1. พิจารณาคำที่ต้องการค้นคว้าเป็นประเภทใดคือ เป็นคำทางภาษาหรือคำทางวิชาการ
2. เลือกประเภทของพจนานุกรมให้สอดคล้องกับประเภทของคำที่ค้น เช่น พจนานุกรมทางภาษา หรือพจนานุกรมทางวิชาการ
3. อ่านคำแนะนำวิธีใช้พจนานุกรมนั้น ซึ่งจะอยู่ในส่วนต้นของเล่ม
4. ใช้เครื่องมือช่วยค้นเพื่อหาคำที่ต้องการ เช่น ดรรชนีข้างเล่ม และคำกำกับหน้า
1. เริ่มที่ ตัวพยัญชนะลำดับไว้ตามตัวอักษร
2. พิจารณาสระเป็นลำดับที่ 2 โดยสระจะไม่ได้ลำดับไว้ตามเสียง แต่ลำดับไว้ตามรูป
3. การเรียงลำดับคำ พิจารณาจากพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ ตามลำดับ
1. ตัวพยัญชนะลำดับไว้ตามตัวอักษร คือ ก ข ฃ ค ฯลฯ จนถึง อ ฮ ไม่ได้ลำดับตามเสียง
เช่น จะค้นคำ ทราบ ต้องไปหาในหมวดตัว ท
จะค้นคำ เหมา ต้องไปหาในหมวดตัว ห ส่วน ฤ ฤๅ ลำดับไว้หลังตัว ร และ ฦ ฦๅ ลำดับไว้หลังตัว ล
2. สระไม่ได้ลำดับไว้ตามเสียง แต่ลำดับไว้ตามรูปดังนี้ ะ ั า ิ ี ึ ื ุ ู เ แ โ ใ ไ
รูปสระที่ประสมกันหลายรูปจะจัดเรียงตามลำดับรูปสระที่อยู่ก่อนและหลังตามลำดับข้างต้นดังได้ลำดับให้ดูต่อไปนี้
1. ะ
2. ั (อัว)
3. ั ะ (อัวะ)
4. า
5. ำ
6. ิ
7. ี
8. ึ
9. ื
10. ุ
11. ู
12. เ
13. เ ะ (เอะ)
14. เ า (อา)
15. เ าะ (เอาะ)
16. เ ิ(เอิน)
17. เ ี (เอีย)
18. เ ีะ (เอียะ)
19. เ ื (เอือ)
20. เ ื ะ (เอือะ)
21. แ
22. แ ะ (แอะ)
23. โ
24. โ ะ (โอะ)
25. ใ
26. ไ
สำหรับตัว ย ว อ นับลำดับอยู่ในพยัญชนะเสมอ
คำที่อยู่ในหมวดอักษรเดียวกันจะเรียงลำดับตามรูปพยัญชนะตัวถัดไปของคำเช่น งม มาก่อน งวด เพราะ ม มาก่อน ว
คำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะและตามด้วยพยัญชนะมาก่อนคำที่ขึ้นต้นด้วย พยัญชนะและตามด้วยสระเช่น ลง มาก่อน โล่ง
พยัญชนะที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์มาก่อนคำที่มีรูปวรรณยุกต์ เช่น นา มาก่อน น้า ปา มาก่อน ป้า
คำที่มี ็ (ไม้ไต่คู้) จะลำดับอยู่ก่อนวรรณยุกต์ เช่น เก็ง เก่ง เก้ง เก๋ง
·อักษรย่อในวงเล็บท้ายบทนิยาม (นิยามหมายถึงคำแปลหรือความหมายของคำศัพท์) บอกที่มาของคำ เช่น
ข. = เขมร ต. = ตะเลง ล. = ละติน
จ. = จีน บ. = เบงกาลี ส. = สันสกฤต
ป = บาลี อ. = อังกฤษ
ตัวอย่าง ไถง [ถะไหฺง] น. ตะวัน (ข.) (ข.) มีที่มาจากภาษาเขมร
อักษรย่อหน้าบทนิยาม บอกชนิดของคำตามหลักไวยากรณ์ เช่น
ก. = กริยา ว. = วิเศษณ์ (คุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์)
น. = นาม ส. = สรรพนาม
นิ. = นิบาต สัน. = สันธาน
บ. = บุรพบท อ. = อุทาน
ตัวอย่าง กบี่ น. ลิง น. เป็นคำนาม
อักษรย่อชื่อวิทยาศาสตร์ของชื่อสกุล มีหลักเกณฑ์ดังนี้ คือ :- ชื่อสกุลที่เขียนด้วยอักษรย่อ หมายถึง ชื่อสกุลเดียวกับชื่อสกุลที่เขียนเต็มซึ่งกล่าวไว้ข้างหน้าโดยไม่มีชื่อสกุลอื่นมาคั่น
เช่น Caranx sexfasciatus, C. melampygus, Carangoides gymnostethus, C. fulvoguttatus ในที่นี้ C. melampygus หมายถึง Caranx melampygus และ C. fulvoguttatus หมายถึง Carangoides fulvoguttatus
คำย่อในวงเล็บหน้าบทนิยาม บอกลักษณะของคำที่ใช้เฉพาะแห่ง เช่น
(กฎ) คือ คำที่ใช้ในกฎหมาย (การศึกษา) คือ คำที่ใช้ในวงการศึกษา
(เคมี) คือ คำที่ใช้ในเคมี (ถิ่น) คือ คำที่เป็นภาษาเฉพาะถิ่น
(โบ) คือ คำโบราณ (ดารา) คือ คำที่ใช้ในดาราศาสตร์
ปทานุกรมเป็นหนังสือสำหรับค้นคว้าหาความหมายของคำที่เรียบเรียงตามลำดับบทเป็นเรื่องๆ ไป ให้ความรู้เกี่ยวกับคำ และถ้อยคำที่ใช้ในภาษาและคำที่ใช้กันมากในชีวิตประจำวัน อธิบายคำศัพท์ในวงแคบและมีจำนวนจำกัดมักจะเรียกว่า ปทานุกรม คำว่าปทานุกรมและพจนานุกรมอาจใช้สลับกันได้เช่น หนังสือปทานุกรมสำนวน สุภาษิต, ปทานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์ ฯลฯ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 dictionary.orst.go.th/
สารานุกรม หรือ Encyclopedia คือหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ทุกหัวข้อวิชาและทุกแขนงโดยให้ความรู้ที่เป็นพื้นฐานกว้าง ๆ เขียนโดยผู้ชำนาญในแต่ละสาขาวิชานั้น ๆ การเรียงลำดับเนื้อเรื่องอาจเรียงลำดับตามตัวอักษรหรือหมวดหมู่ มีดรรชนีค้นเรื่องอย่างละเอียด
ประโยชน์ของสารานุกรม สารานุกรมจะให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในทุกแขนงวิชา ให้คำอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ไว้อย่างละเอียดทั้งในเชิงประวัติความเป็นมา วิวัฒนาการตลอดจนความรู้ทั่วไป โดยเป็นความรู้ที่ทันสมัยเพราะมีการปรับปรุงเนื้อหาทุกปี ซึ่งเขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้น ๆ เหมาะที่จะทำการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
วิธีใช้สารานุกรม
1) พิจารณาดูว่าเรื่องที่ต้องการเป็นความรู้พื้นฐาน หรือความรู้เป็นเรื่องเฉพาะวิชา
2) เลือกใช้สารานุกรมให้ถูกกับเรื่องที่ต้องการ
3) เปิดดูดรรชนีเพื่อดูเรื่องที่ต้องการค้นหาว่าอยู่ในเล่มใด หน้าเท่าไร
4) ดูอักษรนำเล่ม หรือคำแนะที่สันหนังสือ เพื่อดูว่าเรื่องที่ต้องการอยู่เล่มใด
5) ก่อนใช้สารานุกรมแต่ละชุดควรอ่านวิธีใช้เป็นลำดับแรก แล้วจึงค้นหาเรื่องที่ต้องการ
ประเภทของสารานุกรม มีดังนี้
สารานุกรมทั่วไป จัดทำขึ้นเพื่อให้ใช้ค้นคว้าอ้างอิงได้อย่างกว้างขวางทุกแขนงวิชา
เช่น สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน
สารานุกรมเฉพาะวิชา จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องราวและรายละเอียดเกี่ยวกับแขนง
วิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น สารานุกรมวิทยาศาสตร์
สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน
http://www.thaiheritage.net/nation/dictionary/dict0.htm
สารานุกรมวิทยาศาสตร์
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฉบับเสริมการเรียนรู้
( ปัจจุบันสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน มีถึงเล่มที่ 42 โดยมีเนื้อหาบางส่วนเผยแพร่ในระบบออนไลน์และใน E-Book ของโรงเรียน )
ที่มา
มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ. (ม.ป.ป) ความเป็นมาโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564, จาก https://www.saranukromthai.or.th/index2.php