ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
ใช้รหัสผ่านซับซ้อน ไม่ซ้ำ และใช้ Password Manager เช่น LastPass หรือ 1Password ช่วยจัดการ
เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA)
เปิดใช้งานการยืนยันผ่าน SMS, Email, หรือแอป Authenticator
อัปเดตซอฟต์แวร์สม่ำเสมอ
ตั้งค่าอัปเดตอัตโนมัติของแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการ
ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและ Firewall
ใช้ Antivirus เช่น Bitdefender, Norton และเปิด Firewall ในระบบปฏิบัติการเสมอ
สำรองข้อมูล (Backup) เป็นประจำ
เก็บข้อมูลสำคัญไว้บน Cloud หรือ External Drive อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ระวังอีเมลและลิงก์น่าสงสัย (Phishing)
ตรวจสอบผู้ส่งและ URL ก่อนกดลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์เสมอ
ระมัดระวัง Wi-Fi สาธารณะ
หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมสำคัญผ่าน Wi-Fi สาธารณะ หรือใช้ VPN ป้องกันข้อมูลรั่วไหล
จำกัดการเปิดเผยข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว และหลีกเลี่ยงโพสต์ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน
เปิดการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย และตรวจสอบบัญชีสม่ำเสมอ
ใช้อีเมลสำรองเพื่อสมัครบริการออนไลน์
ใช้อีเมลแยกจากอีเมลหลักเพื่อหลีกเลี่ยง Spam และ Phishing
ป้องกันกล้อง Webcam และไมโครโฟน
ปิดอุปกรณ์หรือใช้ฝาปิด Webcam เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ตั้งค่า Auto Lock บนอุปกรณ์
ตั้งล็อกหน้าจออัตโนมัติหลังไม่มีการใช้งานในทุกอุปกรณ์
จำกัดการใช้ Bluetooth
ปิด Bluetooth เมื่อไม่ได้ใช้ เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล้างข้อมูล Cookie และ Cache
ตั้งค่าให้เบราว์เซอร์ลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อปิดใช้งาน
ตรวจสอบ Permissions ของแอปพลิเคชัน
อนุญาตสิทธิ์แอปเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
ตั้งค่า Private Wi-Fi ที่บ้าน
ใช้การเข้ารหัส WPA3 หรือ WPA2 และตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง
ระวังการใช้งาน QR Code
สแกน QR Code เฉพาะจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบ URL ที่ปรากฏก่อนเข้าใช้งาน
ใช้งาน Incognito Mode
ใช้โหมดส่วนตัวของเบราว์เซอร์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีข้อมูลสำคัญ
ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ต
ใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูลของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบการรั่วไหลข้อมูล
หลีกเลี่ยงซอฟต์แวร์และแอปที่หมดอายุการสนับสนุนหรือซอฟต์แวร์เถื่อน
ถอนการติดตั้งแอปหมดอายุทันที และใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันภัยจากมัลแวร์