระรัตนตรัย แปลว่า แก้วอันประเสริฐ 3 ประการ ได้แก่ พระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์
พระพุทธ หมายถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงตรัสรู้
หลักธรรมอริยสัจ 4 เป็นองค์พระศาสดาของศาสนาพุทธ
พระธรรม พระธรรมคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ตรัสสอนเอาไว้
เพื่อเป็นหลักปฏิบัติสู่ความสุขและพ้นจากความทุกข์
พระสงฆ์ คือสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติตามคำสอนของ
พระพุทธเจ้าและนำคำสอนมาเผยแผ่
ชาวพุทธทุกคนควรมีความเชื่อและความเลื่อมใสในคุณของพระรัตนตรัย หรือที่เรียกว่า ศรัทธาในคุณของพระรัตนตรัย หรือ ศรัทธา 4
ศรัทธา 4 ประกอบไปด้วย
- เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง
- เชื่อว่าผลกรรมมีจริง
- เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน
- เชื่อพระปัญญาและการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
หลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนาที่ควรนำไปปฏิบัติ ได้แก่
1.1 อริยสัจ 4 แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ประกอบด้วย
ทุกข์
สมุทัย
นิโรท
มรรค
1.2 หลักกรรม
กรรม หมายถึง การกระทำโดยเจตนา
กุศลกรรม หมายถึง ทำดี
อศุลกรรม หมายถึง ทำชั่ว
1.3 ไตรสิกขา หมายถึง ข้อปฏิบัติที่ต้องศึกษา 3 ประการ ได้แก่
1.3.1 ศีล คือการรักษากายให้เป็นปกติ ประพฤติ
ตนในทางที่ดี พูดและทำในสิ่งที่ดีสุจริต
1.3.2 สมาธิ คือ ความตั้งมั่นแห่งจิตในการเพ่งทำ
สิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความตั้งใจ
1.3.3 ปัญญา คือ ความฉลาดรอบรู้หรือความแจ่ม
แจ้งในเหตุและผลรู้ว่าควรปฏิบัติสิ่งใด ควร
ละเว้นสิ่งใด
1.4 โอวาท 3 หรือที่เรียกว่า ปาติโมกข์ คือหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ได้แก่
1.4.1 การไม่ทำความชั่ว
1.4.2 การทำความดี
1.4.3 การทำจิตให้ผ่องใสบริสุทธิ์
1.4.1 การไม่ทำความชั่ว
มีหลักธรรมที่ควรยึดปฏิบัติดังนี้
เบญจศีล หมายถึง ข้อห้ามปฏิบัติ
ศีลข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์
ศีลข้อ 2 ไม่ลักทรัพย์
ศีลข้อ 3 งดเว้นการประพฤติผิดในกาม
ศีลข้อ 4 ไม่พูดปด
ศีลข้อ 5 ไม่ดื่มสุราสิ่งเสพติด
อบายมุข 6
คือสิ่งที่เรียกว่า ทางไปสู่ความเสื่อม มี
ดังนี้
1 การดื่มน้ำเมา
2 เที่ยวกลางคืน
3 เที่ยวดูการละเล่น
4 เล่นการพนัน
5 คบคนชั่ว
6 เกียจคร้านทำงาน
อกุศลมูล 3 คือ ต้นเหตุแห่งความชั่ว ได้แก่
1 โลภะ คือ ความโลภ อยากได้ของคนอื่น
2 โทสะ คือ ความโกรธ จิตที่คิดร้ายผู้อื่น
3 โมหะ คือ ความหลง ไม่รู้จริง ความเบา
ปัญญา
1.4.2 การทำความดี สามารถปฏิบัติได้โดยการปฏิบัติตามหลักธรรมต่าง ดังนี้
เบญจธรรม หมายถึง ข้อควรปฏิบัติ
1 ความเมตตากรุณา
2 สัมมาอาชีวะ คือการประกอบอาชีพสุจริต
3 ความสำรวมในกาม ไม่ล่วงละเมินผู้อื่น
4 สัจจะ มีวาจาสัตย์ พูดในสิ่งเป็นประโยชน์
5 การมีสติสัมปชัญญะ
กุศลมูล 3 หมายถึง ต้นเหตุแห่งความดี
1 อโลภะ คือ ความไม่โลภ
2 อโทสะ คือ ความไม่โกรธ ไม่คิดทำร้ายใคร
3 อโมหะ คือ ความไม่หลง รู้จักคิด แยกแยะ
สิ่งดี สิ่งไม่ดี
คารวะ 6 หมายถึง มีความเคารพในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม ได้แก่
1 คารวะในพระพุทธเจ้า
2 คารวะในพระธรรม
3 คารวะในพระสงฆ์
4 คารวะในการศึกษา
5 คารวะในความไม่ประมาท
6 คารวะในการปฏิสันถาร คือ การรู้จักต้อนรับเมื่อมีผู้มาเยือน
1.4.3 การทำจิตให้ผ่องใสบริสุทธิ์ นอกจากการไม่ทำชั่ว และทำความดีแล้ว เรายังต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เมื่อเรามีจิตใจทีบริสุทธิ์แล้วก็จะนำมาซึ่งความสงบสุข เราสามารถฝึกการทำจิตให้บริสุทธิ์ได้ด้วยการหมั่นปฏิบัติสมาธิ เจริญปัญญาเป็นประจำ ก็จะทำให้เราเป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์ได้
2 หลักคำสอนสำคัญของศาสนาคริสต์
หลักคำสอนที่สำคัญ ได้แก่
2.1 หลักความรัก ความรักในศาสนาคริสต์ คือ การปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข มีความเมตตากรุณา ให้อภัยกันและกัน ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี
หลักความรักของศาสนาคริสต์ มี 2 ประการคือ
1 ความรักระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
2 ความรักระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ สอนให้รักเพื่อนบ้าน รักศัตรู ให้อภัยและ
เสียสละ
2.2 หลักตรีเอกานุภาพ หมายถึง พระเจ้าองค์เดียว แต่มี 3 พระบุคคล คือ
1 พระบิดา (พระเยโฮวาห์) คือผู้สร้างโลก ผู้ให้กำเนิดแก่ทุกชีวิต
2 พระบุตร (พระเยซู) คือ ผู้เกิดมาเพื่อไถ่บาปให้แก่มนุษย์
3 พระจิต (พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระบิดาและพระบุตรรวมกัน) คือ วิญญาณ
อันบริสุทธิ์ เพื่อมอบความรักและช่วยให้มนุษย์ประพฤติดี
2.3 บัญญัติ 10 ประการ คือ ข้อปฏิบัติ 10 ข้อ ที่พระเจ้าทรงประทานให้กับชาวคริสต์
มีดังนี้
1 จงนมัสการพระเจ้าพระองค์เดียว
2 อย่าออกนามพระเจ้าโดยไม่มีเหตุผล
3 จงนับถือวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
4 จงนับถือบิดามารดา
5 อย่าฆ่าคน
6 อย่าผิดประเวณี
7 อย่าลักขโมย
8 อย่าพูดเท็จ
9 อย่าคิดมิชอบ
10 อย่ามีความโลภในทรัพย์สินผู้อื่น
3 หลักคำสอนสำคัญของศาสนาอิสลาม
3.1 หลักศัทธา 6 ประการ
1) ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ มุสลิมเชื่อว่า มีพระเจ้าพระองค์เดียวเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง ดังนั้น มุสลิมต้องศรัทธาต่ออัลลอฮ์เพียงพระองค์เดียว
2) ศรัทธาต่อเทวทูตของของอัลลอฮ์ มุสลิมต้องเชื่อว่า เทวทูตมีจริง เทวฑูตทำหน้าที่ในการสื่อสารถึงศาสนฑูต และศาสนฑูตจะนำคำสั่งสอนมาเผยแผ่แก่มนุษย์
3) ศรัทธาต่อพระคัมภีร์ทั้งหลาย
4) ศัทธาต่อศาสนทูต
5) ศรัทธาในวันพิพากษาโลก เชื่อว่าโลกมีวันแตกดับ และอัลลอฮ์จะเป็นผู้พิพากษามนุษย์ตามกรรมดี กรรมชั่วของแต่ละคน
6) ศรัทธาในลิขิตของอัลเลาะห์ ต้องเชื่อว่าอัลลอฮ์เป็นผู้ลิขิตชีวิตมนุษย์
3.2 หลักปฏิบัติ 5 ประการ
1) การปฏิญานตน เป็นการประกาศยอมรับอัลลอฮ์เป็นพระเจ้าองค์เดียว
2) การละหมาด เป็นการนมัสการพระเจ้า จะทำวันละ 5 ครั้ง
3) การบริจาคชะกาด เป็นการบริจาคทรัพย์สิน
4) การถือศีลอด
5) การประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นการประกอบศาสนกิจที่นครเมกกะ ประเทศชาอุดิอาระเบีย
4 หลักคำสอนสำคัญของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
หลักธรรม 10 ประการ
1. ธฤติ ได้แก่ ความพอใจ ความกล้า และความมั่นคง มีความเพียรพยายามจนได้รับความสำเร็จ
2. กษมา ได้แก่ ความอดทน อดกลั้น มีความเพียรพยายาม และความเมตตากรุณาเป็นพื้นฐาน
3. ทมะ ได้แก่ การข่มจิตใจตนเอง ด้วยความเมตตา และมีสติ
4. อัสเตยะ ได้แก่ การไม่ลักขโมย
5. เศาจะ ได้แก่ การกระทำตนให้บริสุทธิ์ทั้งกายและใจ
6. อินทรียนิครหะ ได้แก่การหมั่นตรวจสอบอินทรีย์ทั้ง 10 ประการให้ได้รับการตอบสนองที่ถูกต้อง
7. ธี ได้แก่ ปัญญา สติ มติ ความคิด ความมั่นคงยืนนาน รู้จักระเบียบวิธี ขนบธรรมเนียม ประเพณี สังคม วัฒนธรรม และหลักธรรม
8. วิทยา ได้แก่ ความรู้ทางปรัชญา
9. สัตยา ได้แก่ ความจริง ความซื่อสัตย์
10. อโกธะ ได้แก่ ความไม่โกรธ เอาชนะความโกรธด้วยความอดทน
หลักอาศรม 4
หมายถึง ขั้นตอนการดำเนินชีวิตของผู้นับถือศาสนาฮินดู เพื่อยกระดับชีวิตให้สูงขึ้นจนบรรลุจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต คือ หลุดพ้นจากสังสารวัฏ (การเวียนว่ายตายเกิด)
1. พรหมจารี เป็นวัยที่ต้องศึกษาเล่าเรียน เด็กนักเรียนวัย 5-16 ปีต้องเข้าพิธีมอบตนเป็นศิษย์เพื่อศึกษาพระเวทกับอาจารย์
2. คฤหัสถ์ เป็นวัยแห่งการครองเรียน เมื่อวัยการเรียนสำเร็จการศึกษาแล้วก็จะกลับคืนสู่บ้านเรือนเพื่อแต่งงานมีบุตรและทำหน้าที่ผู้ครองเรือน
3. สันนยาสี เป็นช่วงเวลาของการออกบวช โดยสละชีวิตคฤหัสถ์ เพื่อออกบำเพ็ญเพียรตามหลักศาสนา
4. วานปรัสถ์ เป็นช่วงเวลามนการทำประโยชน์เพื่อสังคมประเทศชาติ คือการออกบวชเข้าสู่ป่า การออกบวชนี้อาจทำเป็นครั้งคราว แล้วกลับคืนสู่บ้านเรือนอีกก็ได้