ภาคเหนือ ในภาคเหนือมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จากการที่ลักษณะภูมิประเทศของภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นทิวเขาและมีที่ราบหุบเขาสลับกันแต่พื้นที่ราบมีจำกัด ทำให้ประชากรตั้งถิ่นฐานอย่างหนาแน่นตามที่ราบลุ่มแม่น้ำ ทรัพยากรที่สำคัญ คือ
1) ทรัพยากรดิน ทั้งดินที่ราบหุบเขา ดินที่มีน้ำท่วมถึง และดินที่เหลือค้างจากการกัดกร่อน
2) ทรัพยากรน้ำ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. น้ำบนผิวดิน ได้แก่ แม่น้ำลำธาร หนองบึงและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ แม้ว่าภาคเหนือจะมีแม่น้ำลำธาร แต่บางแห่งปริมาณน้ำก็ไม่เพียงพอ
2. น้ำใต้ดิน ภาคเหนือมีน้ำใต้ดินที่อยู่ในรูปของน้ำบ่อและบ่อบาดาล จึงสามารถใช้บริโภคและทำการเกษตรได้
3) ทรัพยากรแร่ มีเหมืองแร่ในทุกจังหวัดของภาคเหนือ แร่ที่สำคัญได้แก่ ดีบุก ทังสเตน พลวงฟลูออไรด์ ดินขาว ถ่านลิกไนต์และน้ำมันปิโตรเลียม
4) ทรัพยากรป่าไม้ ภาคเหนือมีอัตราพื้นที่ป่าไม้ต่อพื้นที่ทั้งหมดมากกว่าทุกภาค จังหวัดที่มีป่าไม้มากที่สุด คือ เชียงใหม่ ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณและป่าแดง ไม้ที่สำคัญคือ ไม้สัก
5) ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว ภาคเหนือมีธรรมชาติที่สวยงาม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมวิวทิวทัศน์ มีทั้ง น้ำตก วนอุทยาน ถ้ำ บ่อน้ำร้อน ส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากไทยล้านนา นิยมเรียกคนภาคเหนือว่า “คนเมือง” ประชากรในภาคเหนือสามารถรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเช่น ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีทานสลากหรือตานก๋วยสลาก ประเพณีลอยกระทง
ภาคตะวันตก เนื่องจากทิวเขาในภาคตะวันตกเป็นทิวเขาที่ทอดยาวมาจากภาคเหนือ ดังนั้นลักษณะภูมิประเทศจึงคล้ายกับภาคเหนือ คือ เป็นทิวเขาสูงสลับกับหุบเขาแคบ ซึ่งเกิดจากการเซาะของแม่น้ำ ลำธารอย่างรวดเร็ว ทิวเขาส่วนใหญ่เป็นหินค่อนข้างเก่า ส่วนใหญ่เป็นหินปูน พบมากที่จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรีและเพชรบุรี ภูเขาหินปูนเหล่านี้จะมียอดเขาหยักแหลมตะปุ่มตะป่ำ ที่ราบลุ่มแม่น้ำแม่กลองมีทรัพยากรที่สำคัญคือ
1) ทรัพยากรดิน ดินในภาคตะวันตกส่วนใหญ่เกิดจากการผุพังของหินปูน ดินจึงมีสภาพเป็นกลางหรือด่าง ซึ่งถือว่าเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการเพาะปลูก
2) ทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันตกเป็นภาคที่มีฝนตกน้อยกว่าทุกภาคในประเทศ เพราะอยู่ในพื้นที่อับฝน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. น้ำบนผิวดิน ได้แก่ แม่น้ำ ลำธาร หนองบึงและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ แม้ว่าจะมีฝนตกน้อยเพราะมีทิวเขาตะนาวศรีและทิวเขาถนนธงชัยขวางลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ดังนั้นฝนจึงตกมากบนภูเขา ซึ่งในภาคตะวันตกมีป่าไม้และแหล่งต้นน้ำลำธารอุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นหุบเขาจำนวนมาก จึงเหมาะอย่างยิ่งในการสร้างเขื่อน เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์เขื่อนเขาแหลม เขื่อนแก่งกระจาน และเขื่อนปราณบุรี
2. น้ำใต้ดิน ภาคตะวันตกมีการขุดบ่อบาดาล ปริมาณน้ำที่ขุดได้ไม่มากเท่ากับน้ำบาดาลในภาคกลาง
3) ทรัพยากรแร่ ภาคตะวันตกมีหินอัคนีและหินแปร มีดีบุกซึ่งพบในหินแกรนิต ทังสเตน ตะกั่วสังกะสี เหล็ก รัตนชาติ และหินน้ำมัน
4) ทรัพยากรป่าไม้ ภาคตะวันตกมีความหนาแน่นของป่าไม้รองจากภาคเหนือ จังหวัดที่มีป่าไม้มากที่สุด คือ จังหวัดกาญจนบุรี
5) ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นภูเขา ถ้ำ น้ำตก เขื่อน อุทยาน-แห่งชาติ ฯลฯประชากร ภาคตะวันตกเป็นภาคที่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุด จังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด คือ จังหวัดราชบุรี
ภาคกลาง ภูมิประเทศในภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ เพราะแม่น้ำหลายสายไหลผ่านทำให้เกิดการทับถมของตะกอนและมีภูเขาชายขอบ พื้นที่แบ่งได้เป็น 2 เขตย่อย คือ ภาคกลางตอนบน เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำและที่ราบลูกฟูก มีเนินเขาเตี้ย ๆ สลับเป็นบางตอน ในเขตภาคกลางตอนล่าง คือตั้งแต่บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ลงมาจนถึงอ่าวไทย มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงและเป็น ลานตะพักลำน้ำ (Stream Terrace)ทรัพยากรที่สำคัญคือ
1) ทรัพยากรดิน ภาคกลางมีดินที่อุดมสมบูรณ์กว่าภาคอื่น ๆ เพราะเกิดจากการทับถมของโคลนตะกอนที่มากับแม่น้ำประกอบกับมีการชลประทานที่ดี จึงทำการเกษตรได้ดี เช่น การทำนา
2) ทรัพยากรน้ำ ภาคกลางเป็นภาคที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. น้ำบนผิวดิน มีแม่น้ำที่สำคัญหล่อเลี้ยง คือ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปีเนื่องจากมีแม่น้ำสายเล็ก ๆ จำนวนมากไหลลงมาสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีการชลประทานที่ดี เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่ คือ บึงบอระเพ็ด ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2. น้ำใต้ดิน เนื่องจากภาคกลางมีลักษณะเป็นแอ่งขนาดใหญ่ จึงมีบริเวณน้ำบาดาลมากที่สุดของประเทศ
3) ทรัพยากรแร่ หินในภาคกลางส่วนใหญ่เป็นหินเกิดใหม่ที่มีอายุน้อย มีหินอัคนีซึ่งเป็นหินเก่าพบได้ทางตอนเหนือและชายขอบของภาคกลางและมีน้ำมันที่จังหวัดกำแพงเพชร
4) ทรัพยากรป่าไม้ ภาคกลางมีพื้นที่ป่าไม้น้อยมาก จังหวัดที่มีป่าไม้มากคือจังหวัดที่อยู่ทางตอนบนของภาค คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก อุทัยธานี สุโขทัยและกำแพงเพชร
5) ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นน้ำตกและแม่น้ำ ซึ่งปัจจุบันแม่น้ำหลายสายจะมีตลาดน้ำให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมมีวนอุทยาน ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานีนอกจากนี้ยังมีโบราณสถานที่เป็นมรดกโลก เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาประชากร ภาคกลางเป็นภาคที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือประชากรส่วนใหญ่จะหนาแน่นมากในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก จังหวัดที่ติดกับชายทะเลก็จะมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น นอกจากนี้ภาคกลางจะมีอัตราการเพิ่มของประชากรรวดเร็วมาก เนื่องจากมีการอพยพเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่กันมาก การประกอบอาชีพของประชากร ภาคกลางมีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งทรัพยากรดินและน้ำนับเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ ในภาคกลางตอนบนประกอบอาชีพทำนาข้าวและทำไร่ (ข้าวโพด อ้อยมันสำปะหลัง) รองลงมาคือ อุตสาหกรรม
ภาคตะวันออก เป็นภาคที่เล็กที่สุด ตอนเหนือของภาคมีภูมิประเทศเป็น ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นหุบเขาแคบ ๆมีที่ราบตามหุบเขา เรียกว่า ที่ราบดินตะกอนเชิงเขาตอนใต้ของภาคเป็นที่ราบชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกมีทรัพยากรที่สำคัญ คือ
1) ทรัพยากรดิน ดินส่วนใหญ่ไม่ค่อยสมบูรณ์ เพราะเป็นดินร่วนปนทรายและน้ำฝน จะชะล้างดิน เหมาะแก่การปลูกพืชสวน เช่น ทุเรียน เงาะ ระกำ สละ มังคุด ฯลฯ
2) ทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันออกมีน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากแม่น้ำในภาคตะวันออกเป็นแม่น้ำสายสั้น ๆ ทำให้การสะสมน้ำในแม่น้ำมีน้อย
3) ทรัพยากรแร่ ภาคตะวันออกมีแร่อยู่บ้าง เช่น เหล็ก แมงกานีส พลวง แต่มีแร่ที่มีชื่อเสียงคือ แร่รัตนชาติ เช่น พลอยสีแดง พลอยสีน้ำเงินหรือไพลินและพลอยสีเหลือง โดยผลิตเป็นสินค้าส่งออกไปขายยังต่างประเทศ
4) ทรัพยากรป่าไม้ ป่าไม้ในภาคตะวันออกจะเป็นป่าดงดิบและป่าชายเลน แต่ก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เพราะมีการขยายพื้นที่การเกษตร สร้างนิคมอุตสาหกรรม ฯลฯ
5) ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว เป็นภาคที่มีทรัพยากรท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ชายทะเล เกาะต่างๆ น้ำตก ฯลฯประชากร มีอาชีพที่สำคัญ คือ
1. การเพาะปลูก มีการทำนา ทำสวนผลไม้ ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด ระกำ สละ สวนยางพาราทำไร่อ้อย และมันสำปะหลัง
2. การเลี้ยงสัตว์ เป็นแหล่งเลี้ยงเป็ดและไก่ โดยเฉพาะที่จังหวัดชลบุรีและฉะเชิงเทรา
3. การทำเหมืองแร่ ภาคตะวันออกเป็นแหล่งที่มีแร่รัตนชาติมากที่สุด เช่น ทับทิม ไพลินบุษราคัม ส่งผลให้ประชากรประกอบอาชีพเจียรนัยพลอยด้วย โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรีและตราด
4. อุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น การผลิตเสี่อจันทบุรี เครื่องจักสาน
5. การท่องเที่ยว เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงามจากชายทะเลและเกาะต่าง ๆ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงสร้างรายได้ให้กับภูมิภาคนี้เป็นอย่างมาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นที่ราบสูงแอ่งกะทะและยังมีที่ราบลุ่มแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลที่เรียกว่า แอ่งโคราช ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะมีแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีไหลผ่าน จึงมักจะมีน้ำท่วมเมื่อฤดูน้ำหลาก มีทรัพยากรที่สำคัญ คือ
1) ทรัพยากรดิน ดินในภาคนี้มักเป็นดินทราย ไม่อุ้มน้ำ ทำให้การเพาะปลูกได้ผลน้อยแต่ก็สามารถแบ่งได้ตามพื้นที่ คือบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ แม่น้ำชี แม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง จะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมากนิยมปลูกผักและผลไม้ ส่วนที่เป็นน้ำขังมักเป็นดินเหนียว ใช้ทำนาบริเวณลำตะพักลำน้ำ ส่วนใหญ่เป็นดินทราย ใช้ทำนาได้แต่ผลผลิตน้อย เช่น ทุ่งกุลาร้องไห้บริเวณที่สูงกว่านี้ นิยมปลูกมันสำปะหลังบริเวณที่สูงและภูเขา เนื้อดินหยาบเป็นลูกรัง ที่ดินนี้มักเป็นป่าไม้
2) ทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีปัญหาในเรื่องของน้ำมากกว่าภาคอื่น ๆ แม้ว่าฝนจะตกหนัก แต่ในหน้าแล้งจะขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและการบริโภค น้ำในภาคนี้ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือน้ำบนผิวดิน ได้แก่ น้ำในแม่น้ำชี แม่น้ำมูลและแม่น้ำสายต่าง ๆ ในฤดูฝน จะมีปริมาณน้ำมาก แต่ในฤดูแล้งน้ำในแม่น้ำจะมีน้อย เนื่องจากพื้นดินเป็นดินทราย เมื่อฝนตกไม่สามารถอุ้มน้ำได้ ส่วนน้ำในแม่น้ำลำคลองก็มีปริมาณน้อย เพราะน้ำจะซึมลงพื้นทราย แต่ภาคนี้ถือว่าโชคดีที่มีเขื่อน อ่างเก็บน้ำและฝายมากกว่าทุก ๆ ภาคน้ำใต้ดิน ปริมาณน้ำใต้ดินมีมาก แต่มีปัญหาน้ำกร่อยและน้ำเค็ม การขุดบ่อต้องขุดใกล้แหล่งแม่น้ำเท่านั้น หรือต้องขุดให้ลึกจนถึงชั้นหินแข็ง
3) ทรัพยากรแร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแร่โพแทชมากที่สุด จะมีอยู่มากบริเวณตอนกลางและตอนเหนือของภาค นอกจากนี้ยังมีแร่เกลือหินมากที่สุดในประเทศไทย
4) ทรัพยากรป่าไม้ ป่าไม้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นป่าแดง ซึ่งเป็นป่าผลัดใบเป็นป่าโปร่ง ป่าแดงชอบดินลูกรังหรือดินทราย เช่น ไม้เต็ง รัง พลวง พะเยา ฯลฯ
5) ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่นวิวทิวทัศน์ (ภูกระดึง) เขื่อน ผาหิน (จังหวัดอุบลราชธานี) หลักฐานทางโบราณคดี (จังหวัดอุดรธานี)ประชากร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีประชากรหนาแน่นอาศัยอยู่ตามแอ่งโคราบริเวณที่ราบลุ่มของแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล
การประกอบอาชีพของประชากร ประชากรประกอบอาชีพที่สำคัญ คือ
- การเพาะปลูก เช่น การปลูกข้าว การทำไร่ (ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ปอ ยาสูบ)
- การเลี้ยงสัตว เช่น โค กระบือ และการประมงตามเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ
- อุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นการแปรสภาพผลผลิตทางการเกษตร เช่น โรงสีข้าว
โรงงานมันสำปะหลังอัดเม็ด โรงงานทำโซดาไฟ (จากแร่เกลือหิน และแร่โพแทช)
ภาคใต้ ลักษณะภูมิประเทศของภาคใต้เป็นคาบสมุทร มีทิวเขาสูงทอดยาวจากเหนือจรดใต้ มีทะเลขนาบทั้ง 2 ด้าน ทิวเขาที่สำคัญ คือ ทิวเขาภูเก็ต ทิวเขานครศรีธรรมราชและทิวเขาสันกาลาคีรี และมีแม่น้ำตาปีซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวและมีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้
1) ทรัพยากรดิน ลักษณะดินของภาคใต้จะมี 4 ลักษณะ คือ
1. บริเวณชายฝั่ง เป็นดินทราย ที่เหมาะแก่การปลูกมะพร้าว
2. บริเวณที่ราบ ดินบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ เกิดจากการทับถมของตะกอนเป็นชั้นๆ
ของอินทรีย์วัตถุ นิยมทำนา
3. บริเวณที่ดอนยังไม่ได้บอกลักษณะดิน นิยมปลูกปาล์มน้ำมัน และยางพารา
4. บริเวณเขาสูง มีลักษณะเป็นดินที่มีหินติดอยู่ จึงไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก
2) ทรัพยากรน้ำ แม่น้ำส่วนใหญ่ในภาคใต้เป็นสายสั้น ๆ แต่ก็มีน้ำอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีฝนตกเกือบตลอดปี แต่บางแห่งยังมีการขุดน้ำบาดาลมาใช้
3) ทรัพยากรแร่ แร่ที่สำคัญในภาคใต้ ได้แก่ ดีบุก (จังหวัดพังงา) ทังสเตน เหล็ก ฟลูออไรด์ ยิปซั่มดินขาว ถ่านหินลิกไนต์
4) ทรัพยากรป่าไม้ ป่าไม้ในภาคใต้เป็นป่าดงดิบและป่าชายเลน
5) ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมาก เช่น ทิวทัศน์ตามชายฝั่งทะเลเกาะ และอุทยานแห่งชาติทางทะเล น้ำตก สุสานหอยล้านปีที่จังหวัดกระบี่ประชากร ประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นตามที่ราบชายฝั่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปถึงจังหวัดปัตตานี เพราะเป็นที่ราบผืนใหญ่การประกอบอาชีพของประชากร อาชีพที่สำคัญ คือ
- การทำสวน เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมันและสวนผลไม้
- การประมง ทำกันทุกจังหวัดที่มีชายฝั่งทะเล
- การทำเหมืองแร่ดีบุก
- การท่องเที่ยว ภาคใต้มีภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากมายหลายแห่ง เช่น ทิวทัศน์ชายฝั่งทะเล เกาะแก่งต่าง ๆ ฯลฯ
ลักษณะประชากรของทวีปเอเชีย เอเชียเป็นทวีปที่ใหญ่และมีประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลกถือเป็นทวีปแหล่งอารยธรรม เพราะเป็นดินแดนที่ความเจริญเกิดขึ้นก่อนทวีปอื่น ๆ ประชากรรู้จักและตั้งถิ่นฐานกันมาก่อน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณชายฝั่งทะเลและที่ราบลุ่มแม่น้ำต่าง ๆ เช่น ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ลุ่มแม่น้ำแดงและลุ่มแม่น้ำคงคา ส่วนบริเวณที่มีประชากรเบาบางจะเป็นบริเวณที่แห้งแล้งกันดารหนาวเย็นและในบริเวณที่เป็นภูเขาซับซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณกลางทวีป
ประชากรในเอเชียประกอบด้วยหลายเชื้อชาติ ดังนี้
1) กลุ่มมองโกลอยด์ มีจำนวน 3 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดของทวีป มีลักษณะเด่น คือผิวเหลือง ผมดำเหยียดตรง นัยน์ตารี จมูกแบน อาศัยอยู่ในประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย
2) กลุ่มคอเคซอยด์ เป็นพวกผิวขาว หน้าตารูปร่างสูงใหญ่เหมือนชาวยุโรป ตา ผมสีดำ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และภาคเหนือของอินเดีย ได้แก่ ชาวอาหรับ ปากีสถาน อินเดีย เนปาล
3) กลุ่มนิกรอยด์ เป็นพวกผิวดำ ได้แก่ ชาวพื้นเมืองภาคใต้ของอินเดีย พวกเงาะซาไก มีรูปร่างเล็ก ผมหยิก นอกจากนี้ยังอยู่ในศรีลังกาและหมู่เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
4) กลุ่มโพลิเนเซียน เป็นพวกผิวสีคล้ำ อาศัยอยู่ตามหมู่เกาะแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ชนพื้นเมืองในหมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซีย
1) เกษตรกรรมการเพาะปลูก นับเป็นอาชีพที่สำคัญในเขตมรสุมเอเชีย ได้แก่ เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ทำการเพาะปลูกประมาณร้อยละ 70 - 75 % ของประชากรทั้งหมด เนื่องจากทวีปเอเชียมีภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำอันกว้างใหญ่หลายแห่ง มีที่ราบชายฝั่งทะเล มีภูมิอากาศที่อบอุ่น
2) อุตสาหกรรม ได้แก่
1. การทำเหมืองแร่ ทวีปเอเชียอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและแร่เชื้อเพลิง ได้แก่ แร่เหล็กถ่านหิน ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีการทำเหมืองแร่มากที่สุดในทวีปเอเชีย ส่วนถ่านหินเอเชียผลิตถ่านหินมากที่สุดในโลก แหล่งผลิตสำคัญคือ จีน อินเดีย รัสเซีย และเกาหลี แร่เหล็ก ผลิตมากในรัสเซีย อินเดียและจีน
2. อุตสาหกรรมทอผ้า ผลิตภัณฑ์จากไม้และหนังสัตว์ ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้ หลายประเทศในเอเชียเริ่มจากอุตสาหกรรมในครัวเรือน แล้วพัฒนาขึ้นเป็นโรงงานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
3) พาณิชยกรรม ได้แก่ การส่งสินค้าออกและสินค้านำเข้าประเทศ สินค้าที่ผลิตในทวีปเอเชียที่เป็นสินค้าออกส่วนมากจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคและวัตถุดิบ ได้แก่ ข้าวเจ้า กาแฟ ชา น้ำตาล เครื่องเทศยางพารา ฝ้าย ไหม ปอ ป่าน ขนสัตว์ หนังสัตว์ ดีบุก ฯลฯ ญี่ปุ่นและจีนมีปริมาณการค้ากับต่างประเทศมากที่สุดในทวีป