ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ Good Laboratory Practice (GLP)
โดย อรณี ตั้งเผ่า ประพันธ์ ภาณุภาค : การพัฒนาระบบคุณภาพทางห้องปฏิบัติการสู่มาตรฐานสากล
1. บทนำ
เมื่อกล่าวถึง Good Laboratory Practice หรือ GLP นั้น ยังมีความเข้าใจกันอยู่ค่อนข้างหลากหลาย ในที่นี้จะได้สรุปความเป็นมาของ GLP ที่เป็นมาตรฐานที่ยอมรับในระดับสากลโดยนำเกณฑ์อ้างอิงมาจากการพัฒนายา ในระยะที่เป็น non-clinical เป็นหลัก อย่างไรก็ดีในความเข้าใจของนักวิจัยทั่วไป analytic assay ของตัวอย่าง (specimen) ที่ได้จากการทำวิจัยทางคลินิกก็จำเป็นต้องมีมาตรฐานในระดับ GLP ด้วยเพื่อสนับสนุนให้ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยว่าถูกต้องหรือเชื่อถือได้
GLP ตามนิยามที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปคือ ระบบคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขององค์กร (organizational process) และสภาวะในการศึกษาด้านสุขภาพและความปลอดภัยในระยะก่อนคลินิก (pre-clinic) โดยต้องมีการวางแผนการศึกษาที่ชัดเจน มีการดำเนินการที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ และมีการบันทึกตลอดจนรายงานได้อย่างมีระบบและเชื่อถือได้ จะเห็นว่า GLP ครอบคลุมมากกว่าการที่จะดูเฉพาะสถานการณ์ที่เกิดจริงในห้องปฏิบัติการเท่านั้น จึงแบ่งการอธิบายถึง GLP เป็นหลายหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
2. ที่มาของ GLP
Activity1 ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันตอบ ในหัวข้อต่อไปนี้
1) GLP มีจุดเริ่มต้นความเป็นมาอย่างไร
2) GLP ตามความเข้าใจของเรา หมายถึงอะไร
3) GLP มีความจำเป็นหรือไม่ต่อชีวิตประจำวัน เพราะเหตุใด
Activity2 ต่างคนต่างดู ต่างคนต่างศึกษา แล้วช่วยกันตอบ โดยศึกษาจาก
วิดีโอ ต่อไปนี้ เพื่อตอบคำถามว่า
GLP มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง
เมื่อราวปี พ.ศ. 2513 มีการนำเสนอข้อมูลในการพัฒนายาในห้องปฏิบัติการให้กับองค์การอาหารและยา (Food and Durg Administration, FDA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีเหตุให้ชวนสงสัยว่า ข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง ตลอดจนวิธีการปฏิบัติการวิจัยอาจไม่ตรงไปตรงมากับที่ได้แจ้งไว้ในส่วนวิธีการทดลอง จึงมีการตรวจสอบเกิดขึ้น ปรากฏว่าข้อมูลดังกล่าว ได้มาจากการทำวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐานและมีการปกปิด ตลอดจนนำเสนอข้อมูลอย่างลำเอียงและไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค จึงได้มีการพยายามจัดทำมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในการทำวิจัยเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการขึ้นทะเบียนยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ FDA จึงได้ทำมาตรฐานขึ้นโดยให้ผู้ที่จะขอขึ้นทะเบียนยา ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนวิจัย เป็นผู้รับผิดชอบในการทำการทดลองในห้องปฏิบัติการให้ได้มาตรฐานที่กำหนด มิฉะนั้นข้อมูลที่ได้จะไม่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กฏเกณฑ์ (regulation) ของ GLP ได้ถูกนำเสนอให้นำมาใช้เป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 โดยจุดประสงค์จะให้ข้อมูลจากการทดลองที่สามารถให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพแก่สาธารณชน
นอกจากหน่วยงาน FDA ที่เข้ามามีบทบาทในการควบคุมคุณภาพห้องปฏิบัติการทดลองแล้ว อีกหน่วยงานหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมากคือ หน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (United States Environment Protection Agency หรือ EPA) หน่วยงานนี้ได้ออกกฎเกณฑ์ เพื่อควบคุมในเชิงความปลอดภัยของสารเคมีที่นำมาใช้ในทางเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องมีการทดสอบผลต่อสุขภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีดังกล่าวและนำเสนอ EPA เพื่อขอรับอนุมัติในการนำมาใช้ EPA ได้ออกกฎควบคุมครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 และมีการปรับปรุงอีกในปี พ.ศ. 2532 ข้อกำหนดตาม GLP ทั้งที่ออกโดย FDA และ EPA มีความใกล้เคียงกันมากและถูกนำมาใช้อ้างอิงสำหรับกฎเกณฑ์อื่น ๆ
หลังจากที่ได้มีการประกาศเรื่อง GLP โดย FDA ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไม่นานนัก OECD หรือ Organization for Economic Cooperation and Development ได้รวบรวมและตีพิมพ์ GLP ได้รวบรวมและตีพิมพ์ GLP ต่าง ๆ ที่ได้มีการจัดทำขึ้น และประเทศสมาชิกของ OECD สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในแต่ละประเทศได้ ในประเทศทางยุโรป ECC หรือ Commission of the European Community ได้รวบรวม และออกข้อกำหนดสำหรับประเทศในแถบยุโรปให้ใช้มาตรฐานเดียวกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีการทำแนวทาง (guideline) โดยรายละเอียดในเรื่อง การตรวจสอบเครื่องมือ การสอบเทียบ (calibration) การตรวจทั้งหลาย และมีการตีพิมพ์โดย International Organization for Standardization หรือ ที่คุ้นเคยกันในชื่อ ISO
ในระยะหลัง ๆ มีการนำ automated system มาใช้มากขึ้นรวมทั้งการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการหาข้อมูลทาง FDA ของสหรัฐอเมริกาจึงออกข้อกำหนดเสริมเพื่อให้ครอบคลุมการปฏิบัติการในกลุ่มนี้ซึ่งเรียกว่า GALP หรือ Good Automated Laboratory Practice ซึ่งเป็นข้อเสริมจาก GLP เดิมเท่านั้น ไม่สามารถแทน GLP ได้ทั้งหมด ในประเทศอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน ในเรื่องคุณภาพของผลงานวิจัย ที่ได้รับจากการทำวิจัยก็อาจไม่ได้รับความเชื่อถือในบางประเทศทีมีการจัดทำมาตรฐานระดับประเทศอื่น เช่น ในประเทศเยอรมันนี หน่วยงานที่เรียกว่า Chemilaliengesetz ก็เป็นผูรับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา เน้นผู้มีหน้าที่ควบคุมโดยกฏหมายและได้ออกมาตรการเพื่อให้การทำวิจัยเป็นไปด้วยความถูกต้องและเชื่อถือได้
ในประเทศที่กำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย ได้มีหน่วยงานหลายฝ่ายที่ได้พยายามรวบรวมและนำแนวทาง (Guideline) ต่าง ๆ มาใช้ อย่างไรก็ดียังไม่มีการจัด GLP ที่เป็นระดับชาติแต่มักอ้างอิงถึงแนวทางที่มีอยู่จากที่อื่น ระบบขององค์การอาหารและยาในปัจจุบันยังไม่ได้มีการครอบคลุมถึงคุณภาพของงานวิจัยที่นำมาอ้างอิงเพื่อการขึ้นทะเบียนของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างชัดเจน แต่ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้เชี่ยวชาญที่ต้องพิจารณาเอกสารต่าง ๆ
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพการทำการทดลองในห้อง ปฏิบัติการ และมาตรฐานห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้มีความถูกต้องแต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ในประเทศที่กำลังพัฒนา ทางองค์การอนามัยโลกได้ออกร่างแนวทางอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า Good Drug Quality Control laboratory Practices ซึ่งได้อ้างถึง ISO 17025 EN 45001 และ OECD - GLP โดยร่างฉบับนี้ได้แจกจ่ายไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อขอความเห็นจากผู้ปฏิบัติและทุกระดับที่เกี่ยวข้อง โดยในแนวทางนี้จะเน้นถึงยาหรือผลิตภัณฑ์ทางยา (pharmaceutical product) เท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงสารเคมีอื่น ๆ
3. ใครควรปฏิบัติตาม GLP
ดังที่กล่าวมาแล้วว่า GLP เริ่มต้นด้วยการควบคุมคุณภาพของห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนายา หรือผลิตภัณฑ์ในระยะก่อนคลินิก (pre-clinic) ซึ่งมุ่งเน้นถึงเรื่องความปลอดภัยของสารหรือยาเหล่านั้นเป็นหลัก คำถามที่มักมีเข้ามาอยู่เสมอคือ ใครบ้างหรือห้องปฏิบัติการใดบ้างควรปฏิบัติตามมาตรฐาน GLP หลายครั้งมีการนำเอาหลักปฏิบัติการที่เน้นห้องปฏิบัติการเพื่อการบริการมาพิจารณาร่วมด้วย เนื่องจากมีหลายประเด็นใน GLP แนวทางที่สอดคล้องและนำมาประยุกต์ได้กับการประกันคุณภาพหรือมาตรฐานอื่น ๆ เช่น ISO เป็นต้น
อย่างไรก็ดี จากความเข้าใจพื้นฐานและที่มาของ GLP ที่มีขึ้นเพื่อพัฒนามาตรฐานของการทดลองในระยะก่อนคลินิกนั้น การทดลองวิจัยที่ต้องอ้างอิงตาม GLP ได้แก่
- การศึกษาความปลอดภัยของยาในระหว่างการพัฒนายา
- การศึกษาพัฒนาสารเคมีเพื่อกำจัดแมลงหรือวัชพืชเพื่อใช้ในทางเกษตรกรรม
- การพัฒนาสารเคมีที่มีความเห็นพิษทั้งหลาย
- การพัฒนาสารปรุงแต่งที่นำมาใช้กับอาหาร
- การทดสอบสารที่สามารถระเบิดได้
ส่วนในบางกรณี GLP อาจไม่มีความจำเป็นมากนัก เนื่องจากเหตุผลที่แตกต่างกันไป ได้แก่
- การศึกษาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic research)
- การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ใหม่ ๆ
- การทดสอบส่วนประกอบของอาหารที่มีการจำหน่ายอยู่แล้วในท้องตลาด
สำหรับประเทศไทย นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้พบว่ามีการนำหลักการและวิธีการของ GLP มาใช้ในการให้บริการทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งที่ใช้กันค่อนข้างแพร่หลายและขยายตัวได้รวดเร็วเนื่องจากเป็นงานที่กว้างกว่าการวิจัย การยอมรับ GLP มักได้รับข้อมูลมาในรูปแบบที่คู่ไปกับการประกันคุณภาพ ซึ่งอาจไม่ตรงกับวัตถุประสงค์เริ่มต้นของ GLP แต่ก็มีประโยชน์เพราะหลักการหลายอย่างคาบที่เกี่ยวกัน และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับห้อง ปฏิบัติการอีกแบบหนึ่งที่จำเป็นต้องอ้างอิงมาตรฐาน GLP ก็คือห้องปฏิบัติการที่จะทำการตรวจตัวอย่างที่ได้มาจากการวิจัยทางคลินิก จะไม่สามารถนำผลการตรวจที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้ถ้าห้องปฏิบัติการไม่ได้มาตรฐาน การพัฒนาศักยภาพของห้องปฏิบัติการ ในส่วนนี้จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดเทคโนโลยี (technology transfer) ซึ่งจะได้ผลกับประเทศชาติดีกว่าการส่งตัวอย่างต่าง ๆ ไปวิเคราะห์ในต่างประเทศเนื่องจากไม่เชื่อถือความสามารถห้องปฏิบัติการในประเทศไทย
มาตรฐานของห้องปฏิบัติการตาม GLP นั้นจะไม่สมบูรณ์ ถ้าขาดการระบุติดตามและตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสามารถพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป การพัฒนาห้องปฏิบัติการนั้นต้องพัฒนาทั้งบุคลากร ระบบและระบบการตรวจสอบ ควบคู่กันไปเสมอ
4. ผลดีของการปฏิบัติตาม GLP
GLP มีวัตถุประสงค์ในการนำมาใช้เป็นแนวทางมาตรฐานของการปฏิบัติ เพื่อให้การทำการทดลองทางห้องปฏิบัติการเป็นไปได้โดยถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์และได้มาตรฐาน ถึงแม้ในระยะเริ่มต้นเป็นการมองในแง่ของการวิจัยเพื่อพัฒนายาหรือสารเคมีต่าง ๆ ว่าควรมีความปลอดภัย (Safety) หรือดูความเป็นพิษ (toxicity) เท่านั้น ซึ่งเป็นการควบคุมจากฝ่ายนโยบายในการขึ้นทะเบียนยา ในระยะหลังขอบข่ายของ GLP ขยายไปมาขึ้นเรื่อย ๆ และมีการนำมาประยุกต์ใช้กับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งในกรณีการวิจัย การให้บริการตามกระแสของการประกันคุณภาพและการพัฒนาเข้าสู่มาตรฐานระดับสากล
ดังนั้นการปฏิบัติตาม GLC จึงเป็นการปรับมาตรฐานของการทำการทดลองให้เข้าสู่ระดับสากล เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับมีความน่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคหรือผู้ป่วยที่มารับการบริการ นอกจากการที่จะให้ผลที่ได้เป็นที่ยอมรับน่าเชื่อถือและสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในระดับนานาชาติการที่ห้องปฏิบัติได้มาตรฐานก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพของการทำการวิจัยครบวงจรในการพัฒนายา และยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำการศึกษาวิจัยทางคลินิกในประเทศไทย
การยกระดับมาตรฐานของห้องปฏิบัติการนั้น จัดว่าเป็นการประกันคุณภาพของผลงานวิจัยที่ได้ในระดับหนึ่ง และในการพัฒนาระบบนี้จะเป็นการพัฒนาบุคลากรไปพร้อม ๆ กัน มาตรฐาน GLP จะแตกต่างกันไปบ้างในรายละเอียดแต่หลักการใหญ่ยังคงไว้เสมอคือ การใช้มาตรฐานในการทำการทดลองทางห้องปฏิบัติการมาช่วยเพื่อให้ได้ผลงานที่ยอมรับได้ในระดับชาติและนานาชาติ ทั้งนี้เพื่อปกป้องผู้บริโภคหรือผู้ป่วยที่จะเกี่ยวข้องกับยาหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
1. Good Drug Quality Control Laboratory Practices 1999.
2. OECD Principles of Good Laboratory Practice OECD Environmental Health and Safety Publications. Series on Principles of Good Laboratory Practice and Compliance Monitoring No.1 (Revised in 1997).
ต่างคนต่างดู ต่างคนต่างศึกษา แล้วช่วยกันตอบ
Activity3 จากเนื้อหา ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ GLP จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพื่อ ตอบคำถามต่อไปนี้ (แบบทดสอบเรื่อง GLP)