RSV คือไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ มีการระบาดบ่อยในช่วงหน้าฝน–หน้าหนาว (ในประเทศไทย มักพบการระบาดเริ่มเดือนมิถุนายน และระบาดมากขึ้นเมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคม - ตุลาคม และเริ่มน้อยลงเมื่อเข้าเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม)

อาการสำคัญ :
หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 4-6 วัน จะเริ่มแสดงอาการคล้ายหวัด น้ำมูกไหล ไอ มีไข้ ในผู้ใหญ่มักมีอาการไม่รุนแรงเนื่องจากพอมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้างแล้ว แต่ในเด็กเล็กอาจทำให้ปอดอักเสบได้ โดยมีอาการเด่นคือ ไข้สูง หายใจเร็ว หอบเหนื่อย มีเสียงหวีด กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง ได้แก่ ทารก และ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี  ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง หรือภูมิคุ้มกันต่ำ

การติดต่อผ่านการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย หรือการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วมาสัมผัสปาก จมูก ตา โดยทั่วไปผู้ป่วยจะแพร่เชื้อได้นาน 3-8 วันหลังมีอาการป่วยแต่อาจนานถึง 3-4 สัปดาห์ในเด็กเล็กหรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งหากเคยเป็นแล้วจะยังสามารถเป็นอีกได้ 

การรักษา : ยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะ
รักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ละลายเสมหะ การหยอดน้ำเกลือและดูดน้ำมูก หรือล้างจมูกหากมีน้ำมูกข้นเหนียว ในเด็กบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก ต้องทำการพ่นยาขยายหลอดลมหรือน้ำเกลือผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอดและดูดเสมหะออก จึงควรพบแพทย์ทันทีหากมีสัญญาณเตือนว่าอาจมีปอดอักเสบ ได้แก่ ไข้สูง หอบเหนื่อย มีเสียงหวีดเวลาหายใจ หรือริมฝีปากหรือเล็บเขียวคล้ำ 

การป้องกัน
- ล้างมือบ่อย ๆ
- สวมหน้ากากอนามัย
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย หรือไปในที่แออัด
- ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของ
- ควรแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ โดยควรหยุดโรงเรียนจนกว่าอาการจะหาย หรืออย่างน้อย 5-7 วัน

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกัน RSV  สำหรับ...
- แม่ตั้งครรภ์
- ทารกแรกเกิด - 24 เดือน
- ผู้มีอายุ > 60 ปีที่มีความเสี่ยง
- ผู้มี่อายุ 75ปีขึ้นไป 

บทความโดย
ภญ.ดุษฎี ลือชาพุฒิพร
เภสัชกรประจำร้านบ้านยายิ้ม