ประชาคมเศรษฐกิจ (ASEAN Economic Comunity : AEC) เป็นการรวมกลุ่มของประเทศสมาชิกของอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ที่เน้นให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 8 เมื่อ เดือนพฤศจิกายน 2545 โดยเห็นชอบให้
อาเซียนกำหนดทิศทางการดำเนินงานเพื่อมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้อาเซียนปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานภายในของกลุ่มอาเซียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งในการประชุมสุดยอดอาเซียนในปี2546 ผู้นำอาเซียนได้ออกแถลงการณ์เห็นชอบให้มีการรวมตัวไปสู่การเป็ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 และเร่งรัดการรวมกลุ่ม เพื่อเปิดเสรีสินค้าและบริการสำคัญใน 12 สาขา ได้แก่ การท่องเที่ยว การบินยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตร ประมง เทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพ และ โลจิสติกส์
“ประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียน” ภายในปี 2585 เพื่อที่จะให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้ โดยยึดหลัก ดังนี้
1. มุ่งที่จะจัดตั้งให้อาเซียนเป็นตลาดเดียวและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน
2. มุ่งให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน สินค้า การบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือระหว่างประเทศสมาชิกโดยเสรี
3. ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน (ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สหภาพพม่า และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หรือ CLMV)
4. ส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหภาค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมความร่วมมือด้านกฎหมาย การพัฒนาความร่วมมือด้านการเกษตร พลังงานการท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ผู้นำอาเซียนได้ลงนามรับรองกฎบัตรอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 20พฤศจิกายน 2550 ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของการก่อตั้งอาเซียน ณ ประเทศสิงค์โปร์ เพื่อให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงความก้าวหน้าของอาเซียนที่จะก้าวเดินไปด้วยกันอย่างมั่นใจระหว่างประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ
และถือเป็นประวัติศาสตร์จะปรับเปลี่ยนอาเซียนให้เป็นองค์กรที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลในฐานะที่เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาล ทั้งนี้ประเทศสมาชิกได้ให้สัตยาบันเป็น กฎบัตรอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศแล้ว เมื่อวันที่ 15พฤศจิกายน 2551 ดังนั้นกฎบัตรอาเซียนจึงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area หรือ AFTA)เขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA เป็นข้อตกลงทางการค้าสำหรับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด ทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัของอาเซียน ในฐานะที่เป็นการผลิตที่สำคัญในการป้อนสินค้าสู่ตลาดโลก
เขตการลงทุนอาเซียน (ASEAN Investment Area หรือ AIA)
ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 5 เมื่อเดือนธันวาคม 2538 ที่กรุงเทพฯ ได้เห็นชอบให้จัดตั้งเขตการลงทุนอาเซียน เป็นเขตการลงทุนเสรีที่มีศักยภาพโปร่งใสเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งจากภายในและภายนอกภูมิภาค ความตกลงครอบคลุมการลงทุนในอุตสาหกรรม 5 สาขา คือ สาขาอุตสาหกรรมการผลิต เกษตรประมง ป่าไม้ และเหมืองแร่
ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม (ASEAN Industrial Cooperation Scheme หรือ AICO)ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน เป็นโครงการความร่วมมือที่มุ่งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานการผลิต โดยยึดหลักของการใช้ทรัพยากรร่วมกัน การแบ่งส่วนการผลิตตามความสามารถ และความถนัด
ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ (e-ASEAN FrameworkAgreement)ผู้นำของอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ ร่วมกันลงนามในกรอบความตกลงด้านอิเล็กทรอนิกส์ของ
อาเซียน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่กำหนดแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร
ความร่วมมือด้านการเกษตรและป่าไม้ของอาเซียน และอาเซียน + 3 (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาชนเกาหลี และญี่ปุ่น)
เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียน และประเทศอาเซียน + 3 (สาธารณรัฐประชาชนจีนสาธารณรัฐประชาชนเกาหลี และญี่ปุ่น) ที่ครอบคลุมความร่วมมือในด้านการประมง ป่าไม้ ปศุสัตว์ พืช และ
อาหารการเกษตร เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางด้านอาหารและความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในด้านอาหารและผลผลิตป่าไม้
ความตกลงด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Agreement)เป็นความร่วมมือเพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว โดยเน้นความร่วมมือใน 7 ด้าน คือ การอำนวยความสะดวกการเดินทางในอาเซียนและระหว่างประเทศ การอำนวยความสะดวกด้านขนส่ง การขยายตลาดการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของการท่องเที่ยว การตลาดและการส่งเสริมร่วมกัน และการพัฒนทรัพยากรมนุษย์
1) ขยายการส่งออกและโอกาสทางการค้า จากการยกเลิกอุปสรรคภาษีและที่มิใช่ภาษีจะเปิดโอกาสให้สินค้าเคลื่อนย้ายเสรี
2) คาดว่าการส่งออกไทยไปอาเซียนจะสามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 18 - 20% ต่อปี
3) เปิดโอกาสการค้าบริการ ในสาขาที่ไทยมีความเข้มแข็ง เช่น ท่องเที่ยว โรงแรมอาหาร และสุขภาพ ทำให้ไทยมีรายได้จากการค้าบริการจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
4) สร้างเสริมโอกาสการลงทุน เมื่อมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนได้เสรียิ่งขึ้นอุปสรรคการลงทุนระหว่างอาเซียนจะลดลง อาเซียนจะเป็นเขตการลงทุนที่น่าสนใจทัดเทียมประเทศจีนและอินเดีย
5) เพิ่มพูนขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย เมื่อมีการใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกัน/เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับอาเซียนอื่น ๆ ทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงแข่งขัน (Comparative Advantage)และลดต้นทุนการผลิต
6) เพิ่มอำนาจการต่อรองของไทยในเวทีการค้าโลก สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาคมโลก
7) ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ ผลการศึกษา แสดงว่า AEC จะ
1) การเปิดตลาดเสรีการค้าและบริการย่อมจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้ประกอบการในประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันต่ำ
2) อุตสาหกรรมและผู้ประกอบการในประเทศต้องเร่งปรับตัว