ประเทศไทย มีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ทางภาคตะวันตก ภาคเหนือ และภาคใต้ของ ประเทศ จ านวน 14 รอยเลื่อน การเกิดแผ่นดินไหวในแต่ละครั้งมีระดับความรุนแรงต่างกันออกไป หากมีระดับความรุนแรงน้อยก็จะไม่ท าให้เรารับรู้แรงสั่นสะเทือน การเกิดแผ่นดินไหวจะท าให้ แผ่นเปลือกโลกบริเวณจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวและบริเวณที่เกี่ยวข้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น แผ่นดินแตกแยก แผ่นดินยุบ แผ่นดินหรือภูเขาถล่ม ไฟไหม้ เป็นต้น
สถิติการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยในช่วงระยะเวลา 15 ปี ที่มีจุดศูนย์กลาง อยู่ในประเทศไทย และเป็นแผ่นดินไหวที่มีขนาด 5.0 ตามมาตราริกเตอร์ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับที่รับรู้ แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง และท าให้วัตถุสิ่งของเคลื่อนที่
ทวีปเอเชีย เป็นบริเวณที่มีเปลือกโลกใกล้เคียง จ านวน 4 แผ่น ได้แก่ แผ่นยูเรเชีย แผ่นแปซิฟิก แผ่นอินเดีย-ออสเตรเลีย และแผ่นฟิลิปปินส์ อีกทั้งเป็นบริเวณที่บรรจบกันของแนว แผ่นดินไหว 2 แนวคือ แนวล้อมมหาสมุทรแปซิฟิกและแนวเทือกเขาแอลป์-หิมาลัย จึงท าให้เกิด แผ่นดินไหวอยู่เสมอ ส าหรับประเทศญี่ปุ่น นับเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และคลื่นสึนามิอยู่เสมอ เนื่องจากท าเลที่ตั้งของประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นเกาะแล้ว ยังตั้งอยู่บนพื้นผิวโลกในบริเวณ “วงแหวงแห่งไฟ” ซึ่งเป็นบริเวณใน มหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวหรือบริเวณต าแหน่งศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ร้อยละ 80 จะอยู่บริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลกรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟิกหรือพื้นที่ที่เรียกกันใน ชื่อ “วงแหวนแห่งไฟ” ( Ring of Fire) วงแหวนแห่งไฟมีลักษณะเป็นเส้นเกือกม้าวางตัวตาม แนวร่องมหาสมุทร แนวภูเขาไฟและบริเวณขอบแผ่นเปลือกโลก โดยมีภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ภายใน วงแหวนไฟทั้งหมด 452 ลูก และเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่กว่าร้อยละ 75 ของภูเขาไฟคุกรุ่น อยู่ทั่วทั้งโลก
แผ่นดินไหวที่เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น พ.ศ. 2559
ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นหมู่เกาะ ประกอบไปด้วยเกาะส าคัญจำนวน 5 เกาะ ได้แก่ เกาะฮอกไกโด เกาะฮอนชู เกาะชิโกกุ เกาะคิวชู เกาะโอกินาว่า และมีเกาะขนาดเล็ก อีกประมาณ 4000 เกาะ เมืองหลวง คือ กรุงโตเกียว ในประเทศญี่ปุ่นมีภูเขาไฟทั้งหมด 186 ลูก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบประมาณ 60 ลูก ประเทศ ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในแนวของวงแหวนไฟ (Ring of Fire) ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นเกือกม้า ความยาวประมาณ 40,000 กิโลเมตร ทอดตัวตามแนวร่อง สมุทร แนวภูเขาไฟ และขอบของแผ่นเปลือกโลกเป็นบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหว ขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และจัดว่าเป็นบริเวณที่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากถึงร้อยละ 80-90 ของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส านักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวได้รายงานการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ตามมาตรา ริกเตอร์ในเมืองคุมาโมโตะบนเกาะคิวชู ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 01.25 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดแผ่นดินไหวก่อนหน้า (foreshock) ขนาด 6.2 ตามมาตราริกเตอร์ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2559 และเกิดแผ่นดินไหวตาม (aftershock) ประมาณ 800 ครั้ง เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ส่งผลให้บ้านเรือนพังทลาย 5,200 หลังคาเรือน สถานที่ส าคัญ เช่น ปราสาทคุมาโมโตะ ซึ่งหลังคา ตัวปราสาท และก าแพงได้รับความเสียหาย หลายส่วน และศาลเจ้าอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ พังทลายหลายส่วน รวมทั้งประตูทางเข้าซึ่งเป็น สมบัติแห่งชาติญี่ปุ่น มีรายงานภูเขาไฟอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะเกิดปะทุมีควันพุ่งออกมาประมาณ 100 เมตร เกิดดินสไลด์หลายจุด สามารถสรุปถึงสาเหตุของการเกิดความเสียหายทั้งชีวิตและ ทรัพย์สินจากเหตกุารณ์แผ่นดินไหว ดังนี้
1) ช่วงเวลาของการเกิดแผ่นดินไหวเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่นอนหลับพักผ่อน อยู่ในอาคารท าให้มีผู้เสียชีวิตจากการโดนตึกถล่มทับและติดอยู่ในซากตึก ส าหรับอาคารที่สร้าง ตามมาตรฐานต้านแผ่นดินไหวไม่ได้รับความเสียหาย
2) จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเมืองคุมาโมโตะ ซึ่งทำให้เกิด ความเสียหายรุนแรงมาก พื้นดินสั่นสะเทือนมากเนื่องจากมีพลังงานจากแผ่นดินไหวมาก และใน บริเวณใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวคลื่นจะถูกปลดปล่อยออกมาทุกความถี่ ไม่ว่าอาคารสูงหรือต่ำ ก็จะรับรู้ถึงความสั่นสะเทือนได้ทั้งหมด แต่เมื่อคลื่นแผ่นดินไหวเดินทางไปในระยะทางไกล ๆ ความถี่สูงจะถูกกรองออกจนเหลือแต่ความถี่ต่ า ๆ เท่านั้นทำให้สามารถรับรู้ถึงแรงสะเทือนได้ เฉพาะอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 7 ชั้นขึ้นไป
3) ความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้จัดว่าเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้น ท าให้พื้นดินสั่นสะเทือนมากขึ้น ส าหรับกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวขนาดเท่ากันแต่ความลึกแตกต่างกัน แผ่นดินไหวตื้นย่อมเสียหายรุนแรงมากกว่าแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ระดับลึก แผ่นดินไหวที่ เกิดในระดับลึกพื้นดินจะสั่นสะเทือนน้อยลง เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานจากแผ่นดินไหวใน ระหว่างเดินทาง
กรุงกาฐมาณฑุ และโปขรา ประเทศเนปาล พ.ศ. 2558
วันที่ 25 เมษายน 2558 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึง 7.8 ตามมาตราริกเตอร์ โดยมี จุดศูนย์กลางห่างออกไป 34 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองลัมจุง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง กรุงกาฐมาณฑุและโปขรา ในประเทศเนปาล สร้างความสูญเสียอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สิน โบราณสถานต่าง ๆ พังเสียหายมากมาย สาเหตุของแผ่นดินไหวครั้งนี้ มาจากการสะสมพลังของจุดแนวหิน (Locking line) ราว 80 ปี นับจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.0 ตามมาตราริกเตอร์ ในเนปาลเมื่อปี พ.ศ. 2477 ทั้งนี้แผ่นเปลือกโลกอินเดียนั้นปกติจะเคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศเหนือตลอดเวลาอยู่แล้ว มีอัตรา ความเร็วในการเคลื่อนตัวประมาณ 2.0 เซ็นติเมตรต่อปี ขอบบนของแผ่นเปลือกโลกอินเดียจะ เบียดเข้ากับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียซึ่งเป็นที่ตั้งของทวีปเอเชียและยุโรป การเบียดกันได้ดันแผ่นดิน ให้สูงขึ้นเป็นเทือกเขาหิมาลัยตั้งแต่หลายล้านปีที่แล้ว (ปัจจุบันเทือกเขาหิมาลัยก็จะมีความสูง เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ) โดยในการเบียดตัวขึ้นทางเหนือนี้แผ่นปลือกโลกอินเดียซึ่งมีความหนาแน่นสูงกว่า เปลือกโลกยูเรเซียจะมุดตัวลงด้านล่าง ท าให้เกิดจุดล็อกเนื่องจากความไม่เรียบของเปลือกโลก ท าให้แผ่นเปลือกโลกอินเดียเคลื่อนตัวต่อไปทางเหนือไม่สะดวกเกิดการสะสมแรงกดดันขึ้น จนเกิด แผ่นดินไหวขึ้นเพื่อปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ออกมา ในลักษณะแบบ Reverse thrust ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากประเทศเนปาลตั้งอยู่บริเวณขอบรอยเลื่อนพอดี