ตั้งแต่ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South-East Asian Nations : ASEAN) ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2510 เป็นต้นมา ไทยได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในหลายๆด้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการรวมกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มอํานาจต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีะหวางประเทศ ่และช่วยให้เสียงของอาเซียนมีน้ำหนัก เพราะการที่สมาชิกทั้ง 10 ประเทศมีท่าทีเป็นหนึ่งเดียวในเวทีระหว่างประเทศจะทําให้ประเทศและกลุ่มความร่วมมืออื่นๆให้ความเชื่อถือในอาเซียนมากขึ้นท้ายที่สุดแล้วประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่ประชาชนในประเทศนั้น ๆ เช่น
1. การเพิ่มการจ้างงานและแก้ไขปัญหาความยากจนในภูมิภาคอาเซียน
แม้ว่าการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจการเพิ่มการจ้างงานและการลดปัญหาความยากจนเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่ละประเทศเป็นหลัก แต่ความร่วมมือหลายด้านของอาเซียนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจรวมถึงความเป็นอยู่ของประชาชนในภาพรวมนอกจากนี้อาเซียนยังได้วางรากฐานสําหรับการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อสร้างตลาดขนาดใหญ่ที่จะทําให้อาเซียนมีความน่าสนใจและดึงดูดการลงทุนได้เพิ่มขึ้น
2. การส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนจัดการประชุมด้านการท่องเที่ยว (ASEAN Tourism Forum-ATF หรือเอทีเอฟ)
เป็นประจําทุกปีในเดือนมกราคมโดยหมุนเวียนกันจัดในประเทศสมาชิก ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมด้านการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่และประสบความสําเร็จมากที่สุดในโลกในระหว่างการประชุมหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน อาทิ โรงแรม รีสอร์ท สายการบินและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจะมีโอกาสทําความรู้จักและเจรจาทางธุรกิจกับบริษัทนําเที่ยวผู้ประกอบธุรกิจด้านท่องเที่ยวอื่นๆรวมถึงนนักเขียนด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมมือกันเพื่ออการส่งเสริมการท่องเที่ยวและยังมีโครงการจัดทำรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในอาเซียเพื่อเผยแพร่ ในปี 2545 อาเซียนได้จัดทําความตกลงด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเปิดเสรีด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันในภูมิภาครวมถึงร่วมมือกันในการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอาเซียน
นอกจากนี้อาเซียนยังได้ริเริ่มความร่วมมือในการจัดทำความตกลงการตรวจลงตราเพียงครั้งเดียว (Single Visa) แต่ใช่ เดินทางเข้าได้หลายประเทศในลักษณะเดียวกับ Schengen Visa ของยุโรป ซึ่งนําร่องโดยไทยและกัมพูชา
3. การส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอาเซียนมีความร่วมมือเรื่องสิ่งแวดล้อมระหว่างกันหลายด้าน
ตัวอย่างหนึ่งของความร่วมมือที่เห็นได้ชัดเจนคือ การแก้ปัญหาหมอกควันซึ่งมรสาเหตุจากไฟป่าและไฟบนดินผ่านกรอบความร่วมมือเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบของปัญหาหมอกควันข้ามแดนโดยมีการจัดตั้งศูนย์ อุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียนที่สิงคโปร์เพื่อกําหนดตัวชี้วัดคุณภาพอากาศและระบบการวัดปัญหาอันตรายของไฟ
นอกจากนี้เพื่อตอบสนองต่อปัญหาไฟป่าในปี 2540-2541 อาเซียนจึงรับรองแผนปฏิบัติการแก้ปัญหามลพิษในภูมิภาค ซึ่งเป็นการรวมมาตรการต่างๆในการป้องกันไฟป่าไฟบนดินและการบรรเทาผลกระทบการศึกษาและการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นโดยในปี 2545 มีการจัดทำความตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษหมอกควันข้ามแดนซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2546
ไม่เพียงเท่านั้นอาเซียนยังมีความร่วมมือเพื่ออนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติของอาเซียน โดยกําหนดพื้นที่ 27 แห่ง ให้เป็นพื้นที่คุ้มครองในฐานะมรดกทางธรรมชาติของอาเซียนมีโครงการบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำ จัดตั้งศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพอาเซียนและโครงการฟื้นฟูป่า เสื่อมโทรมและระบบนิเวศ รวมทั้งเห็นชอบร่วมกันเรื่องการกําหนดเกณฑ์คุณภาพน้ำทะเล ตลอดจนรับรองแผนปฏิบัติงานเรื่องสิ่งแวดล้อมศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสาธารณชนในเรื่องสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ไทยยังได้ประโยชน์จากการกระชับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอาเซียนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน หมอกควันข้ามแดนและการจัดการทรัพยากรน้ำ
4. การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในภูมิภาคอาเซียน
การรับมือวิกฤตการณ์โรคซาร์สในปี 2546 ที่ทําให้มีผู้เสียชีวิตจํานวนมากในอาเซียน ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของหลายประเทศ คือ ตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือในอาเซียนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในภูมิภาค โดยร่วมมือกบประเทศอื่นๆ และองค์การอนามัยโลก
ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นําอาเซียนสมัยพิเศษร่วมกับผู้นําจีนที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2546 เพื่อหารือเกี่ยวกบความร่วมมือกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ซึ่งนําไปสู่ความร่วมมือในการตรวจสอบและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของแต่ละรายวิชาเลือก อาเซียนศึกษา หน้า 81 ต่อมาเมื่อมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก อาเซียนก็ได้ร่วมมือกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาดําเนินมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดมีการจัดตั้งคลังวัคซีนทั้งในประเทศและประเทศสมาชิกอื่นๆ เช่น สิงคโปร์และได้ร่วมกันเตรียมอุปกรณ์ป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาเซียนยังให้การรับรองแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านโรคเอดส์และมีเว็บไซต์เพื่อติดตาม สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของโรคติดต่อด้วย
5. การแก้ปัญหาการก่อการร้ายสากลอาชญากรรมข้ามชาติและการแก้ปัญหายาเสพติด
อาเซียนประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบและมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ เพื่อต่อสู่กับปัญหาการก่อการร้ายข้ามชาติและต่อต่ ้านการระดมเงินทุนของกลุ่มเหล่านี้ในการประชมสุดยอดอาเซียนน ครั้งที่ 12 เมื่อเดือนมกราคม 2550 ผู้นําอาเซียนได้ลงนาม ในอนุสัญญาต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งวางมาตรการความร่วมมือระหว่างกันในการต่อต่ ้านการก่อการ ร้ายและยังได้จัดทําสนธิสัญญาพหุภาคีว่าด้วยความช่วยเหลือทางอาญาซึ่งกันและกันเพื่ออํานวยความสะดวกสําหรับความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรมข้ามชาติซึ่งกําหนดรายละเอียดของโครงการต่างๆที่ประเทศสมาชิกต้องดําเนินเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้อีกด้วย
สําหรับความร่วมมือด้านยาเสพติดอาเซียนมีการจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติด ตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการแก ั้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน มีการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมความตระหนักรู้ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายการให้ความรู้เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดรวมถึงการรักษาและการฟื้นฟูทั้งยังมีความร่วมมือกับ สํานักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติอีกด้วย
6. การจัดการกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
การจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเพื่อการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยในพม่าอันเกิดจากการพายุไซโคลนนาร์สเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือในอาเซียนกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งนําไปสู่การส่งมอบความช่วยเหลือให้กับพม่าโดยมีอาเซียนเป็น แกนนําการจัดส่งทีมแพทย์จากอาเซียนไปช่วยผู้ประสบภัย และการจัดประชุมประเทศผู้บริจาค ซึ่งอาเซียนมีบทบาทนําร่วมกับสหประชาชาติที่กรุงย่างกุ้งของพม่า ซึ่งสามารถระดมความช่วยเหลือให้กับพม่าเพื่อการฟื้นฟูประเทศต่อไป
ทั้งนี้อาเซียนยังมีกลไกเพื่อรับมือกับภัยพิบัติผ่านคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติซึ่งจัดทำแผนปฏิบัติการฝึกอบรม การสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ในสาธารณชน
สมาชิกอาเซียนยังลงนามความตกลงว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (AHA Center) ขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกกับองค์กรระหว่างประเทศที่เป็นพันธมิตรของอาเซียนในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ
7. การส่งเสริมและปกป้องสิทธิสตรี
แม้ว่าโดยทั่วไปสถานะของสตรีในภูมิภาคเอเชียตะวนออกเฉียงใต้มีความเท่าเทียมกับบุรุษแต่อาเซียนก็ไม่ต่างจากภูมิภาคอื่นที่มีสตรีจํานวนมากต้องตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงการทําร้ายร่างกายและขบวนการค้าประเวณี ในปี 2547 รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ลงนามแถลงการณ์อาเซียนว่าด้วยการจัดการใช้ความรุนแรงต่อสตรีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN Declaration on the Elimination of Violence Against Women in the ASEAN Region) ซึ่งแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่ารัฐบาลของประเทศสมาชิกต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรี
8. การส่งเสริมให้เยาวชนในภูมิภาคมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
อาเซียนเห็นว่าเยาวชนคืออนาคตของอาเซียน และเป็นกําลังสําคัญของการสร้างประชาคมอาเซียนจึงพยายามส่งเสริมให้เยาวชนมีความใกล้ชิดและรู้จักกนมากขึ้นผ่านความร่วมมือในหลายสาขา มีการจัดค่ายเยาวชนอาเซียนและกิจกรรมสนทนาการอาเซียนอย่างต่อเนื่องขณะที่บาง ประเทศสมาชิกก็ให้ทุนการศึกษากับนักเรียนจากประเทศอาเซียนอื่นๆ เช่น สิงคโปร์จัดตั้งกองทุนเยาวชนอาเซียนเพื่อให้การสนุบสนุนการทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับเยาวชนอาเซียน
นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2517 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนโครงการเรือเยาวชนโดยเชิญเยาวชน กว่า 300 คน จากประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นให้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจําทุกปีเรือเยาวชนจะแวะเทียบที่ท่าเรือของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนสําคัญในการส่งเสริมมิตรภาพในหมู่เยาวชนของเอเชีย