อาเซียนก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เริ่มแรกเพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันนํามาซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม โดยผู้นําอาเซียนได้เห็นพ้องต้องกันที่จะจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community : AC) ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก อันได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political-Security Community - ASC) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) ประชาคมสังคม -วัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community - ASCC) และ เร่งรัดกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียนให้แล้วเสร็จภายในปีพ.ศ. 2558
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของอาเซียนเริ่มมีเป้าหมายชัดเจนที่จะนําไปสู่การรวมตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอาเซียน นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 4 ณ ประเทศ สิงคโปร์เมื่อปี 2535 โดยได้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ขึ้น และนับแต่นั้นมากิจกรรมของอาเซียนได้ขยายครอบคลุมไปสู่ทุกสาขาหลักทางเศรษฐกิจ รวมทั้งในด้านการค้าสินค้าและบริการ การลงทุน มาตรฐานอุตสาหกรรมและการเกษตร ทรัพย์สินทางปัญญา การขนส่ง พลังงาน และการเงิน การคลัง เป็นต้น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่สําคัญ มีดังนี้
1. เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area หรือ AFTA) ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA เป็นข้อตกลงทางการค้าสําหรับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดทําขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน ในฐานะที่เป็นการผลิตที่สําคัญในการป้อนสินค้าสู่ตลาดโลก โดยอาศัยการเปิดเสรีด้านการค้า การลดภาษีและยกเลิกอุปสรรคข้อกีดขวางทางการค้าที่มิใช่ภาษี เช่น การจํากัดโควต้านําเข้า รวมทั้งงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีศุลกากรเพื่อเอื้ออํานวยต่อการค้าเสรีโดยข้อตกลงนี้จะครอบคลุมสินค้าทกชนิด ยกเว้น สินค้าที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงศีลธรรม ชีวิต และศิลปะอย่างไรก็ตามประเทศสมาชิกต้องให้สิทธิประโยชน์ทางศุลกากรแก่กันแบบต่างตอบแทนหมายความว่าการที่ได้สิทธิประโยชน์จากการลดภาษีของประเทศอื่นสําหรับสินค้าชนิดใด ประเทศสมาชิกนั้นต้องประกาศลดภาษีสําหรับสินค้าชนิดเดียวกัน
2. เขตการลงทุนอาเซียน (ASEAN Investment Area หรือ AIA)
ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 5 เมื่อเดือนธันวาคม 2538 ที่กรุงเทพฯ ได้เห็นชอบให้จัดตั้งเขตการลงทุนอาเซียนเพื่อเสริมสร้างอาเซียน ให้เป็นเขตการลงทุนเสรีที่มีศักยภาพโปร่งใสเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งจากภายในและภายนอก ภูมิภาค ความตกลงนี้ ครอบคลุมการลงทุนใน อุตสาหกรรม 5 สาขา คือ สาขาอุตสาหกรรมการ ผลิต เกษตร ประมง ป่าไม้และเหมืองแร่และภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับ 5 สาขาการผลิตดังกล่าว ยกเว้นการลงทุนด้านหลักทรัพย์และการลงทุนในด้านซึ่งครอบคลุมโดยความตกลงอาเซียนอื่น ๆ
เขตการลงทุนอาเซียนกําหนดให้ประเทศสมาชิกดําเนินการเปิดอุตสาหกรรมและ ให้การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติแก่นักลงทุนอาเซียนและนักลงทุนนอกอาเซียนโดยกําหนดเป้าหมายจะเปิดเสรีด้านการลงทุนแก่นักลงทุนอาเซียนภายในปี2553 และนักลงทุนนอกอาเซียนภายในปี 2563 การดําเนินการเพื่อจัดตั้งเขตการลงทุนอาเซียนประกอบด้วยโครงการความร่วมมือ 3 โครงการ คือ
-โครงการความร่วมมือและการอํานวยความสะดวก (Co-operation and Facilitation Programme)
- โครงการส่งเสริมและสร้างความเข้าใจ (Promotion and Awareness Programme)
- การเปิดเสรี (Liberalisation Programme)
3.ความริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration) เพื่อลดช่องว่างด้านการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกเก่า (ไทย มาเลเซีย ฟิ ลิปปินส์สิงคโปร์บรูไน อินโดนีเซีย) กับสมาชิกใหม่ของ อาเซียน (พม่า ลาว กัมพชาู และเวียดนาม) โดยให้ประเทศสมาชิกเก่าร่วมกันจัดทำโครงการให้ความ ช่วยเหลือแก่ประเทศใหม่ ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การรวมตัวทางเศรษฐกิจเพื่อที่จะช่วยการพัฒนากรอบ กฎระเบียบและนโยบาย รวมทั้งช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศ CLMV ในการลดปัญหา ความยากจน ยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรพัฒนาระบบข้าราชการ และเตรียมความพร้อมต่อการแข่งขันบนเวทีโลก
4. ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม (ASEAN Industrial Cooperation Scheme หรือ AICO)
โครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน หรือ AICO มุ่งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานการผลิต โดยยึดหลักของการใช้ทรัพยากรร่วมกันการแบ่งส่วนการผลิตตามความสามารถและความถนัดตลอดจนส่งเสริมการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากทั้งประเทศสมาชิกและประเทศนอกกลุ่มโดยใช้มาตรการทางภาษีและสิทธิพิเศษอื่นๆที่มิใช่ภาษีเป็นสิ่งจูงใจโดยมีเงื่อนไขดังนี
4.1 จะต้องมีประเทศสมาชิกเข้าร่วมอย่างน้อย 2 ประเทศ
4.2 มีบริษัทเข้าร่วมอยางน้อย 1 บริษัทในแตละประเทศ ่
4.3 สินค้าที่ผลิตได้ขั้นสุดท้าย (AICO Final Product) จะได้รับการยอมรับเสมือนสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศและจะไม่ถูกจํากัดด้วยระบบโควต้าหรือมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี
4.4 บริษัที่จะขอรับสิทธิประโยชน์จาก AICO จะต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นของคนชาติอาเซียนอย่างน้อยร้อยละ 30
4.5 ได้รับการลดภาษีนําเข้าในอัตราร้อยละ 0 - 5
5. กรอบความตกลงด้านการค้าบริการ (ASEAN Framework Agreement on Services หรือ AFAS)
ในที่ประชมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 5 เดือนธันวาคม 2538 ที่กรุงเทพฯ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ของประเทศสมาชิกอาเซียนได้ลงนามในกรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน หรือ AFAS) ซึ่งกําหนดให้เจรจาเปิดเสรีการค้าบริการ โดยจัดทำข้อผูกพันในด้าานการเปิดตลาด (market access) การให้การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment) และด้านอื่นๆ(additional commitments) การเจรจาเสรีการค้าบริการในช่วงปี 2539-2544 มุ่งเน้นการเปิดเสรีใน 7 สาขาบริการ คือ สาขาการเงิน การขนส่งทางทะเล การขนส่งทางอากาศ การสื่อสารโทรคมนาคม การท่องเที่ยว การก่อสร้างและสาขาบริการธุรกิจต่อมาในช่วงปี 2545-2549 ได้มีการขยายขอบเขตการเจรจาเปิดเสรี รวมทุกสาขา นอกจากนี้สมาชิกอาเซียนยังต้องเร่งรัดเปิดตลาดในสาขาบริการที่เป็นสาขาสําคัญ 5 สาขา ได้แก่ สาขาโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาสุขภาพ สาขาการท่องเที่ยว สาขาการบิน และสาขาบริการโลจิสติกส์ทั้งนี้ เพื่อให้อาเซียนมีความพร้อมในการก้าวไปสู่การเป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ต่อไป
6. ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ (e-ASEAN Framework Agreement)
ในการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ คร ั้ งท ี่ 4 ระหว่างวันท ี่ 24-25 พฤศจิกายน 2543 ที่ประเทศสิงคโปร์ ผู้นําของอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ร่วมกันลงนามในกรอบความ ตกลงด้านอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (e-ASEAN Framework Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ กําหนดแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสอสาร ื่ (Information Technology and Communication-ICT) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารในภูมิภาคให้สอดคล้องกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยมีมาตรการที่ครอบคลุมด้านต่างๆ 5 ด้าน คือ
6.1 การพัฒนาเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของอาเซียน (ASEAN Information Infrastructure) ให้สามารถติดต่อถึงกันได้อย่างทั่วถึงกันและด้วยความเร็วสูง และพัฒนาความร่วมมือไปสุู่การจัดตั้งห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Libraries) และแหล่งรวมข้อมูลท่องเที่ยวอิเล็กทรอนิกส์ (Tourism Portals) รวมทั้งงการจัดต้้งศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูล (Internet Exchanges) และการให้บริการเชื่อมสัญญาณเครือข่ายข้อมูลอินเตอร์เน็ต (Internet Gateways)
6.2 การอํานวยความสะดวกด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) โดยการออกกฏหมายและระเบียบด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและพัฒนาวัฒนธรรมในการทําธุรกิจโดยใช้อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การยอมรับลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งกันและกันการชําระเงินโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
6.3 ส่งเสริมและเปิดเสรีด้านการค้าสินค้าบริการ และการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) โดยประเทศสมาชิกอาเซียนจะยกเลิกภาษีและอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีสําหรับสินค้า ICT เช่น เครื่องประมวลผลอัตโนมัติเครื่องโทรสาร เครื่องบันทึกเสียงสําหรับโทรศัพท์ไดโอดและทรานซิสเตอร์แผงวงจรไฟฟ้ า ฯลฯ ภายในปี 2548 สําหรับประเทศสมาชิกอาเซียนดั้งเดิม 6 ประเทศ และภายในปี 2553 สําหรับประเทศสมาชิกใหม่ คือ กัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม
6.4 สร้างสังคมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Society) เสริมสร้างความสามารถและพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่งเสริมการพัฒนาความร ู้ความสามารถด้าน IT ของบุคลากรในอาเซียน ลดความเหลื่อมล้ำด้าน IT ภายในประเทศและระหว่างประเทศสมาชิก อํานวยความสะดวกใน การเคลื่อนย้ายแรงงานด้าน IT อย่างเสรีและส่งเสริมการใช้ IT
6.5 สร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ส่งเสริมให้มีการใช้ ICTในการบริการของภาครัฐให้มากขึ้น เช่น การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ การอํานวยความสะดวกในเรื่องข้อมูลข่าวสาร การให้บริการของภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การเสียภาษีการจดทะเบียนการค้า พิธีการศุลกากร เป็นต้น
7. ความร่วมมือด้านการเงินการคลัง (Financial Cooperation)
7.1 อาเซียนได้จัดตั้งระบบระวังภัยอาเซียน (ASEAN Surveillance Process) ขึ้นเมื่อ วันที่ 4 ตุลาคม 2541 เพื่อสอดสองดูแลสภาวะเศรษฐกิจและการเคลื่อนย้ายเงินทุนในภูมิภาค โดยให้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศสมาชิกในภูมิภาค และในโลกโดยธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและเงินทุนโดยการจัดการฝึกอบรมด้านเทคนิคแก่เจ้าหน้าที่ประเทศสมาชิก และในการจัดตั้ง ASEAN Surveillance Technical Support Unit ในสํานักงานเลขาธิการอาเซียนเพื่อสนับสนุนระบบดังกล่าว
7.2 การเสริมสร้างกลไกสนับสนุนและเกื้อกูลระหว่างกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออก (Enhancing self-help and support mechanism in East Asia) โดยได้กําหนดแนวทางความร่วมมือ กับ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่สําคัญ ได้แก่จัดทําความตกลงทวิภาคีด้านการแลกเปลี่ ยนการซื้อ-ขาย คืนเงินตราหรือหลักทรัพย์ต่างประเทศ หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งระบบเตือนภัยในภูมิภาค และการแลกเปลี่ ยนการหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาค
7.3 ความริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2543 เป็นการปรับปรุงความตกลงแลกเปลี่ ยนเงินตราอาเซียน (ASEAN Swap Arrangement - ASA) ในด้านโครงสร้างรูปแบบและวงเงิน และให้เสริมด้วยเครือข่ายความตกลงทวิภาคีระหว่างประเทศ อาเซียนกับจีนญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี (Bilateral Swap Arrangment-BSA) โดยได้ขยายให้ ASA รวมประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศแล้ว
8. ความร่วมมือด้านการเกษตรและป่าไม้ของอาเซียน และอาเซียน +3
ครอบคลุมความร่วมมือในด้านประมง ป่าไม้ปศุสัตว์พืช และอาหาร เพื่อส่งเสริมความ มั่นคงทางด้านอาหารและความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในด้านอาหารการเกษตรและผลผลิต ป่าไม้ โครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียนและประเทศอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ภายใต้สาขาต่างๆ ่ ดังนี้
8.1 การขจัดความยากจนและสร้างความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคเอเชีย
8.2 การวิจัยและพัฒนาด้านอาหาร การเกษตร ประมงและป่าไม้
8.3 การพฒนาทรัพยากรมนษยุ ์ด้านอาหาร การเกษตร ประมงและป่าไม้
8.4 การประสานงานและร่วมมือในระดับโลกและระดับภั ูมิภาคในประเด็นด้านอาหาร การเกษตร ประมงและป่าไม้
8.5 การสร้างเครือข่ายข้อมูลด้านการเกษตร
8.6 การอํานวยความสะดวกด้านการค้า
9. ความร่วมมือด้านการขนส่ง
9.1 โครงการพฒนาทางหลวงอาเซียน (ASEAN Highway Network Project) ลักษณะของโครงข่ายทางหลวงอาเซียน คือ มีทางหลวงครอบคลุม 23 สาย ทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน และจัดทำ มาตรฐานทางหลวงอาเซียน (ป้ายจราจร สัญญาณ และระบบหมายเลข)ให้เป็นแบบเดียวกัน โดยกําหนดมาตรฐานทางหลวงอาเซียน เป็น 4 ระดับ ได้แก่
- ชั้นพิเศษ-ทางด่วนที่ควบคมทางเข้า-ออก สมบรณู ์แบบ
-ชั้นท ี่ 1 ทางหลวง 4 ช่องจราจร
-ชั้นท ี่ 2 ทางหลวงลาดยาง 2 ช่องจราจร ผิวทางกว้าง 7 เมตร
-ชั้นท ี่ 3 ทางหลวงลาดยาง 2 ช่องจราจร ผิวทางกว้าง 6 เมตร
แผนที่แสดงทางหลวงอาเซียน
9.2 กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอํานวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน (ASEAN Framework Agreement on the Facilitation of Goods in Transit) มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ประเทศสมาชิกอาเซียนอนุญาตให้รถยนต์ขนส่งที่จดทะเบียนในประเทศสมาชิกหนึ่งสามารถขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังอีกประเทศหนึ่งได้
9.3 ความตกลงหลายฝ่ายและพิธีสารว่าด้วยการเปิดเสรีบริการขนส่งเฉพาะสินค้าของ อาเซียน (Multilateral Agreement on the Full Liberalization of All Cargo Air Services) มี วัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการขนส่งสินค้าในอาเซียนด้วยกันโดยเปิดเสรีเที่ยวบินขนส่งเฉพาะสินค้า ระหว่างประเทศต่างๆในกลมประเทศอาเซียนโดยไม่มีข้อจํากดทั งในเรื่องของจํานวนความจความถี่ของบริการเส้นทางบนและสิทธิรับขนการจราจรซึ่งจะทําให้การขนถ่ายสินค้าระหวางประเทศในอาเซ ียนเป็นไปได้อยางสะดวก ่ อันจะส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคสามารถเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
9.4 ความตกลงหลายฝ่ายและพิธีสารว่าด้วยการเปิดเสรีบริการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศของอาเซียน (Multilateral Agreement on the Liberalization of Passenger Air Services) การจัดทําความตกลงหลายฝ่ายว่าด้วยการเปิดเสรีการบินในส่วนของเที่ยวบินขนส่งโดยสาร เป็นการ ส่งเสริมอตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าของไทยและสอดคล้องกบนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการเปิดเสรีการบิน และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบนในภูมิภาคนี้ด้วย
10. ความร่วมมือด้านพลังงานในอาเซียน (ASEAN Energy Cooperation) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมนคงและความยั่งยืนในการจัดหาพลังานการใช้ พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในภูมิภาคอาเซียน และการจัดการด้านความต้องการพลังงานอย่าง เหมาะสม โดยคํานึงถึงปัจจัยด้านสภาพสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือกันในการแบ่งปันปิโตรเลียมใน ภาวะฉุกเฉิน โครงสร้างความร่วมมือด้านพลังงาน ประกอบด้วย การประชุมระดับรํฐมนตรีอาเซียน คณะทํางาน และคณะกรรมการ ใน 5 สาขา ได้แก่
10.1 คณะทํางานด้านถ่านหิน
10.2 คณะทํางานด้านประสทธิภาพพลงงานและการอนุรักษ์พลังงาน
10.3 คณะทํางานด้านพลงงานใหม่และพลังงาน
10.4 คณะกรรมการด้านปิโตรเลียม ซึ่งประกอบด้วยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศ สมาชิกอาเซียน
10.5 คณะกรรมการด้านการไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าการการไฟฟ้าของแต่ละประเทศการดําเนินการระยะแรกของโครงการเครือข่ายด้านพลังงานอาเซียนครอบคลุม 2 โครงการ หลัก คือโครงการเชื่อมโยงระบบสายสงไฟฟ้าอาเซียน และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติอาเซียน
แผนที่เครือข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติอาเซียน (Trans-ASEAN Natural Gas Pipeline หรือ TAGP)
11. ความตกลงด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Agreement) ความร่วมมือด้านการท่องเทยวในกรอบอาเซียนและอาเซียน + 3 ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 8 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2545 ได้ลงนามในความตกลงด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Agreement) เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโดยเน้นความร่วมมือใน 7 ด้าน คือ การอํานวยความสะดวกการเดินทางในอาเซียนและระหว่างประเทศการอํานวยความสะดวกด้านขนส่งการขยายตลาดการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ความปลอดภัยและความมั่นคงของการท่องเที่ยวการตลาดและการส่งเสริมร่วมกัน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
อาเซียนจัดการประชุมด้านการท่องเที่ยว (ASEAN Tourism Forum หรือ ATF) เป็นประจํา ทุกปีในเดือนมกราคมโดยหมุนเวียนจัดในประเทศสมาชิกนับเป็นการประชุมด้านการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่และประสบผลสําเร็จมากที่สุดในโลก โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยวของ อาเซียน โรงแรม รีสอร์ท สายการบิน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรวมถึงนักเขียนด้านการท่องเที่ยว มีโอกาสทําความรู้ จักและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และอาเซียนยังได้ริเริ่มความร่วมมือในการ จัดทําความตกลงการตรวจลงตราเพียงครั้งเดียว (Single Visa) แต่ใช้เดินทางได้หลายประเทศโดยนําร่องโดยไทยและกัมพูชา
นอกจากนี้ความตกลงด้านการท่องเที่ยวยังได้ขยายไปยังประเทศอาเซียน+3 เกาหลี จีน ญี่ปุ่น โดยมีความร่วมมือระหว่างองค์การท่องเที่ยวของไทยกับของเกาหลีเพื่อพัฒนาศกยภาพของมัคคุเทศก์ไทย และให้ประเทศ+3 เสนอแนวทางความร่วมมือกบประเทศสมาชิกอาเซียนที่ชัดเจนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน