ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์ในแต่ละปีมีมูลค่ามหาศาล และเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจด้วย อันเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ บางคนอาจไม่ถึงเสียชีวิตแต่ทุพพลภาพเป็นภาระแก่ครอบครัวและสังคมดังนี้
1. การบริโภคอาหาร การได้รับสารอาหารเกินความต้องการของร่างกาย จนเกิดการสะสมเป็นอันตราย เช่น ปริมาณของไขมันเกินทำให้เกิดโรค หรือการขาดสารอาหารจนทำให้เจ็บป่วยนอกจากนี้ยังมีสิ่งปลอมปนในอาหาร เช่น ผงชูรส สารบอเร็กซ์ สารฟอกสี สีผสมอาหาร สารเคมีตกค้างในผัก ปลา เนื้อหมู ไก, ฯลฯ จึงควรตระหนักและนำความรู้ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการบริโภคอาหาร
2. การบริโภคอาหารที่ไม่ใช่อาหาร สิ่งเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตแต่เป็นค่านิยมของสังคม ความเชื่อ เช่น ยาชูกำลัง อาหารเสริมสุขภาพ
3. การมีสัมพันธ์ทางเพศ บุคคลที่มีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศพฤติกรรมเที่ยงเบนทางเพศเป็นกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและต่อชีวิตได้
4. การเสพสิ่งเสพติด สิ่งเสพติดได้มีการพัฒนารูปแบบต่าง ๆ ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตทำลายสุขภาพให้เสื่อมโทรม ซึ่งผู้ที่ใช้สิ่งเสพติดทำให้เสียอนาคต
5. การใช้รถใช้ถนนอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนมีสถิติการสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สินในอัตราสูง ดังนั้น ใช้รถใช้ถนนควรต้องปฏิบัติตามกฎจราจร
6. การจราจรทางน้ำ ในปัจจุบันมีจราจรทางนี้าเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่หนาแน่นเหมือนจราจรทางบก แต่พบว่า อุบัติเหตุจากการจราจรทางนี้าทำให้เรือล่มเกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิต และทรัพย์สินจากการเดินทางทางนี้าเพิ่มขึ้น
7. การเล่นกีฬาและการออกกำลังกาย หากปฏิบัติไม่ลูกต้องตามหลักวิธีการย่อมมีผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นควรมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อค่อนและหลังการออกกำลังกาย
8. การใช้ยา ล้าใช้ยาไม่ลูกต้อง ไม่ลูกโรค ไม่ลูกขนาด ไม่ลูกเวลา อาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นหรือการใช้ยาผิดประเภท ยาเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้
9. การใช้อุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิต อาจเกิดอันตราย เช่นไฟฟ้าช็อตตาย เกิดเพลิงไหม้จึงควรต้องอ่านรายละเอียดในการใช้ด้วย
10. การประกอบอาชีพ มีหลายอาชีพที่เสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงต้องหาทางป้องกัน เช่น แว่นตาป้องกัน หน้ากากป้องกัน รองเท้าบูธ ถุงมือ ฯลฯ
11. สิ่งแวดล้อม ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมกำลังอยู่ในสภาพที่เลวลง เพราะการกระทำของมนุษย์นั่นเอง มีผลโดยตรงต่อสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิต เช่นน้ำในแม่น้ำลำคลองสกปรกไม่สามารถใช้น้ำดื่มและบริโภคได้ สัตว์น้ำอาศัยอยู่ในแม่นาไม่ได้ ทำให้ขาดอาหาร อากาศมีฝุ่นละอองมาก มีวัตถุหนักเจือปนหายใจเข้าไปมากๆ ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ
12. ความรุนแรง ความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมีหลายรูปแบบ เช่น ความขัดแย้งในครอบครัว ความขัดแข้งของกลุ่มวัยรุ่น ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ ความขัดแย้งทางการเมืองสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อความไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวันด้วยเหมือนกัน
การป้องกันและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมีหลักดังนี้
1. ปฏิบัติตนตามหลักโภชนาการในการบริโภคอาหาร รายละเอียดอยู่ในบทที่ 3 เรื่องการบริโภคอาหาร และโภชนาการ
2. ปฏิบัติตนตามกำแนะนำเรื่อง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และวิธีการป้องกันโรค
3. ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงจากเสพติด
4. ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการเสี่ยงภัยต่อการใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามกฎจราจร และกฎหมายเกี่ยวกับการจราจร เช่น ขับรถต้องรัดเข็มขัดนิรภัย ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนการขับรถ ไม่รับประทานยาที่ทำให้เกิดการง่วงนอน และใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดไม่อดนอนก่อนขับรถเดินทางไกลเพราะอาจทำให้หลับใน
5. ก่อนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายจะต้องอบอุ่นร่างกายมีความระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์กีฬา และออกกำลังกายตามวัย
6. ก่อนใช้ยา ต้องอ่านวิธีรับประทาน หรือการใช้และปฏิบัติตามกำแนะนำ เมื่อเกิดการผิดปกติต้องปรึกษาแพทย์
7. การใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม มีด ฯลฯต้องศึกษาวิธีใช้การเก็บรักษาการตรวจสอบและชำรุดเพื่อป้องกันไฟฟ้าดูดไฟฟ้าช็อตอัคคีภัย
8. การดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ให้มีกลิ่น เสียง มลภาวะทางอากาศ ขยะมูลฝอย และหากมีต้องหาวิธีกำจัดอย่างลูกวิธี
9. การประกอบอาชีพมีการเสี่ยงภัยสูง จะต้องระมัดระวังตามสภาพของอาชีพ เช่น การใช้ยาฆ่าแมลงที่ลูกวิธี การใช้เครื่องมืออุปกรณ์อย่างระมัดระวังไม่ประมาท เช่น ไม่ก๊อคหรือเชื่อมเหล็กใกล้ถังแก๊ส วางแก๊สหุงต้มห่างจากเตาไฟฟ้า หลังจากใช้เสร็จปิดวาวล์ปิดสริชต์ ป้องกันอัคคีภัย