8.2 ตัวอย่างการใช้ try, catch, finally 

ตัวอย่างการใช้ try, catch, finally ใน Java 

public class TryCatchFinallyExample {

    public static void main(String[] args) {

        try {

            int[] numbers = {1, 2, 3};

            System.out.println("Accessing element: " + numbers[5]);

        } catch (ArrayIndexOutOfBoundsException e) {

            System.out.println("Error: " + e.getMessage());

        } finally {

            System.out.println("End of try-catch-finally block.");

        }

คำอธิบาย

• try: ส่วนนี้คือที่ที่เราจะใส่โค้ดที่อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด ในตัวอย่างนี้พยายามเข้าถึงอาร์เรย์ที่อยู่นอกขอบเขต ซึ่งจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดแบบ ArrayIndexOutOfBoundsException

• catch: เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น จะเข้ามาในบล็อก catch และแสดงข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไร

• finally: บล็อกนี้จะทำงานเสมอไม่ว่าจะมีข้อผิดพลาดหรือไม่ โดยจะแสดงข้อความ "End of try-catch-finally block."

ตัวอย่างการใช้ try, except, finally ใน Python 

try:

    numbers = [1, 2, 3]

    print("Accessing element:", numbers[5])

except IndexError as e:

    print("Error:", e)

finally:

    print("End of try-except-finally block.")

คำอธิบาย

• try: บล็อกนี้มีโค้ดที่อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด เช่น การเข้าถึงข้อมูลในอาร์เรย์ที่อยู่นอกขอบเขต

• except: เมื่อเกิดข้อผิดพลาดประเภท IndexError จะเข้ามาในบล็อกนี้และแสดงข้อความข้อผิดพลาด

• finally: บล็อกนี้จะทำงานเสมอโดยจะแสดงข้อความ "End of try-except-finally block."