เหตุการณ์สึนามิ 26 ธันวาคม 2547 ในประเทศไทย
เหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ชาวไทย โดยเฉพาะ 6 จังหวัดภาคใต้ริมฝั่งทะเล อันดามันไม่มีวันลืม คนทั้งโลกต้องจดจำและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก คือ เหตุการณ์ธรณีพิบัติ สึนามิ ที่คร่าชีวิตชาวโลกไปไม่น้อยกว่าสองแสนคน
เช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นวันที่อากาศแจ่มใสตลอดชายฝั่งทะเลอันดา มันของประเทศไทย ทะเลเรียบสงบ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางหลบลม หนาวมาจากบ้านเมืองของตน เพื่อตากอากาศที่อบอุ่นบนชายหาดที่สวยงามริมชายฝั่งทะเลอันดา มันของไทย ไม่ว่าจะเป็นที่หาดในจังหวัดภูเก็ตไข่มุกแห่งอันดามัน เกาะพีพีดอน อ่าวนางทะเลน้ำใส แห่งจังหวัดกระบี่ เขาหลักแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพังงาที่มีชื่อไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี นักท่องเที่ยวที่ไปยังเกาะต่าง ๆ ที่สวยงามอีกจำนวนมาก
ในห้วงเวลานี้เป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวทางด้านทะเลอันดามัน เนื่องจากเป็นช่วงนอก ฤดูมรสุม โดยมากสภาพอากาศจะแจ่มใสทะเลสงบ ประกอบกับภูมิประเทศที่สวยงาม และเป็นช่วง ปลายปีที่มีเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีชาวต่างประเทศและชาวไทยเข้ามาพักผ่อนใน พื้นที่นี้จ านวนมาก ทุกคนต่างมีความสุขสดใสกับวันพักผ่อน ไม่มีใครเคยคิดว่ามันจะเกิดมหันตภัยที่ ก าลังจะเข้ามาคร่าชีวิต อย่างไม่ทันตั้งตัว
แม้ว่าในเช้าวันนั้นจะมีการรายงานข่าวทางสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ ถึงข่าวการ เกิดแผ่นดินไหวในทะเลเหนือเกาะสุมาตรา มีความรุนแรงมากถึง 8.9 ริกเตอร์ เมื่อเวลาแปด นาฬิกา ซึ่งรู้สึกได้ถึงจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยก็ตาม แต่ก็ไม่มีใคร นึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ “สึนามิ” คงเป็นเพราะไม่เคยมีการบันทึกในประวัติศาสตร์โลกมา ก่อนว่าเคยเกิดในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งที่ผ่านมาเท่าที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จะเกิด ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษถัดจากการเกิดแผ่นดินไหว สัญญาณเตือนทางธรรมชาติสิ่ง แรกก็มาถึงชายฝั่งประเทศไทย นั้นคือระดับน้ าทะเลลดลงมากด้วยความรวดเร็ว อย่างไม่เคยเป็นมา ก่อนถึงขนาดมีปลาขนาดใหญ่เกยตื้น ผู้คนที่อยู่ตามชายหาดต่างประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กับคาดไม่ถึงว่านั้นมันคือสัญญาณเตือนว่าจะมีมหันตภัยมาถึงตัว กลับมีบางคนวิ่งลงไปจับปลา ที่เกยตื้นอย่างสนุกสนาน
ในเวลาไม่ถึงนาทีต่อมา คลื่นยักษ์สึนามิระรอกแรกมันก็ปรากฏตัวใหญ่ทะมึนในทะเล ทุกคนที่เห็นต่างร้องตะโกนให้วิ่งหนีขึ้นฝั่ง ต่างคนต่างหนีเอาชีวิตรอด ด้วยความเร็วของคลื่นขณะที่ ซัดเข้าฝั่งไม่น้อยกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่คลื่นยักษ์เดินทางข้ามทะเลอันดามันในช่วงที่ ทะเลมีความลึกมากจะมีความเร็วมากกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยความเร็วและรุนแรงหลาย ระรอก คร่าชีวิตหลายคนที่หนีไม่รอด และกวาดท าลายล้างทุกสิ่งที่ขวางทางมันไม่ว่าจะเป็นตึก รามบ้านช่อง รถยนต์ต่างๆ เสียหายทั้งหมดตลอดระยะที่คลื่นซัดถึง
การเกิดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547
เดิมเคยเชื่อกันว่า ในบริเวณมหาสมุทรอินเดียคงจะไม่มีปรากฏการณ์คลื่นสึนามิที่รุนแรง เกิดขึ้น เพราะถึงแม้ว่าทางด้านตะวันออกของทะเลอันดามันจะเป็นแนวรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือก โลกอินเดีย (Indian Plate) กับแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย (Eurasian Plate) และมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีคลื่นสึนามิที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
จนเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดคลื่นสึนามิครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ มีผู้คนเสียชีวิตถึงประมาณ 220,000 คน นับเป็นภัยทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ของโลกเท่าที่มีการบันทึกไว้ โดยภัยธรรมชาติ ที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 เกิดจากพายุไซโคลน พัดผ่านประเทศบังกลาเทศ เมื่อ พ.ศ. 2513 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 300,000 คน และภัยทาง ธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 เกิดจากแผ่นดินไหว ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ของ ประเทศจีน เมื่อ ปีพ.ศ. 2519 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 255,000 คน
แผนที่แสดงความสูงต่ าของแผ่นดินในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงแนวที่ แผ่นเปลือกโลกอินเดียมุดลงใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ในทะเลอันดามัน ที่บริเวณหมู่เกาะอันดามัน หมู่เกาะนิโคบาร์ และเกาะสุมาตรา คลื่นสึนามิดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นที่จุดก าเนิดของแผ่นดินไหวนอก ชายฝั่งด้านตะวันตกของหัวเกาะสุมาตราในประเทศอินโดนีเซีย แล้วเคลื่อนตัวแผ่ขยายไปทั่วทะเล อันดามัน จนถึงชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียและเกาะศรีลังกา บางส่วนของคลื่นยัง เคลื่อนตัวไปถึงชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกาด้วย รวมประเทศที่ประสบภัยจากคลื่นสึนามิ และมีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น 11 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย พม่า อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ โซมาเลีย แทนซาเนีย และเคนยา ในกรณีของประเทศไทย พิบัติภัยจากคลื่น สึนามิได้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศ เพราะมีการสูญเสียทั้งชีวิตและ ทรัพย์สินของผู้คนเป็นจ านวนมากใน 6 จังหวัดภาคใต้ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเลอันดามัน คือ ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล โดยเฉพาะที่จังหวัดพังงา กระบี่ และภูเก็ต มีการสูญเสีย มากที่สุด เป็นพิบัติภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน จึงไม่ได้มีการระมัดระวังและป้องกันไว้ล่วงหน้า
วันที่ 15 มิถุนายน 2439 เกิดคลื่นสึนามิ ชื่อ เมจิซันริจุ (Meiji Sanriju) ขึ้นที่ประเทศ ญี่ปุ่น เคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง ขนาดสูงประมาณ 30 เมตร มีผู้เสียชีวิตประมาณ 37,000 คน และ บ้านเรือนเสียหายประมาณ 10,000 หลัง
เกาะกรากะตัว
ภูเขาไฟบนเกาะกรากะตัว ในประเทศอินโดนีเซีย เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงในปี พ.ศ. 2426 หินเหลวละลายใต้ปล่องภูเขาไฟถูกพ่นออกมาจ านวนมาก เกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ขึ้น ใต้ดิน ท าให้พื้นแผ่นดินที่อยู่เบื้องบนและพื้นทะเลยุบตัวลง ส่งผลให้เกิดระลอกคลื่น สึนามิขนาดใหญ่ขึ้น บางลูกมีความสูงกว่า 40 เมตรจากระดับน้ าทะเล ระลอกคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้น จากการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวในอินโดนีเซียครั้งนี้เคลื่อนตัวถาโถมเข้าสู่บริเวณชายฝั่ง มหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา อเมริกาใต้ และบริเวณที่ห่างไกล ออกไปอีกในช่องแคบอังกฤษ ส่วนพื้นที่ชายฝั่งใกล้เคียงในเกาะชวาและสุมาตรา กระแสน้ าทะเล ไหลบ่าท่วมทะลักเข้าไปถึงพื้นแผ่นดินภายในซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้าไปเป็นระยะทางหลาย ไมล์สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติครั้งนี้ และท าให้ไม่มี การเข้าไปตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกเลย ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้ได้กลายเป็นเขตป่าทึบ มีชื่อว่า เขตอนุรักษ์ธรรมชาติอูจังกูลอน (Ujung Kulon nature reserve)
สึนามิจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย
พ.ศ. 2547 สึนามิจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย คลื่นสึนามิครั้งแรกในประเทศไทย เกิดจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ระลอกคลื่นยักษ์ดังกล่าวท า ให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดจำนวนกว่า 165,000 ราย (มากกว่า 105,000 รายเสียชีวิตในอินโดนีเซีย คลื่นสึนามิได้ถาโถมเข้าถล่มและคร่าชีวิตผู้คนจ านวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่ใกล้กับจุด เกิดแผ่นดินไหว เช่น อินโดนีเซีย ไทย และพื้นที่บริเวณชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของ มาเลเซีย ไปจนถึงพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรในบังกลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา หมู่เกาะมัลดีลฟ์ และแม้กระทั่งโซมาเลีย เคนยา และแทนซาเนีย ซึ่งตั้งอยู่ในแถบแอฟริกา ตะวันออก
ประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดีย ยังไม่มีระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิที่สมบูรณ์ ส่วนหนึ่ง เนื่องจากไม่มีภัยพิบัติที่เกิดจากคลื่นยักษ์ในภูมิภาคมานานแล้ว นับตั้งแต่เกิดคลื่นสึนามิจากการ ระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวในปี พ.ศ. 2426 ซึ่งท าให้มีผู้เสียชีวิต 36,000 คน ภัยพิบัติสึนามิใน มหาสมุทรอินเดียล่าสุดนี้ส่งผลให้ยูเนสโกและองค์การระหว่างประเทศหลายแห่งออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิโลกขึ้น