การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
(Object-Oriented Programming: OOP)
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
(Object-Oriented Programming: OOP)
📝 ผู้รับการประเมิน
ชื่อ-นามสกุล | นางสาวชลธิชา สีกลม
เกิดเมื่อวันที่ | 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2548
เชื่อชาติ | ไทย สัญชาติ | ไทย ศาสนา | พุทธ
ภูมิลำเนาปัจจุบัน | วิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย 11 ม.1 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 21120
📝 ผู้รับการประเมิน
ชื่อ-นามสกุล | นางสาวนงนภัส กลิ่นสุวรรณ
เกิดเมื่อวันที่ | 10 ตุลาคม พ.ศ.2548
เชื่อชาติ | ไทย สัญชาติ | ไทย ศาสนา | พุทธ
ภูมิลำเนาปัจจุบัน | วิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย 11 ม.1 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 21120
ส่วนที่ 1️⃣ | ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับรายวิชา
ออกแบบส่วนติดต่อกับผู ้ใช้แบบกราฟฟิก (GUI) และเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุตามหลักการ ด้วยความละเอียด รอบคอบ
1.2 จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้
1. เข้าใจเกี่ยวกับหลักการและขั้นตอนวิธีการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
2. มีทักษะการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
3. มีความสามารถประยุกต์ใช้การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุสำหรับงานธุรกิจ
4. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ละเอียด รอบคอบ
1.3 สมรรถนะรายวิชา
1. ประมวลความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการเขียนโปรมแกรมด้วยภาษาเชิงวัตถุตามหลักการ
2. เขียนโปรมแกรมขนาดเล็กสำหรับงานธุรกิจตามหลักการ
3. ประยุกต์ใช้การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุสำหรับงานธุรกิจ
1.4 คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการและขั้นตอนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ตัวแปร และตัวดำเนินการ คำสั่งควบคุมการทำงาน คลาสและอ็อบเจกต์ (Class and Object) การจัดการคุณสมบัติของโปรแกรมเชิงวัตถุ การห่อหุ้ม (Encapsulation) การซ่อนสารสนเทศ (Information Hiding) การสืบทอด (Inheritance) และการฟ้องรูป (Polymorphism) ออกแบบส่วนติดต่อกับผู ้ใช้แบบกราฟฟิก (GUI) การตรวจหาและแก้ไข ข้อผิดพลาดของโปรแกรม (Testing and Debugging) การจัดทำคู่มือในการใช้งานโปรแกรม วางแผน การฝึกอบรมติดตั้งระบบการใช้งานโปรแกรมให้กับลูกค้า กรณีศึกษาการเขียนโปรแกรมขนาดเล็ก สำหรับงานธุรกิจ
ส่วนที่ 2️⃣ | ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ชื่อประเด็นท้าท้าทาย ➡️การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ Object-oriented programming นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 1
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การมีแนวคิดพื้นฐานที่เป็นนามธรรม เช่น การสืบทอด (Inheritance), โพลีมอร์ฟิซึม (Polymorphism) และการห่อหุ้มข้อมูล (Encapsulation) ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับนักศึกษาที่ไม่มีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมมาก่อน จึงทำให้เกิดความสับสนและขาดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง เนื่องจากการเขียนโปรแกรมต้องการการฝึกฝนเป็นประจำ นักศึกษาหลายคนอาจไม่สามารถฝึกทักษะนี้นอกเวลาเรียนได้มากพอ ทำให้ขาดทักษะและความมั่นใจในความเข้าใจหลักการ OOP และไม่สามารถเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อนได้ ซึ่งการบรรยายเพียงอย่างเดียวอาจทำให้นักศึกษาไม่มีโอกาสเรียนรู้เชิงลึกผ่านการลงมือทำจริง ส่งผลให้การเข้าใจหลักการเชิงทฤษฎีไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ในทางปฏิบัติ ทำให้นักศึกษาที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมอาจตามไม่ทัน หรือมีความเครียดที่ต้องเรียนรู้แนวคิด OOP ในระยะเวลาสั้น ๆ ขณะที่นักศึกษาที่มีพื้นฐานอยู่แล้วอาจรู้สึกว่าเนื้อหาช้าเกินไป
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ต้องรู้ ควรรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้พื้นฐาน
2. วิเคราะห์ความสามารถในออกแบบเทคโนโลยีเบื้องต้นของผู้เรียน และจัดกลุ่มผู้เรียนระดับ เก่ง ปานกลางและอ่อน
3. ศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Thinking Based Learning ในรายวิชานักศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 1
4. ศึกษาเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการออกแบบ และคิดคำนวณ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดของผู้เรียน
5. พัฒนาหน่วยการเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Active Learning
6.จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Active Learning
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
1) นักศึกษาควรมีอัตราการผ่านรายวิชาไม่น้อยกว่า 80%
2) นักศึกษา 75% สามารถตอบคำถามทฤษฎีเกี่ยวกับ OOP ได้ถูกต้อง
3) นักศึกษาสามารถพัฒนาโครงงานขนาดเล็กได้อย่างน้อย 2 โครงงาน และแบบฝึกหัด/การบ้านที่แสดงการใช้หลักการ OOP ได้อย่างน้อย 5 ชิ้น
3.2 เชิงคุณภาพ
1) นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบโปรแกรมโดยแยกส่วนประกอบต่างๆ เป็นคลาสและอ็อบเจกต์ได้อย่างมีโครงสร้างและสัมพันธ์กัน
2) นักศึกษาสามารถใช้หลักการ Encapsulation, Inheritance, Polymorphism และ Abstraction เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความซับซ้อนในโปรแกรม
3) นักศึกษามีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ปัญหาได้ดีขึ้น และสามารถสร้างแผนการเขียนโปรแกรมที่มีความเป็นระบบ สามารถคิดแบบเชิงตรรกะในการสร้างอัลกอริทึมที่ซับซ้อนได้
4) นักศึกษาสามารถทำงานกลุ่มและร่วมกันพัฒนาโปรแกรมได้อย่างราบรื่น ทั้งยังสามารถอธิบายโค้ดที่เขียนในเชิง OOP ให้เพื่อนร่วมทีมเข้าใจและปรับปรุงโค้ดร่วมกันได้