การวิเคราะห์ข้อมูลและความเชื่อมั่น
การประกันคุณภาพ
คือการกำหนดแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อมั่นของขอมูลที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ เช่น มีการดูแลรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ มีการสอบเทียบเครื่องมือ การตรวจสอบ และทวนสอบผลการวเคราะห์ เป็นต้น จึงต้องมีการควบคุมคุณภาพ
Activity1
จากการทดลองวัดมวลโลหะก้อนหนึ่งขนาด 100.00 กรัม ด้วยเครื่องชั่ง ทศนิยม 2 ตำแหน่ง 2 เครื่อง โดยทำการทดลองชั่ง 4 ครั้ง ได้น้ำหนักทั้ง 4 ครั้ง ดังตาราง
ความสำคัญของการควบคุมคุณภาพ
การควบคุมคุณภาพ คือการดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่ารายงานหรือข้อมูลมีความถูกต้อง แม่นยำ ตรงตามข้อกำหนดที่ระบุไว้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความเชื่อถือ และเชื่อมั่นในข้อมูล เป็นหลักการปฏิบัติที่กำหนดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ข้อมูลการติดตามตรวจสอบที่มีคณภาพดี นาเชื่อถือ ถูกต้อง แมนยำ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญโดย
1) ทำให้มั่นใจว่าเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ใช้วิเคราะห์มีความเหมาะสมสามารถ ตรวจวัดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ
2) เป็นการควบคุมมาตรฐานการปฏิบัตงานของบุคลากร หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
3) สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังข้อมูลดิบได้ในกรณีที่ยังสงสัยข้อมูลนั้น
การประกันและควบคุมคุณภาพ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1) การควบคุมคุณภาพในภาคสนาม เช่น พารามิเตอร์บางอย่างที่วัดค่า ณ จุดนั้น กระบวนการในการเก็บตัวอย่าง อย่างถูกวิธี
2) การควบคุมคุณภาพในห้องปฏิบัติการ
การควบคุมคุณภาพข้อมูล เป็นกระบวนการก่อนการรายงานผลกลับไปยัง เจ้าของผู้จ้าง/เจ้าของโครงการ โดยประกอบด้วยการตรวจสอบตามลำดับดังนี้
1) การตรวจสอบเลขนัยสำคัญ
2) การตรวจสอบหน่วย
3) การตรวจสอบว่าไม่มีข้อมูลผิดปกติ
4) ตรวจสอบการกระจายของข้อมูล
5) การคำนวณค่าเฉลี่ย ค่ากลาง ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการกระจายแบบต่างๆ
6) เปรียบเทียบข้อมูลโดยการทำกราฟ
7) ตรวจสอบความคลาดเคลื่อนแบบสมมาตร
8) ตรวจสอบความคลาดเคลื่อนต่อเนื่อง
ในการตรวจสอบว่าไม่มีข้อมูลผิดปกติ การกระจายของข้อมูลปกติ ความคลาดเคลื่อนต่างๆ จากการวัดยอมรับได้หรือไม่นั้น พิจารณาได้จากความถูกต้องและความเที่ยงของข้อมูล
ความถูกต้องและความเที่ยงของข้อมูล (Accuracy and Precistion)
ในการได้มาของชุดข้อมูลจากการตรวจวิเคราะห์ ตัวเลขที่ได้จากการวัดกับค่าจริงมักมีค่าไม่เท่ากัน ความแตกต่างเกิดได้หลายลักษณะ เช่น อาจได้ค่าที่วัดใกล้เคียงกับค่าจริง ทั้งเชิงบวกหรือเชิงลบ เรียกว่าเกิดการคลาดเคลื่อน(error) หรือเกิดการกระจายของตัวเลขข้อมูล มีการกระจายแคบหรือมีการกระจายกว้าง เกิดเป็นความไม่แน่นอนของการวัด (uncertainty) ในทางกระบวนการวัดทางวิทยาศาสตร์นิยมใช้คำว่า Accuracy (ความแม่นตรง) คือค่าที่ได้จากการวัดใกล้เคียงค่าจริง(True value) หรือค่าที่ยอมรับได้ของการวัด และ Precistion (ความเที่ยง) ความใกล้เคียงของผลการวัดจากการวัดที่เหมือนกัน
จากรูปตัวอย่างเปรียบเทียบข้อมูลแสดงลักษณะของ Accuracy และ Precistion รูปแบบต่างๆ
พิจารณาจากข้อมูล ในตาราง แล้วตอบคำถามต่อไปนี้
1) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของมวลที่ชั่งด้วยเครื่องชั่ง 1 และเครื่องชั่ง 2
2) เปรียบเทียบความเที่ยง (Precistion) ของผลจากการชั่งด้วยตาชั่ง 2 เครื่องนี้
3) ตาชั่งใดสมควรมีการสอบเทียบ
Activity2
การวัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ ในข้อใดที่ความเที่ยงของเทอร์โมมิเตอร์สำคัญกว่าความแม่น
จงให้เหตุผล
1) การเปรียบเทียบจุดหลอมเหลวของสารตัวอย่างกับค่าอ้างอิงในตาราง
2) การวัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ เมื่อมีการเติมสารเคมีลงในน้ำ
(a) Consistent measurements close to the actual input means an instrument has good accuracy and precision. (b) Random errors result in poor repeatability but can still lead to an accurate measurement. (c) Consistent measurements that don't reflect the actual signal may be repeatable but are inaccurate. (d) Random errors not close to the actual value lack accuracy and repeatability.
เอกสารอ้างอิง
1 http://infofile.pcd.go.th/water/control_sea.pdf?CFID=1326140&CFTOKEN=55973145
(มาตรฐานารตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำทะเล)
2 www.diw.go.th/km/other/pdf/เกณฑ์ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์.pdf
(เกณฑ์มาตรฐานการวิเคราะห์ที่ดีของโรงงานอุตสาหกรรม)