อุทยานแห่งชาติเป็นพื้นที่คุ้มครองของรัฐที่สำคัญยิ่ง ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติที่ให้ประโยชน์ ทั้งในแง่ของการป้องกันรักษาป่าต้นน้ำลำธาร ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน เป็นแหล่งสงวนความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับการศึกษาวิจัย และประกอบกิจกรรมนันทนาการ
ในช่วงเวลา ๒๐ปี ที่ผ่านมาการขยายและจัดการตั้งอุทยานแห่งชาติได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี และปัจจุบันอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการประกาศราชกฤษฎีกา จัดตั้งไปแล้วมีจำนวน ๑๐๓แห่ง มีอุทยานแห่งชาติที่กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการออกประกาศราชกฤษฎีกาอีก จำนวน ๔๕แห่ง จากการเพิ่มอุทยานแห่งชาติอย่างรวดเร็วนี้ พบว่า ในส่วนของประสิทธิภาพการบริหารและจัดการพื้นที่ยังไม่ได้รับการปรับปรุงเท่าที่ควร ประกอบกับปัญหาความไม่สมดุลในด้านกำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรกับขนาดพื้นที่ และขอบข่ายงานในความรับผิดชอบ ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรในพื้นที่ที่เป็นปัญหาต่อเนื่องยาวนานของอุทยานแห่งชาติและสภาพที่พื้นที่ธรรมชาติได้รับความสนใจในด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อเป็นแผนแม่บทในการจัดการอุทยานแห่งชาติแม่ยม ระยะเวลา ๕ปี ( พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๘) เป็นโครงการที่มุ่งวัตถุประสงค์หลักที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร และการจัดการพื้นที่คุ้มครองให้มีการป้องกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และใช้ประโยชน์พื้นที่เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม และประสานประโยชน์กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงได้รับการเสนอให้บรรจุไปในแผนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายใต้แผนงานพัฒนาพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในแผนพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
อุทยานแห่งชาติแม่ยม เป็นอุทยานแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญของประเทศไทยเพราะ เป็นอุทยานที่มีป่าไม้สมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะเป็นพื้นที่ที่มีไม้สักซึ่งเป็นไม้ที่มีค่ามากอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดจึงเป็นพื้นที่หนึ่งที่กำหนดให้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อเป็นแผนแม่บทในการจัดการอุทยานแห่งชาติแม่ยมระยะเวลา ๕ปี(พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๘) เพื่อการพัฒนาการจัดการให้เกิดประโยชน์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษาวิจัยต่อไป
ในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(นายณรงค์ วงศ์วรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่) ดำริให้กรมป่าไม้ทำการสำรวจป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปุง แม่เป้า จังหวัดแพร่ ซึ่งมีไม้สักที่อุดมสมบูรณ์ขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างหนาแน่นและมีทิวทัศน์ธรรมชาติอื่น ๆ ที่สวยงามหลายแหล่ง ให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจเบื้องต้น ปรากฏว่าบริเวณป่าแม่ปุง และป่าแม่งาว น้ำสวด มีป่าสักธรรมชาติที่สมบูรณ์ยิ่งในภาคเหนือ สภาพป่าโดยทั่วไปสมบูรณ์ดี เป็นป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำยม ทั้งมีทิวทัศน์และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติกรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๒๗ เมื่อวันที่ ๒๓มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๗ เห็นสมควรให้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้ชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติแม่ปุง” ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อุทยานแห่งชาติแม่ยม” เพื่อเหมาะสมตามลักษณะของพื้นที่ซึ่งมีแม่น้ำยมไหลผ่าน และลักษณะเด่นที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติแม่ยมแห่งนี้ เกิดจากแม่น้ำยมโดยได้พระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่บริเวณที่ดินป่าแม่ปุง ป่าแม่เป้า และป่าแม่สอง ในท้องที่ตำบลเตาปูน ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ และป่าแม่งาวฝั่งซ้ายในท้องที่ตำบลแม่ตีบ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๙ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๓ ตอนที่ ๓๔ ลงวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ นับเป็นอุทยานแห่งที่ ๕๑ของประเทศไทย และอันดับที่ ๒ ของจังหวัดแพร่
ที่ตั้งและอาณาเขต
อุทยานแห่งชาติแม่ยม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง อำเภอเชียงม่วนจังหวัดพะเยา อำเภอสอง จังหวัดแพร่ อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ ๑๘ องศา ๓๕ ลิปดาเหนือ ถึง ๑๘ องศา ๕๑ลิปดาเหนือ และเส้นแวงที่ ๑๐๐ องศา ๐๐ ลิปดาตะวันออก ถึง ๑๐๐ องศา ๒๐ ลิปดาตะวันออก เนื้อที่ประมาณ๔๕๔.๗๕ ตารางกิโลเมตร หรือ ๒๘๔,๒๑๘.๗๕ ไร่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยม อยู่ห่างจากอำเภอสอง จังหวัดแพร่ ประมาณ ๒๕กิโลเมตรตามเส้นทางสายสอง งาว (สายเก่า) รวมระยะทางจากจังหวัดแพร่ถึงอุทยานแห่งชาติแม่ยมประมาณ ๗๐กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ ๖๓๐ กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติแม่ยมมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
ทิศเหนือ จดอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา
ทิศตะวันออก จดอำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน
ทิศตะวันตก จดอำเภองาว จังหวัดลำปาง
ทิศใต้ จดอำเภอสอง จังหวัดแพร่
สภาพทั่วไปของอุทยานแห่งชาติแม่ยม
ภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติแม่ยม โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทั้งทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของพื้นที่ มีแม่น้ำยมไหลผ่านตอนกลาง ซึ่งเทือกเขาสูงดังกล่าวนี้ทำให้เกิดต้นน้ำที่สำคัญไหลลงสู่แม่น้ำยม เช่น แม่น้ำยม ห้วยเค็ด ห้วยปุย ห้วยเลิม ห้วยแม่สะกึ๋น ห้วยแม่ปุ๊เป็นต้น สภาพโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติแม่ยมเป็นป่าเบญจพรรณซึ่งมีไม้สักและไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจอื่นๆได้แก่ ไม้แดง ไม้มะค่าโมง ไม้ประดู่ และไม้ตะแบก นอกจากนี้ป่าเบญจพรรณ ซึ่งเป็นป่าส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้แล้ว จะพบป่าเต็งรังทางตอนเหนือของพื้นที่ และป่าดิบแล้งซึ่งพบตามริมห้วยที่สำคัญๆมีน้ำไหลตลอดทั้งปีและทางด้านตะวันออกของพื้นที่อุทยานก็มีลักษณะสภาพป่าเป็นป่าดิบแล้งที่ไม่มีไม้สัก จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติแม่ยมได้แก่ ดงสักงาม แก่งเสือเต้น หล่มด้ง ดงสักงามมีลักษณะเป็นป่าไม้ที่มีไม้สักขึ้นอยู่มากและหนาแน่น โดยเฉพาะริมฝั่งแม่ยม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปุง แม่เป้า ไม้สักที่ขึ้นมีขนาดสูงใหญ่งดงามมาก คล้ายกับไม้สักที่ปลูกในสวนป่าส่วนแก่งเสือเต้นเป็นเกาะแก่งธรรมชาติในแม่น้ำยมมีความยาวประมาณ ๒กิโลเมตร ชื่อของแก่งเสือเต้นมีความเป็นมาจากลักษณะของหินธรรมชาติก้อนหนึ่งในแก่งแห่งนี้ปรากฏเป็นรอยตีนเสือ สามารถแบ่งแยกสภาพของป่าไม้ และการใช้ที่ดินได้เป็น ๑๐ประเภท ดังนี้
๑.ป่าดิบแล้ง
๒.ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักบ้างเล็กน้อย
๓. ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักผสมไม้ไผ่เป็นส่วนมาก
๔. ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักผสมป่าเต็งรังและป่าไผ่
๕.ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักหนาแน่น
๖.ป่าเต็งรังหนาแน่น
๗.ป่าเต็งรังเบาบาง
๘.นาข้าว
๙.พื้นไร่ และสวนผลไม้
๑๐.แหล่งน้ำ