ดินโคลนถล่ม มีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งจากส่วนประกอบของดิน ความเร็ว กลไกในการเคลื่อนที่ ชนิดของตะกอน รูปร่างของรอยดินถล่ม ปริมาณของน้ าที่เข้ามาเกี่ยวข้องใน กระบวนการดินโคลนถล่ม และสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดดินโคลนถล่ม ดินโคลนถล่มมี 5 ประเภท ใหญ่ ๆ
การเกิดดินโคลนถล่ม เกิดจากการที่พื้นดินหรือส่วนของพื้นดินเคลื่อน เลื่อนตกหล่น หรือไหลลงมาจากที่ลาดชันหรือลาดเอียงต่างระดับตามแรงดึงดูดของโลกตามแนวบริเวณฝั่งแม่น้ำและชายฝั่งทะเลหรือมหาสมุทร รวมถึงบริเวณใต้มหาสมุทร
การเกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมาก โดยเฉพาะ ถ้าเกิดขึ้นบริเวณใกล้กับชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่จ านวนมาก ซึ่งผลกระทบตามมาจากการเกิด ดินโคลนถล่มท าให้เกิดความเสียหายในด้านหลักๆ 3 ด้าน ได้แก่ ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนด้านสุขภาพอนามัยและสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย
- เป็นการเร่งให้หน้าดินถูกชะล้าง พังทลายเพิ่มขึ้น เมื่อมาก ๆ เข้าป่าจะขาด ความอุดมสมบูรณ์ ป่าต้นน้ำจะถูกทำลายตามมาจนเกิดภาวะแห้งแล้งเพิ่มขึ้น
- ป่าและสัตว์ป่าลดลง ระบบนิเวศน์ก็จะเสียสมดุล
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศจากการพังทลาย การถูกทับถมด้วย กรวด ทราย และก้อนหิน
- สายน้ำเปลี่ยนทิศทาง เนื่องจากถูกกีดขวางจากตะกอนมหึมาที่ทับถมปิดกั้น เส้นทางการไหลของน้ำเป็นต้น
- ประชาชนผู้ประสบเหตุแผ่นดินโคลนถล่มได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รัฐบาล เสียงบประมาณในการรักษาการเจ็บป่วย
- ที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างเสียหายทำให้เป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอพยพโยกย้ายที่ อยู่อาศัย รัฐบาลเสียงบประมาณในการฟื้นฟูความเป็นอยู่เพื่อให้กลับมาดำเนินชีวิตต่อไปได้
- สัตว์เลี้ยงล้มตายและสูญหาย
- พื้นที่ทำกินและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย
- เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด สาธารณูปโภคต่าง ๆ ไม่ว่าไฟฟ้า ประปาใช้การ ไม่ได้
- ระบบสาธารณูปโภคเสียหาย อาจเกิดการระบาดของโรคต่าง ๆ
- เกิดการบาดเจ็บ ป่วยไข้ และทุพพลภาพ
- ผู้ประสบภัยมีปัญหาสุขภาพจิต หวาดวิตก เครียด ซึมเศร้า ส่งผลต่อสุขภาพ กายตามมา
พื้นที่ที่มีโอกาสเกิดภัยโคลนดินถล่ม หมายถึง พื้นที่และบริเวณที่อาจจะเริ่ม เกิดการเลื่อนไหลของตะกอนมวลดินและหินที่อยู่บนภูเขาสู่ที่ต่ำในลำห้วยและทางน้ำขณะเมื่อมีฝน ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ลักษณะของพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม มีข้อสังเกตดังนี้
- พื้นที่ตามลาดเชิงเขาหรือบริเวณที่ลุ่มใกล้เชิงเขาที่มีการพังทลายของดินสูง
- พื้นที่เป็นภูเขาสูงชันหรือหน้าผาที่เป็นหินผุพังง่ายและมีชั้นดินหนาจาก การผุกร่อนของหิน
- พื้นที่ที่เป็นทางลาดชัน เช่น บริเวณถนนที่ตัดผ่านหุบเขา บริเวณลำห้วย บริเวณเหมืองใต้ดินและเหมืองบนดิน
- บริเวณที่ดินลาดชันมากและมีหินก้อนใหญ่ฝังอยู่ในดิน โดยเฉพาะบริเวณที่ ใกล้ทางน้ำ เช่น ห้วย คลอง แม่น้ำ
- ที่ลาดเชิงเขาที่มีการขุดหรือถม
- สภาพพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่มีการทำลายป่าไม้สูง ชั้นดินขาดรากไม้ยึดเหนี่ยว
- เป็นพื้นที่ที่เคยเกิดดินถล่มมาก่อน
- พื้นที่สูงชันไม่มีพืชปกคลุม
- บริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงความลาดชันของชั้นดินอย่างรวดเร็วซึ่งมีสาเหตุ มาจากการก่อสร้าง
- บริเวณพื้นที่ลาดต่ำแต่ชั้นดินหนาและชั้นดินอิ่มตัวด้วยน้ำมาก
หมู่บ้านเสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม หมายถึง หมู่บ้านหรือชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ลำห้วยตามลาดเชิงเขา และที่ลุ่มที่อยู่ติดหรือใกล้เขาสูงอาจจะได้ผลกระทบจากการเลื่อนไหลของ ตะกอนมวลดินและหินปริมาณมากที่มาพร้อมกับน้ำตามลำห้วยจากที่สูงชันลงมาสู่หมู่บ้านหรือ ชุมชนที่ตั้งอยู่ โดยลักษณะที่ตั้งของหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม มีข้อสังเกตได้ดังนี้
- อยู่ติดภูเขาและใกล้ลำห้วย
- มีรอยแยกของพื้นดินบนภูเขา หรือร่องรอยดินไหลหรือเลื่อนบนภูเขา
- อยู่บนเนินหน้าหุบเขาและเคยมีโคลนถล่มมาก่อน
- มีน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมบ่อย
- มีกองหิน เนินทรายปนโคลนและต้นไม้ในห้วยหรือใกล้หมู่บ้าน
- พื้นห้วยจะมีก้อนหินขนาดเล็กและใหญ่ปนกันตลอดท้องน้ำ