ประวัติ ประโยชน์ คุณค่าและการดูแลรักษาอุปกรณ์ของกีฬาบาสเกตบอล

หน่วยการเรียนที่ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาบาสเกตบอล

จุดประสงค์การเรียนรู้ (ปลายทาง)

1. ผู้เรียนสามารถอธิบายความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาบาสเกตบอลได้

2. ผู้เรียนสามารถบอกวิธีการเลือก การดูแลรักษาอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก มารยาท และความปลอดภัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอลได้

จุดประสงค์การเรียนรู้ (นำทาง)

1. ผู้เรียนสามารถอธิบายประวัติความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอลได้

2. ผู้เรียนสามารถอธิบายประโยชน์ของการเล่นกีฬาบาสเกตบอลได้

3. ผู้เรียนสามารถอธิบายมารยาทและความปลอดภัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอลได้

4. ผู้เรียนสามารถเลือก ดูแลรักษาอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกของกีฬาบาสเกตบอลได้

สาระสำคัญ

1. กีฬาบาสเกตบอลกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1930 จากการคิดค้นเกมการเล่นให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่หนาวจัดโดย ดร.เจมส์ เอ เนสมิธ และได้วางกฎเกณฑ์การเล่น โดยห้ามผู้เล่นปะทะกัน ต่อมาได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระเบียบการเล่นและกติกา การแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ได้พัฒนารูปแบบการเล่นที่รุนแรงให้ลดน้อยลง จนเป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 1936 กีฬาบาสเกตบอลได้บรรจุเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรก เกมการเล่นนอกจากจะทำให้สมาชิกที่เข้าร่วมสนุกสนานแล้วยังกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดความสนุกเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกสมัครเป็นสมาชิกมากกว่า 50 ประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย ประเทศสหรัฐอเมริกา รับเป็นกีฬาประจำชาติ เมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1892

2. ประโยชน์ของกีฬาบาสเกตบอล คือ ช่วยพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จิตใจแจ่มใส ร่าเริง มีบุคลิกภาพที่ดี และสามารถเข้าร่วมกับสังคมได้ดี

3. การเข้าใจ กฎ กติกา การมีระเบียบวินัยของนักกีฬา และผู้ดูกีฬาจะต้องมีความสัมพันธ์กันจึงจะช่วยพัฒนามารยาทและความปลอดภัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอลให้สูงขึ้น

4. การเรียนรู้วิธีการเลือกและการดูแลรักษาอุปกรณ์กีฬาบาสเกตบอล เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องนำมาปฏิบัติ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการใช้ให้สูงขึ้น

เนื้อหา

1.1 ประวัติความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอล

1.2 ประวัติความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอลอาชีพ

1.3 ประวัติความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอลในเอเชีย

1.4 ประวัติสหพันธ์บาสเกตบอลแห่งเอเชีย

1.5 ประวัติกีฬาบาสเกตบอลในประเทศไทย

3.1 มารยาทของผู้เล่นกีฬาบาสเกตบอลที่ดี

3.2 มารยาทของผู้ดูกีฬาบาสเกตบอลที่ดี

3.3 ความปลอดภัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล

4.1 การเลือกอุปกรณ์กีฬาบาสเกตบอล

4.2 การดูแลรักษาอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกของกีฬาบาสเกตบอล

สรุป

กีฬาบาสเกตบอลกำเนิดขึ้นที่เมืองสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาชูเสตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ที่คิดค้นการเล่นคือ ดร.เจมส์ เอ เนสมิธ โดยนำการเล่นฟุตบอลและรักบี้ฟุตบอลมาผสมกัน ห้ามมีการปะทะและการชนกัน ให้ประตูอยู่สูงกว่าปกติ ซึ่งใช้ตะกร้าเก็บลูกพีชมาทำเป็นห่วงประตู แขวนไว้ที่ผนังโรงยิมเนเซียม ระยะแรกใช้ผู้เล่นข้างละ 9 คน ต่อมาจึงลดเหลือฝ่ายละ 5 คน โดย ดร. เจมส์ เอ เนสมิธ ได้กำหนดกติกาการเล่นไว้ 13 ข้อด้วยกัน ต่อมากีฬาบาสเกตบอลได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 11 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรับกีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาประจำชาติเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ.1892

กีฬาบาสเกตบอลได้แพร่หลายเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อปี 2477 โดยนายนพคุณ พงษ์สุวรรณ เป็นผู้แปลกติกาบาสเกตบอล และ พล.ต.อ. หลวงชาติตระการโกศล เป็นวิทยากรในการให้การอบรม ต่อมาได้แพร่หลายไปตามจังหวัดต่าง ๆ และในปัจจุบันได้จัดให้มีการแข่งขันในระดับต่าง ๆ มากมายในประเทศ

กีฬาบาสเกตบอลนั้นเป็นกิจกรรมทางพลศึกษากิจกรรมหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในหลักสูตรของสถานศึกษาทุกระดับ มีส่วนช่วยปรับปรุงและส่งเสริมให้บุคคลได้มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข