สำหรับประเทศไทยระบบการแบ่งเขตพื้นที่จัดการที่ยอมรับ และนำมาใช้ในการจัดการอุทยานแห่งชาติ แบ่งออกเป็น ๖ เขต ตามระดับความเข้มข้นของการอนุรักษ์ ได้แก่
๑. เขตบริการ (Intensive Zone) เขตนี้กำหนดขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนาสิ่งก่อสร้างที่จะมีขึ้นในภายหน้า สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ และให้สามารถรองรับการขยายตัวได้มากขึ้น เขตนี้ครอบคลุมพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่ไม่กระทบ กระเทือนต่อทรัพยากรธรรมชาติ และมีสิ่งก่อสร้างอยู่แล้ว
๒. เขตเพื่อการพักผ่อนและการศึกษาหาความรู้ (Outdoor Recreation Zone) เป็นเขตที่กำหนดขึ้นไว้เพื่อการพักผ่อน และการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติรวมทั้งเป็นกันชนป้องกันการกระทบกระเทือนที่เกิดขึ้นในเขตบริการที่จะมีมากเกินไป ซึ่งจะเป็นการระบายความแออัดของการใช้พื้นที่ในเขตบริการ ให้กระจายตัวออกไปในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้โดยจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร
๓. เขตสงวนสภาพธรรมชาติ (Primitive Zone) เป็นเขตพื้นที่ที่สภาพของสังคมพืชและทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดจุดเด่นที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติหรือเป็นพื้นที่จำเป็นต้องสงวนไว้ เพื่อป้องกันแหล่งน้ำ หรือเพื่อมิให้สภาพพื้นที่นั้นเสื่อมโทรมลงกว่าเดิม
๔. เขตหวงห้าม (Strict Nature Reserve) เป็นเขตพื้นที่ที่มีสภาพธรรมชาติที่เปราะบาง หรือมีความสำคัญในทางสิ่งแวดล้อม หากได้รับความกระทบกระเทือนจากกิจกรรมของมนุษย์ ระบบนิเวศน์ก็จะสูญเสียความสมดุลไป ยากที่จะกลับคืนสู่สภาพปกติได้ พื้นที่หวงห้ามนี้ไม่เปิดให้ทำประโยชน์ด้านอื่น ยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอุทยานแห่งชาติเท่านั้น
๕. เขตฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ (Recovery Zone) เป็นบริเวณที่สภาพป่าถูกบุกรุกทำลาย แต่ยังคงสภาพธรรมชาติไว้ สามารถที่จะฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมไว้ โดยการปลูกสร้างสวนป่าในบริเวณพื้นที่นั้น
๖.เขตกิจกรรมพิเศษ (Special Use Zone) เป็นเขตที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มีกิจกรรมของประชาชนหรือของทางราชการที่เกิดขึ้น ก่อนการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยกิจกรรมเหล่านั้นอาจขัดแย้งต่อการจัดการอุทยานแห่งชาติ หรือเป็นเขตพื้นที่ที่ส่วนราชการขอใช้ประโยชน์หรือขอเพิกถอนออกจากเขตอุทยานแห่งชาติโดยกิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นภายหลังการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และอยู่ระหว่างดำเนินการกันออกจากเขตอุทยานแห่งชาติการกำหนดเขตนี้ขึ้นเพื่อให้กิจกรรมเหล่านั้นสอดคล้องกับการดำเนินงานของอุทยานแห่งชาติ และป้องกันมิให้ขยายลุกลามเป็นผลเสียหายแก่อุทยานแห่งชาติต่อไป