ในประเทศไทย แม้จะยังไม่มีการศึกษาถึงประวัติการเกิดไฟป่าอย่างจริงจังมาก่อน แต่จากการศึกษาประวัติการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่มีอายุนับร้อยปีโดยการวิเคราะห์วงปีของต้นไม้ พบหลักฐานว่าได้เกิดไฟป่าขึ้นหลายครั้งในช่วงชีวิตของต้นไม้นั้น ๆ จึงพอบอกได้ว่าอย่างน้อยที่สุด ก็มีไฟไหม้ป่ามาเป็นเวลานับร้อยปีแล้ว
อย่างไรก็ตามในอดีตนั้น พื้นที่ประเทศไทยยังมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และเป็นป่า ประเภทที่มีความชุ่มชื้นสูง ไฟป่าที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์มีไม่บ่อยนัก จึงอยู่ในวิสัยที่กลไก ของธรรมชาติจะปรับตัวเพื่อรักษาสภาวะสมดุลของระบบนิเวศป่าไม้เอาไว้ได้
แต่ในช่วง 20 - 30 ปีที่ผ่านมา อัตราการเพิ่มของประชากรไทยเป็นไปอย่างรวดเร็ว ท าให้ความจ าเป็นในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้มีมากขึ้นตามไปด้วย ป่าไม้ถูกแผ้วถาง เป็นพื้นที่ทางการเกษตรกรรม พื้นที่ป่าถูกจัดสรรให้เป็นที่ตั้งและขยายชุมชนต่าง ๆ ท าให้พื้นที่ป่า ถูกท าลาย ผืนป่าที่เหลืออยู่ก็อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมและเปลี่ยนแปลงไปสู่ป่าที่มีความชุ่มชื้นน้อยลง เช่น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าละเมาะและป่าหญ้า ซึ่งเป็นป่าที่เกิดไฟป่าได้ง่าย ประกอบกับ ความยากจนของผู้คนในชนบทบีบบังคับให้ประชาชนต้องอาศัยป่าเพื่อการยังชีพมากขึ้น ไม่ว่าจะ ด้วยการเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ บุกรุกป่าเพื่อท าการเกษตร กิจกรรมเหล่านี้ล้วนต้องใช้ไฟและเป็น สาเหตุให้เกิดไฟป่าทั้งสิ้น
ไฟป่าจากกิจกรรมของประชาชนมีความถี่และความรุนแรงมากเกินกว่าที่กลไก ธรรมชาติจะปรับตัวเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศป่าไม้เอาไว้ได้ ไฟป่าจึงกลายเป็นปัจจัยที่สร้าง ความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ไฟป่ากลายเป็นปัญหา ส าคัญระดับชาติที่ทุกฝ่ายตระหนักและห่วงใยอยู่ในขณะนี้
ปัจจุบัน จากการส ารวจพื้นที่ไฟไหม้ป่า เปรียบเทียบการเกิดไฟไหม้ป่าในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่างปี พ.ศ. 2557 - 2558 พบว่าภาคเหนือมีพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้มากที่สุด
บนพื้นผิวโลกเกือบทุกทวีป ต่างเคยประสบกับปัญหาการเกิดไฟป่ามาแทบทั้งสิ้น การเกิดไฟป่ามีความรุนแรงมากหรือน้อยแตกต่างกันไป แม้แต่ประเทศที่มีความเจริญ ทางเทคโนโลยีก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเกิดไฟป่าได้ เช่น
ไฟไหม้ป่าที่อินโดนีเซีย
การเกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ไม่เพียงก่อให้เกิดความ เดือดร้อนเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียเท่านั้น แต่กลุ่มควันสีดeที่หนาทึบถูกลมพัดพาเข้าสู่ประเทศ เพื่อนบ้านใกล้เคียง เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงทางภาคใต้ของประเทศไทยด้วย
ไฟไหม้ป่าที่ประเทศมาเลเซีย
เมื่อเดือนมีนาคม 2558 มาเลเซียได้ประสบปัญหาหมอกควันในเมืองหลวง กรุงกัวลาลัมเปอร์ และเมืองโดยรอบ เนื่องจากปัญหาไฟป่าที่เกิดจากภาวะแห้งแล้งภายในประเทศ กรุงกัวลาลัมเปอร์เผชิญปัญหาหมอกควันจากไฟป่าเมื่อย่างเข้าฤดูร้อน ส่งผลให้มลพิษในอากาศ เพิ่มสูงจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ