13. โปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการออมตามหน้าที่เด็กแบบพิจาณาความจริง

B+ นายกฤษกร ดวงสิทธิ์

B นางสาวชาลินี แสงจันทร์

ภาพประกอบกิจกรรมโปรแกรมการให้คำปรึกษา

หลักการและเหตุผล

สภาพสังคมปัจจุบัน มีความเจริญทางด้านวัตถุอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีมีความทันสมัย ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างมากมาย เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคตามความต้องการของตนที่มีมากขึ้นตามลำดับ จึงส่งผลให้พฤติกรรมของมนุษย์นั้น ขาดความตระหนัก และใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง โดยไม่คำนึงถึงอนาคต เมื่อยามขาดแคลน ซึ่งช่วงเวลาแห่งการทำงานหารายได้สำหรับบุคคล ทำได้เพียงช่วง ระยะเวลาหนึ่งของช่วงชีวิตเท่านั้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน จนถึงกลุ่มวัยรุ่น มีพฤติกรรมการใช้เงินฟุ่มเฟือยในเรื่องของสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็น หรือซื้อของราคาแพง เช่น มีของเครื่องใช้ที่มียี่ห้อราคาแพง มีเครื่องประดับมากมาย แล้วในที่สุดก็เบื่อง่ายไม่รักษาสิ่งของ ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของที่ซื้อมา ไม่ดูแลทะนุถนอม เมื่อของเสียหรือหายก็ซื้อใหม่ และไม่สามารถที่จะมีความยั้งคิด หรือจัดการกับเรื่องการใช้เงินได้ จากพฤติกรรมการใช้จ่ายดังกล่าว จึงควรพัฒนาพฤติกรรมการประหยัดอดออมของนักเรียน ซึ่งทำได้โดยการปลูกฝังจริยธรรม ความมีวินัย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่นักเรียนควรระลึก และต้องหมั่นปฏิบัติอยู่เสมอ ให้กับนักเรียน และต้องอาศัยกระบวนการถ่ายทอดจากครอบครัว โรงเรียน และสื่อมวลชนจะทำให้นักเรียนนำพฤติกรรมที่ตนได้รับจากการจัดกิจกรรมไปใช้ในการสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง และใช้ในการแสดงพฤติกรรมที่ดีงามอันเหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศ (สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. 2540: 18)

การปลูกฝังให้บุคคลเป็นคนที่มีพฤติกรรมประหยัด ควรเริ่มปลูกฝังในช่วงวัยที่เหมาะสม คือช่วงวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น ซึ่งบิดามารดา และครูอาจารย์ เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับเด็กมาก เป็นบุคคลที่คอยช่วยเหลือ เกื้อหนุน ดูแลเอาใจใส่เด็ก อบรมสั่งสอน ถ่ายทอดค่านิยมพฤติกรรมที่ดีงามให้กับเด็กได้ตลอดเวลา การออมเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับตนเอง และก่อให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจขึ้น ซึ่งให้ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและพัฒนาชีวิตของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการออมสินและออมทรัพยากรอื่น ๆเมื่อมีเงินออมเพิ่มมากขึ้น เราจะมีความสุขเมื่อเห็นจำนวนเงินที่มากขึ้น และเรายังมีปัจจัยไว้เพื่อซื้อความสุข ความบันเทิง ความพอใจโดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนหรือเป็นหนี้ นอกจากนี้หากเจ็บป่วยประสบอุบัติเหตุหรือสุขภาพไม่แข็งแรง ก็สามารถนำเงินที่เก็บออมนั้นมาใช้ได้อย่างทันท่วงที เราจะมีอิสรภาพทางการเงินโดยสมบูรณ์และไม่ลำบากในยามที่เราไม่สามารถทำงานได้แล้ว

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงเห็นว่า กระบวนการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มเป็นกระบวนการหนึ่งที่สามารถให้ผู้คนมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อวางเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง ดังนั้นจึงได้ออกแบบโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการออมตามหน้าที่เด็กแบบเผชิญความจริง เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะเยาวชนในยุคปัจจุบัน โดยเป็นลักษณะการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 3 ซึ่งผู้จัดทำต้องการที่จะพัฒนาพฤติกรรมการประหยัด และเก็บออมเงินของนักเรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมการออมเงินขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้เรียน เพื่อทำให้เกิดพฤติกรรมการประหยัด และเก็บออมเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืนต่อไป