รวบรวมเครื่องมือสนับสนุนการผลิตสื่อการศึกษา
https://toptools4learning.com/
AI หมายถึง ระบบที่สามารถเลียนแบบพฟติกรรมของมนุษย์ได้
ตัวอย่างของ AI ที่ใช้ในการศึกษา เช่น แชทบอทช่วยตอบคำถามนักเรียน เป็นต้น (ตัวอย่าง AI ที่ใช้ในการศึกษามีอะไรบ้าง)
ตัวอย่าง AI ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่:
Chatbots สำหรับการสอน (Conversational AI)
ตัวอย่าง: Duolingo
อธิบาย: Duolingo ใช้ AI ในการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ โดยให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดและโต้ตอบกับแชทบอทที่สามารถให้คำแนะนำหรือปรับระดับความยากง่ายของคำถามได้ตามความสามารถของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ในรูปแบบที่สนุกและมีประสิทธิภาพ
ระบบแนะนำบทเรียน (Recommendation Systems)
ตัวอย่าง: Coursera หรือ edX
อธิบาย: ใช้ AI เพื่อแนะนำคอร์สเรียนหรือเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้เรียนตามประวัติการเรียนรู้และความสนใจของพวกเขา เช่น แนะนำคอร์สที่เกี่ยวข้องกับทักษะที่ยังขาดหรือเนื้อหาที่ผู้เรียนให้ความสนใจมากที่สุด ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนเนื้อหาที่เหมาะสมกับความต้องการได้ง่ายขึ้น
ระบบตรวจจับการลอกเลียนข้อสอบ (Plagiarism Detection Systems)
ตัวอย่าง: Turnitin
อธิบาย: Turnitin ใช้ AI ในการตรวจจับการลอกเลียนข้อสอบหรือการเขียนบทความ โดยเปรียบเทียบงานที่ส่งเข้ามากับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของงานวิจัยและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อหาความเหมือนกัน ซึ่งช่วยในการรักษาคุณภาพงานวิจัยและการประเมินผลในระบบการศึกษาหรือการสอบออนไลน์
ระบบการประเมินผลอัตโนมัติ (Automated Grading Systems)
ตัวอย่าง: Gradescope
อธิบาย: Gradescope ใช้ AI เพื่อช่วยครูในการประเมินผลข้อสอบอัตโนมัติ โดยสามารถประมวลผลและให้คะแนนข้อสอบแบบปรนัยหรือแบบอัตนัย เช่น การตรวจสอบการตอบคำถามหรือการตรวจงานเขียน ช่วยให้ครูสามารถประเมินผลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
AI สำหรับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน (Reading and Writing Tutors)
ตัวอย่าง: Socratic by Google
อธิบาย: Socratic ใช้ AI ช่วยสอนการอ่านและการเขียน โดยสามารถให้คำแนะนำกับนักเรียนเกี่ยวกับคำตอบหรือวิธีการทำโจทย์ที่นักเรียนไม่เข้าใจ มันสามารถแปลและตอบคำถามในหลายภาษา ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องมีผู้สอนตลอดเวลา
เทคนิคสำคัญที่ใช้ในการพัฒนา AI คือการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Lenrning)
5 เทคนิคสำคัญ:
Machine Learning (ML)
คำอธิบาย: การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เป็นเทคนิคหลักที่ทำให้ AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่ต้องมีการเขียนโปรแกรมที่เจาะจง เทคนิคนี้ใช้การฝึกสอนโมเดลให้เรียนรู้จากชุดข้อมูลและปรับปรุงประสิทธิภาพผ่านการทดลองและข้อผิดพลาด โดยเฉพาะในงานที่เกี่ยวข้องกับการทำนายหรือการจำแนกประเภท
Deep Learning (DL)
คำอธิบาย: Deep Learning เป็นสาขาย่อยของ Machine Learning ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียมหลายชั้น (Deep Neural Networks) เพื่อการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและซับซ้อนกว่า โดยใช้ในการประมวลผลข้อมูลที่มีความซับซ้อน เช่น การรู้จำภาพ เสียง และภาษา มักถูกใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การรู้จำใบหน้าและการแปลภาษา
Natural Language Processing (NLP)
คำอธิบาย: NLP เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ AI เข้าใจและประมวลผลภาษาธรรมชาติของมนุษย์ เช่น การแปลภาษา การตอบคำถาม และการวิเคราะห์ข้อความ เทคนิคนี้ใช้ในการพัฒนา Chatbot หรือผู้ช่วยดิจิทัลต่าง ๆ ที่สามารถสนทนากับผู้ใช้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
Reinforcement Learning (RL)
คำอธิบาย: Reinforcement Learning เป็นเทคนิคที่ AI เรียนรู้จากการได้รับรางวัลหรือการลงโทษในการทำงาน โดย AI จะทดลองทำกิจกรรมต่าง ๆ และเรียนรู้จากผลลัพธ์ที่ได้ เทคนิคนี้ถูกใช้ในงานที่ต้องการให้ AI ปรับปรุงพฤติกรรมของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เช่น ในการเล่นเกมหรือการควบคุมหุ่นยนต์
Computer Vision
คำอธิบาย: Computer Vision เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ AI สามารถ "มองเห็น" และตีความข้อมูลจากภาพหรือวิดีโอได้ โดยใช้ในการตรวจจับวัตถุ การรู้จำใบหน้า การแปลสัญญาณภาพต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น ระบบตรวจจับใบหน้า ระบบจดจำป้ายทะเบียน หรือการวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพทางการแพทย์
Application ที่ใช้ AI มาสนับสนุนการเรียนการสอน เช่น Duolingo โดยมีรายละเอียดดังนี้
Duolingo
คำอธิบาย: Duolingo เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการเรียนภาษาที่ใช้ AI ในการปรับระดับการเรียนรู้และแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียน โดย AI จะคำนวณความก้าวหน้าของผู้เรียนและปรับคำถามหรือแบบฝึกหัดให้เหมาะสม ช่วยให้การเรียนภาษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและสนุกสนาน
Socrative
คำอธิบาย: Socrative ใช้ AI ในการสร้างและประเมินผลการทดสอบหรือแบบทดสอบออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยสามารถให้คะแนนได้อัตโนมัติ และช่วยครูในการติดตามผลการเรียนรู้ของนักเรียน ช่วยลดภาระงานของครูในการประเมินผล
Kahoot!
คำอธิบาย: Kahoot! เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ในการออกแบบและสร้างเกมการเรียนรู้ผ่านการทดสอบความรู้ต่าง ๆ แอปนี้ช่วยให้การเรียนการสอนมีความสนุกสนานและกระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยสามารถใช้ในการทำข้อสอบหรือแบบทดสอบในรูปแบบของเกม
Grammarly
คำอธิบาย: Grammarly ใช้ AI ในการตรวจสอบและแนะนำการเขียนในภาษาอังกฤษ โดยสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ การสะกดคำ และการใช้คำศัพท์ที่เหมาะสม ช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการเขียนได้ดีขึ้น
Google Classroom
คำอธิบาย: Google Classroom ใช้ AI ในการจัดการเนื้อหาการเรียนการสอนออนไลน์ เช่น การกำหนดงาน, การจัดการการส่งงาน, การให้คำติชมและคำแนะนำอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการเรียนการสอนในห้องเรียนดิจิทัล
Quizlet
คำอธิบาย: Quizlet ใช้ AI ในการสร้างชุดคำถามแบบฝึกหัดที่สามารถช่วยในการทบทวนความรู้ โดยสามารถปรับเนื้อหาให้ตรงกับความรู้ของนักเรียนและช่วยให้นักเรียนทบทวนบทเรียนในรูปแบบที่สนุกสนาน
Brainly
คำอธิบาย: Brainly เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่ใช้ AI ในการช่วยแนะนำคำตอบหรือคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคำถามที่นักเรียนถาม โดยมีการประมวลผลจากคำถามที่คล้ายคลึงกันในฐานข้อมูลที่มีอยู่
Quizizz
คำอธิบาย: Quizizz ใช้ AI ในการสร้างข้อสอบหรือเกมการเรียนรู้ที่มีลักษณะเป็นการทดสอบความรู้ในรูปแบบที่สนุกสนาน นักเรียนสามารถทำแบบทดสอบได้แบบเรียลไทม์และสามารถเห็นคะแนนได้ทันทีหลังการทำข้อสอบ
Classcraft
คำอธิบาย: Classcraft ใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนการสอนในรูปแบบเกม โดยการเรียนรู้จะถูกปรับให้เป็นการผจญภัยที่สนุกสนาน ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการเรียนการสอน
นี่คือ 100 เครื่องมือการเรียนรู้ยอดนิยมประจำปี 2024 ซึ่งสร้างขึ้นจากการสำรวจประจำปีครั้งที่ 18 เมื่อปีที่แล้ว
ChatGPTไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 และในปีนี้ก็ไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 รายชื่อใหม่ที่ติดอันดับสูงสุดในปีนี้คือCopilot ของ Microsoft ซึ่งเป็นแชทบ็อต AI (อันดับที่ 20) และยังมีแชทบ็อต AI อีก 3 ตัวที่เพิ่มเข้ามาในรายชื่อ ได้แก่Perplexity (อันดับที่ 47), Claude (อันดับที่ 50) และGemini ของ Google (อันดับที่ 53) AI ได้รับความนิยมอย่างแน่นอนในปี 2024ข้อสังเกตเพิ่มเติมในรายชื่อของปีนี้ปรากฏในบทวิเคราะห์และเครื่องมือ 100 รายการยังได้รับการจัดประเภทเป็น 4 พื้นที่หลักเพื่อให้มีบริบทบางอย่าง