ผู้เรียนได้เรียนรู้ถึงการคิดเป็นและกระบวนการตัดสินใจแก้ปัญหาของคนคิดเป็นมาแล้ว จะเห็นว่า กระบวนการสำคัญที่เป็นเครื่องมือในการคิดเป็น คือ การใช้ข้อมูลที่หลากหลายและพอเพียงอย่างน้อย 3 ด้านมาประกอบการคิด การวิเคราะห์ และการตัดสินใจ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาการ และข้อมูลเกี่ยวกับสังคมสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
คนทุกคนมีความแตกต่างกันทั้งลักษณะภายนอก พฤติกรรมที่แสดงออกและความรู้สึกนึกคิดที่อยู่ภายใน รวมทั้งจุดอ่อน จุดแข็งของตนเอง บางคนรู้จักตัวเองดี เพราะรู้จักสำรวจตรวจสอบตนเองอยู่ตลอดเวลา ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และความรู้สึกให้อยู่กับความเป็นจริง เป็นตัวของตัวเอง แต่บางคนก็ไม่รู้จักตัวเองตามที่ตัวเองเป็นอยู่ หลงตัวเองบ้าง ไม่มั่นใจตัวเองบ้าง หลงเชื่อคนอื่นบ้าง ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องในครอบครัวบ้าง รวมทั้งขาดการฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เป็นต้น การรู้จักตนเองก็ดีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการตัดสินใจแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เหมาะสม รวดเร็ว และประสบความสำเร็จ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองอาจพิจารณาได้หลายมุมมอง เช่น ความรู้ ความสามารถ ความถนัดต่าง ๆ เช่น พูดเก่ง มีอารมณ์ขัน มีกลวิธีในการแนะนำ เผยแพร่ บอกเล่า โน้มน้าวให้คนเชื่อฟัง หรือการแสดงความเห็นในที่สาธารณะ การเป็นนักแสดง การมีความรู้ความสามารถเฉพาะตัวในบางเรื่อง เช่น เป็นนักกีฬา มีศิลปะในการป้องกันตัว เป็นศิลปินแขนงหนึ่งแขนงใดเป็นพิเศษ ฯลฯ บุคลิกภาพและนิสัยใจคอ เช่น เงียบขรึม พูดมาก พูดน้อย ชอบโอ้อวดหรือเก็บตัว พูดตรง จริงใจ เปิดเผย หรือก้าวร้าว โผงผาง หนักแน่น หรือหงุดหงิดง่าย โมโหร้าย ชอบพูดจากระแหนะกระแหน ใส่ร้าย ข่มขู่ ใจคอโหดร้าย อิจฉาริษยา อาฆาต หรือเมตตากรุณา โอมอ้อมอารี ฯลฯ ญาติพี่น้องและครอบครัว มีฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัว บุตร ภรรยา หรือผู้อาศัย อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ หรืออยู่กันตามลำพัง พ่อ แม่ ลูก หรืออยู่คนเดียวในบ้านเช่าหรือหอพัก ครอบครัวอบอุ่นหรือแตกแยก ความสัมพันธ์ในครอบครัวมีการพบปะ สังสรรค์ ปรึกษาหารือ รับฟังความคิดเห็นหรือต่างคนต่างอยู่ ไม่มีการพึ่งพาอาศัย ไม่มีการช่วยเหลือเจือจานฐานะความเป็นอยู่ ร่ำรวย ยากจน พออยู่พอกิน เป็นหนี้เป็นสิน มีความมั่นคงในชีวิต หาเช้ากินค่ำขึ้นอยู่กับโชคชะตา มีความรับผิดชอบตนเองและครอบครัว ขยันหมั่นเพียร เก็บหอมรอมริบ สุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายเกินตัวเกินกำลังเป็นต้น การรู้จักตนเอง การมีข้อมูลเกี่ยวกับตนเองหลาย ๆ ด้าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ประกอบการคิดการวิเคราะห์และการตัดสินใจอย่างคนคิดเป็นมาก ถ้าเรารู้จักตัวเองดี หลายแง่หลายมุม ทั้งจุดอ่อน จุดแข็ง ก็จะมีข้อมูลไปประกอบการคิดและการวิเคราะห์มากและหลากหลาย ทำให้การตัดสินใจของเราผิดพลาดน้อย และแก้ปัญหาได้สำเร็จเป็นส่วนใหญ่
ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาการ
ข้อมูลทางวิชาการ คือ ข้อมูลที่เป็นความจริงที่มีการพิสูจน์แล้ว หรือค้นพบจากการทดลองแล้วเก็บหรือบันทึกไว้ในรูปแบบต่าง ๆ เป็นทฤษฎีหรือหลักวิชาแล้วนำมาใช้แก้ปัญหา ใช้อ้างอิงให้เหมาะกับเหตุการณ์และความจำเป็นของสถานการณ์ ข้อมูลทางวิชาการมี 2 ประเภท คือ
ข้อมูลปฐมภูมิ คือ ข้อมูลที่ผู้ใช้เป็นผู้คิดค้น เก็บรวบรวมเอง เช่น ข้อมูลจากการทดลองหรือจากการศึกษาค้นคว้ามาเป็นระยะยาวนานของภูมิปัญญาต่าง ๆ
ข้อมูลทุติยภูมิ คือ ข้อมูลที่ผู้ใช้นำมาจากผู้คนหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ทำการศึกษาหรือรวบรวม บันทึกไว้ในอดีต เช่น ข้อมูลที่รวบรวมมาจากเอกสารรายงานการวิจัย ข้อมูลที่อ้างมาจากผู้ที่รับฟังมาจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ เป็นต้น
ข้อมูลที่เป็นความรู้ทางวิชาการพื้นฐานที่คนในสังคมจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันมีอยู่มากมาย เช่น การใช้ภาษา คณิตศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ที่เป็นทฤษฎีการค้นพบทุกศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ในเรื่องการลงทุน รายรับรายจ่าย การตลาด กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับปวงชน ข้อมูลทางการแพทย์ อาหารและยา และข้อมูลทางการเกษตร เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับสังคมสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากคนมีวิถีชีวิตดำรงอยู่กันเป็นชุมชนและสังคม คนในชุมชนมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับการเกาะเกี่ยวที่มีอยู่ในอดีตที่แตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อที่ยึดถือกันมาแต่ดั้งเดิม การดำเนินการใด ๆ ในชุมชนจะกระทบกับคนในชุมชนด้วยเสมอ จะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับบริบทของความผูกพันที่มีอยู่ในชุมชนนั้น ๆ การคิดการตัดสินใจ ใด ๆ ที่จะไม่กระทบกระเทือนวิถีชุมชน หรือให้มีการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด จึงควรจะต้องนำเอาข้อมูลของชุมชน และสังคมมาประกอบการคิดการตัดสินใจอยู่เสมอ ข้อมูลทางสังคม สิ่งแวดล้อมที่ควรจะนำมาพิจารณาประกอบการคิด การตัดสินใจ ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม การประกอบอาชีพ วัฒนธรรม จารีตประเพณี การปกครองท้องถิ่น สุขภาพอนามัย การศึกษาและแหล่งเรียนรู้ สภาพการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติ สภาพความสัมพันธ์ระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน มัสยิด ประวัติ รากเหง้าความเป็นมาของชุมชน เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของชุมชนที่คนภาคภูมิใจ รวมทั้งกิจกรรม กระบวนการเรียนรู้ ความเอื้ออาทร ความเป็นเครือญาติ ความเข้มแข็งของชุมชน ฯลฯ เป็นต้น
การเก็บและรวบรวมข้อมูลประกอบการคิด การตัดสินใจอย่างคนคิดเป็นนั้น มักจะใช้ความ
เรียบง่ายไม่ซับซ้อนในทางวิชาการมากนัก เพราะผู้เรียนซึ่งเป็นผู้เก็บข้อมูลจะเป็นคนในชุมชนอยู่กับชุมชน มีวิถีชีวิตที่คุ้นเคยกับวิถีชุมชนนั้น ๆ อยู่แล้ว การเก็บข้อมูลอาจใช้กระบวนการ ตาดู (สังเกต)หูฟัง (สนใจ สดับรับฟัง) ปากถาม (กระตุ้น ชวนคุย) สมองคิด จำ (เชื่อมโยง เหตุผล) และมือจด (สรุป บันทึก) เพื่อจับประเด็นและรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจมีวิธีจัดการเชิงวิชาการพอสังเขป ดังนี้
1. การสังเกต ได้แก่ การค้นหาข้อมูลด้วยตนเองโดยตรง เช่น การสังเกตพฤติกรรม หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลโดยทีมงาน หรือไปสังเกตด้วยตนเอง
2. การสัมภาษณ์ ได้แก่ การรวบรวมข้อมูลจากบุคคลอื่น ๆ โดยถามจากครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน
3. การตอบแบบสอบถาม ได้แก่ การสร้างรายการคำถามให้ผู้คนในชุมชนตอบตามที่ผู้ถามต้องการ อาจใช้บริการทางโทรศัพท์ หรือทางไปรษณีย์
4. การศึกษาจากเอกสารหรือแหล่งข้อมูล เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร คอมพิวเตอร์ เทปบันทึกภาพ เทปบันทึกเสียง ข้อมูลสารสนเทศทางอีเมล์ เว็บไซต์
5. การทดสอบ/ทดลอง และการสำรวจ จากกลุ่มคน ร้านค้า หรือสถานที่ ๆ เป็นแหล่งข้อมูลโดยตรง
การวิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูล หมายถึง การแยกแยะข้อมูลหรือส่วนประกอบของข้อมูลออกเป็นส่วนย่อย ๆ ศึกษารายละเอียดของข้อมูลแต่ละเรื่องเพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะข้อมูลการคิดเป็นทั้ง 3 ประการว่า แต่ละด้านมีข้อมูลอะไรบ้าง เป็นการหาคำตอบว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ฯลฯ การวิเคราะห์ข้อมูลจะมีการศึกษาและตรวจสอบข้อมูลรอบด้านทั้งด้านบวกและด้านลบ ดูความหลากหลายและพอเพียงเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ เที่ยงตรง เชื่อถือได้ สมเหตุสมผล การวิเคราะห์ข้อมูลมีประโยชน์ตรงที่ทำให้เราสามารถเข้าใจเรื่องราวหรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่แท้จริง ช่วยให้มีการแสวงหาข้อมูลหลากหลาย โดยไม่เชื่อคำบอกเล่าหรือคำกล่าวอ้างของใครง่าย ๆ เป็นการมองข้อมูลหลากหลายมิติเกิดมุมมองเชิงลึกและกว้าง เพียงพอ ครบถ้วน
การสังเคราะห์ข้อมูล
เป็นการนำข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ถูกต้อง ใกล้เคียง กลุ่มเดียวกันมารวบรวม จัดกลุ่ม จัดระบบเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ในเชิงบูรณาการโดยเฉพาะนำข้อมูลการคิดเป็นทั้ง 3 ด้าน คือ ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง และข้อมูลที่เกี่ยวกับสังคมสิ่งแวดล้อม ที่วิเคราะห์ความแม่นยำ เที่ยงตรง หลากหลายและพอเพียงทั้งด้านบวกและลบไว้แล้วมาจัดกลุ่มทางเลือกในการแก้ปัญหาที่เป็นข้อมูลเชิงบูรณาการ ข้อมูลทั้ง 3 ด้าน หลาย ๆ ทางเลือก โดยแต่ละทางเลือกจะมีข้อมูลทั้ง 3 ด้านมาสังเคราะห์รวมเข้าไว้ด้วย เพื่อให้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสมเป็นที่ยอมรับและพอใจที่สุดนำมาแก้ปัญหาต่อไป