1. วิธีดำเนินการ
– พิจารณาจากการดำเนินการที่ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อตกลง และสะท้อนให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังตามตำแหน่งและวิทยฐานะ
2. ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง
2.1 เชิงปริมาณ พิจารณาจากการบรรลุเป้าหมายเชิงปริมาณได้ครบถ้วนตามข้อตกลง และมีความถูกต้อง เชื่อถือได้
2.2 เชิงคุณภาพ พิจารณาจากการบรรลุเป้าหมายเชิงคุณภาพได้ครบถ้วน ถูกต้อง เชื่อถือได้ และปรากฏผลต่อคุณภาพผู้เรียนได้ตามข้อตกลง
การแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนและข้อผิดพลาดทางคณิตศาสตร์เรื่องการวัดการกระจายของข้อมูล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ด้วยแบบฝึกทักษะออนไลน์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
มโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนและข้อผิดพลาดทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกันและจะส่งผล กระทบต่อการที่นักเรียนจะนำความรู้รวมถึงทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ไปประยุกต์ใช้ในบริบทต่างๆ แต่ทั้งสองสิ่งนี้มีลักษณะของการเกิดที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อบกพร่องจะเกิดขึ้นได้ทั้งที่นักเรียนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ในขณะนั้น นักเรียนเกิดความสะเพร่า ขาดสมาธิในการดําเนินงาน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจําและเป็นสิ่งที่มักจะสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนนอกจากนี้ข้อบกพร่องอาจเกิดจากการที่นักเรียนได้จดจําขั้นตอนและวิธีการดําเนินการทางคณิตศาสตร์อย่างไม่่มีความหมาย และขาดความเข้าใจเชิงมโนทัศน์ที่ถูกต้อง ในขณะที่มโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนจะเกิดจากระบบความคิด หรือความเข้าใจที่เกิดจากการเรียนรู้ของนักเรียนี่ผิดพลาดไปจากหลักการทางคณิตศาสตร์ที่ถูกต้อง
การศึกษาลักษณะของมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน และข้อบกพร่องทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน จะส่งผล ดีต่อการวางแผนในการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียน ทั้งในด้านความรู้ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เนื่องจากความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน จําเป็นต่อการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น นักเรียนต้องมีพื้นฐานความรู้ทางคณิตศาสตร์ที่ดีและสามารถนำความรู้ มโนทัศน์ต่าง ๆ นั้น ไปประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดองค์ความรู้เดิมของนักเรียน ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของวิชาคณิตศาสตร์ ทําให้ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ จําเป็นต้องทำความเข้าใจกับมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน และข้อบกพร่องทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน เพื่อช่วยในการเตรียมการวางแผน และออกแบบการจัดการเรียนการสอนให้มุ่งพัฒนานักเรียนให้มีมโนทัศน์ และการดําเนินการทางคณิตศาสตร์ที่ถูกต้อง
ด้วยเหตุผลและความสําคัญที่กล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยจึงศึกษาลักษณะของมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน และ ข้อบกพร่องทางคณิตศาสตร์เรื่องการวัดการกระจายของข้อมูลของนักเรียนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อให้ได้สารสนเทศเกี่ยวกับมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนและข้อบกพร่องทางคณิตศาสตร์ เรื่องการวัดการกระจายของข้อมูล ซึ่งผลการวิจัยจะเป็นประโยชน์สำหรับครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ในหัวเรื่องที่เกี่ยวข้อง และเป็นแนวทางในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนามโนทัศน์ที่ถูกต้อง และแก้ไขข้อบกพร่อง ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1) วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสุนทรภู่พิทยา ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563 ในเรื่องของ มาตรฐานการเรียน และตัวชี้วัด ของเนื้อหา เรื่อง การวัดการกระจายของข้อมูล
2) ศึกษาวิเคราะห์งานวิจัยหลักการทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยแก้ไขมโน
ทัศน์ที่คลาดเคลื่อนของนักเรียนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น
3) จัดทำโครงร่างนวัตกรรมการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนประกอบด้วย หน่วยการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ สำหรับเนื้อหาการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การวัดการกระจายของข้อมูล โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ พร้อมเฉลยตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด
4) ตรวจสอบนวัตกรรมการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนโดยครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เกี่ยวกับความถูกต้อง ในเนื้อหา กิจกรรม และแบบฝึกหัด พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข
1) ครูผู้สอนนำนวัตกรรมการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา
2) นำนวัตกรรมการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนที่ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การวัดการกระจายของข้อมูล รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 6 รหัสวิชา ค33102 ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบท โดยใช้สื่อการสอนที่เหมาะสมและหลากหลาย
3) บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน t และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นราย 2 สัปดาห์ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมการสอนซ่อมเสริมด้วยสื่อการสอนและแบบฝึกที่ครูจัดทำขึ้น สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด และได้รับการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนในเรื่อง การวัดการกระจายของข้อมูล
นวัตกรรมที่เกิดขึ้น
การดำเนินงาน
ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง
ผลการดำเนินงานวิจัย
เชิงปริมาณ พบว่า นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 29 คน ได้รับการแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การกระจายของข้อมูล รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 6 รหัสวิชา ค33102 และมีนักเรียนจำนวน 22 คน มีคะแนนทดสอบผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 75.86 ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 70 ที่ตั้งไว้ และนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมจัดการเรียนรู้ เรื่องการกระจายของข้อมูล มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไป
เชิงคุณภาพ พบว่า นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่อง การกระจายของข้อมูล และสามารถนำความรู้ ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้