การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือ Object-Oriented Programming (OOP) เป็นรูปแบบหนึ่งของการเขียนโปรแกรมที่เน้นการใช้ "วัตถุ" (Objects) และ "คลาส" (Classes) เป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม แนวคิดนี้มุ่งเน้นการจำลองวัตถุในโลกจริงเข้าไปในโปรแกรม ซึ่งทำให้สามารถจัดการกับข้อมูลและพฤติกรรมของโปรแกรมได้อย่างเป็นระบบและมีโครงสร้าง
หลักการสำคัญของ OOP ได้แก่:
การห่อหุ้ม (Encapsulation): การซ่อนรายละเอียดการทำงานภายในของวัตถุ ทำให้สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย
การสืบทอด (Inheritance): ความสามารถในการนำโค้ดจากคลาสหนึ่งไปใช้ในคลาสใหม่ ซึ่งทำให้การเขียนโปรแกรมมีความยืดหยุ่นและโค้ดซ้ำลดลง
การมีหลายรูปแบบ (Polymorphism): ความสามารถของวัตถุที่สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบผ่านการใช้เมธอดเดียวกัน
การเชื่อมโยง (Abstraction): การซ่อนรายละเอียดซับซ้อนและแสดงเฉพาะส่วนที่จำเป็นในการใช้งาน ช่วยให้โปรแกรมอ่านง่ายขึ้นและลดความซับซ้อน
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การจัดการกับโปรแกรมที่มีความซับซ้อนและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้:
ยุคเริ่มต้น (ทศวรรษ 1960): แนวคิดการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเกิดขึ้นจากการพัฒนาโปรแกรมจำลองโลกเสมือนจริง โดย Ole-Johan Dahl และ Kristen Nygaard จากนอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโปรแกรมภาษา Simula ในปี ค.ศ. 1967 ภาษานี้ถือเป็นภาษาการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุภาษาแรก โดยมีการใช้แนวคิดของคลาสและวัตถุเพื่อจำลองสถานการณ์โลกจริง
การพัฒนา Smalltalk (ทศวรรษ 1970): ภาษาการเขียนโปรแกรม Smalltalk ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Alan Kay และทีมงานที่ Xerox PARC ในปี ค.ศ. 1972 ซึ่ง Smalltalk เป็นภาษาที่ใช้หลักการของ OOP อย่างเต็มที่ โดยมีการใช้วัตถุและคลาสในรูปแบบที่ชัดเจน ส่งผลให้ Smalltalk กลายเป็นต้นแบบสำหรับภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุในยุคต่อมา
การเข้าสู่กระแสหลัก (ทศวรรษ 1980-1990): แนวคิด OOP เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในภาษาการเขียนโปรแกรมเช่น C++ (พัฒนาจากภาษา C) และ Objective-C ซึ่งในช่วงนี้นักพัฒนาต่างเห็นถึงข้อดีของการใช้ OOP ในการพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่ เช่น ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย
การเติบโตในยุคใหม่ (ทศวรรษ 1990-ปัจจุบัน): OOP ได้รับการยอมรับมากขึ้นด้วยการเกิดของภาษา Java และ C# ซึ่งทำให้ OOP กลายเป็นมาตรฐานในการพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมสำหรับเว็บและมือถือ นอกจากนี้ ภาษาโปรแกรมยอดนิยมอื่น ๆ เช่น Python และ Ruby ก็ได้นำหลักการของ OOP มาใช้ด้วย
การประยุกต์ใช้ในเทคโนโลยีสมัยใหม่: ปัจจุบัน OOP ยังคงเป็นแนวคิดหลักในการพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ร่วมกับแนวคิดใหม่ ๆ เช่น การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน, การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ, และการพัฒนา AI ซึ่งหลายภาษาพัฒนาโครงสร้างให้สามารถรองรับ OOP ได้อย่างเต็มรูปแบบ