สำหรับในประเทศไทยการเกิดเหตุการณ์ดินถล่มนั้นส่วนใหญ่มีตัวกลางสำคัญ ในการเคลื่อนย้ายมวลของดินคือ น้ำ โดยมากแล้วจะมีสาเหตุหลักมาจากการเกิดฝนตกหนักและ น้ำท่วมทำให้ดินไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มรุนแรง
22 พฤศจิกายน 2531 บ้านกะทูนเหนือ อ าเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตประมาณ 230 คน บ้านเรือนเสียหายประมาณ 1,500 หลัง พื้นที่การเกษตร เสียหาย 6,150 ไร่ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
11 กันยายน 2543 บ้านธารทิพย์ อ าเภอหล่มสัก และบ้านโพธิ์เงิน อ าเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้เสียชีวิต 10 คน สูญหาย 2 คน บ้านเรือนเสียหาย 363 หลัง การปศุสัตว์และ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
4 พฤษภาคม 2544 อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ผู้เสียชีวิต 43 คน สูญหาย 4 คน บ้านเรือนเสียหาย 18 หลัง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
11 สิงหาคม 2544 ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้บาดเจ็บ 109 คน เสียชีวิต 136 คน สูญหาย 4 คน บ้านเรือนเสียหาย 188 หลัง เสียหายบางส่วน 441 หลัง คิด เป็นมูลค่าประมาณ 645 ล้านบาท
22 พฤษภาคม 2547 บ้านสบโขง หมู่ 10 ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัด แม่ฮ่องสอน ผู้ประสบภัย 400 คน 120 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหาย 100 หลัง
17 ตุลาคม 2547 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เกสเฮาส์ 14 หลัง เสียหาย ดินทับหลังคา รั้ว และผนังห้อง 10 หลังเสียหาย รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
22 พฤษภาคม 2549 พื้นที่อำเภอลับแลอำเภอเมืองและ อำเภอท่าปลาจังหวัด อตุรดิตถ์ มีประชาชนผู้ประสบภัย ประมาณ 128,800 คน โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 66 ราย สูญหาย 37 คน บ้านเรือนเสียหาย 3,076 หลัง ในจำนวนนี้เป็นบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง จำนวน 4 หลังคาเรือน
9 ตุลาคม 2549 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บ้านเรือนเสียหายรวม 29 หลัง
3 สิงหาคม 2554 บ้านปู่ทา ปิดทับเส้นทางหลวงแผ่นดิน 1194 แม่สะเรียง-แม่สาม แลบ กว่า 10 จุด และปิดทับบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง และเสียหายบางส่วน 9 หลังมี ผู้เสียชีวิต 9 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน
23 กันยายน 2554 บ้านเปียงกอก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ทรัพย์สินได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และสูญหาย จำนวน 2 ราย
28 กันยายน 2554 บ้านเมืองก๋าย ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเรือนของประชาชนเสียหายจำนวน 4 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย และสูญหาย จำนวน 1 ราย
การเกิดดินโคลนถล่มของประเทศในทวีปเอเซียมีลักษณะคล้ายกัน คือ มักเกิดใน พื้นที่ภูเขาที่มีความลาดชัน จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มีพายุ ฝนตกรุนแรงต่อเนื่อง หลายวัน บวกกับฝีมือมนุษย์ที่ท าลายป่าไม้ ซึ่งท าหน้าที่ดูดซับอุ้มน้ า เมื่อฝนตกหนักต่อเนื่อง ยาวนานมากกว่า 24 ชั่วโมง มักจะเกิดแผ่นดินถล่มเอาดินโคลน เศษหิน ซากไม้ลงมาพร้อมกับ สายน้ าสร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินทุกครั้ง และการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มักเกิดถี่ ขึ้นและรุนแรงมากขึ้นทุก ๆ ครั้งด้วย
น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม เสฉวนประเทศจีน จาก “ซูเปอร์ไต้ฝุ่นซูลิก (Soulik)”
หลังจากหลายพื้นที่ของจีนประสบกับพายุฝนที่โหมกระหน่ ามาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน กรกฎาคม 2556 ท าให้ประชาชนต้องเผชิญกับอุทกภัยและดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหาย ต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ประเทศจีนยังประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่น “ซูลิก” (Soulik) พัดเข้า ถล่มอีกระลอก เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2556 ทำให้เกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มทับร่างของ ประชาชนกว่า 30-40 คนในมณฑลเสฉวนของประเทศจีน เนื่องจากฝนที่ตกหนักจนทำให้เกิด น้ าท่วมฉับพลัน มีหลายพื้นที่ซึ่งได้รับกระทบจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันโดยเฉพาะที่ มณฑลเสฉวน สะพาน 3 แห่ง ได้พังถล่มลงมา เหตุดินโคลนถล่มและน้ าท่วมเกิดขึ้นบ่อยในเขต ภูเขาของจีน ท าให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนทุกปี ซึ่งภัยธรรมชาติในครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหาย อย่างมาก เทียบเท่ากับการเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 2 ครั้ง ในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา ทั้งนี้ประเทศ จีนต้องประสบกับภัยทางธรรมชาติมาโดยตลอดในระยะเวลา 30 ปี
ดินโคลนถล่มในประเทศอัฟกานิสถาน
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 เกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มในเขตชนบททางภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอัฟกานิสถาน และคาดเดาว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายกว่า 2,700 คน ดินถล่มครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านถูกพัดกลืนหายไป ครอบครัวนับร้อยต้องสูญเสียทุกสิ่งอย่าง
ดินโคลนถลม่ที่ประเทศศรีลังกา
เหตุการณ์ดินถล่มในจังหวัดบาดุลลา ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 โดยหายนะเกิดจากพื้นที่เกิดเหตุได้เผชิญกับมรสุมหนัก ท าให้ดินโคลนได้ถล่มลงมาทับ หมู่บ้านปลูกชามีริบาเบดดา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของศรีลังกาอย่างไม่ทันตั้งตัว ถล่มทับหมู่บ้านแห่งนี้ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 140 หลังพังและจมอยู่ใต้ดินโคลนที่ถล่ม ลงมา มีผู้สูญหายไม่ต่ ากว่า 300 คน และคาดว่าน่าจะมีประชาชนถูกฝังทั้งเป็นมากกว่า 100 ราย