คลื่นสึนามิ (tsunami) ตามความหมายจากแหล่งกำเนิดหมายถึง คลื่นซึ่งเคลื่อนตัว ในมหาสมุทรด้วยความเร็วสูงมาก และมีพลังรุนแรง สามารถเคลื่อนที่ไปได้เป็นระยะทางไกลๆ เมื่อ เคลื่อนที่เข้าสู่บริเวณชายฝั่งจะท าให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่มากที่เรียกกันว่า คลื่นยักษ์ ก่อให้เกิด ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายฝั่ง คลื่นชนิด นี้จึงแตกต่างจากคลื่นธรรมดาที่เกิดจากแรงลมพัดผ่านเหนือพื้นผิวน้ าในท้องทะเล ค าว่า tsunami มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า คลื่นอ่าวจอดเรือ (harbour waves) เนื่องจากบริเวณชายฝั่งของ ประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นอ่าวจอดเรือทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก มักได้รับผลกระทบหรือภัยพิบัติจาก คลื่นชนิดนี้อยู่เสมอ ๆ จึงเรียกชื่อตามอ่าวจอดเรือดังกล่าว ต่อมาชื่อนี้ได้น าไปใช้แพร่หลายจนเป็น ที่เข้าใจกันโดยทั่วไป ส าหรับประเทศไทย ราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติศัพท์ของคำว่า “tsunami” เป็นภาษาไทยว่า “คลื่นสึนามิ”
ลักษณะของ“คลื่นสึนามิ” คือ คลื่นที่เกิดการเคลื่อนตัวในมหาสมุทร ประกอบด้วย ชุดคลื่นที่มีความยาวมาก โดยมีระยะทางระหว่างยอดคลื่นแต่ละลูก มีความยาวตั้งแต่ 100 จนถึง 200 กิโลเมตร และมีคาบคลื่น คือ ช่วงเวลาเคลื่อนที่ของยอดคลื่นแต่ละลูก ใช้เวลาตั้งแต่ 10 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง คลื่นสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงตั้งแต่ 700 จนถึงมากกว่า 800 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง และเคลื่อนที่ไปได้ในระยะทางไกลหลายร้อยหรือหลายพันกิโลเมตร หากไม่มีผืนแผ่นดิน ใดๆ กั้นขวางอยู่ในทะเล ขณะเคลื่อนที่อยู่ในบริเวณน้ าลึก ความสูงของคลื่นไม่สูงมากนัก โดยสูง เพียง 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร แต่ถ้าคลื่นเคลื่อนเข้าไปถึงบริเวณน้ าตื้น ใกล้ชายฝั่ง จะเพิ่มความ สูงและความรุนแรงมากขึ้นตามล าดับ จนอาจมีลักษณะคล้ายกำแพงน้ำขนาดใหญ่ที่ถาโถมเข้าหา ชายฝั่งยิ่งถ้าบริเวณชายฝั่งเป็นอ่าวแคบ หรือมีรูปทรงเป็นกรวยยื่นเข้าไปภายในพื้นแผ่นดินด้วยแล้ว คลื่นอาจเพิ่มความสูงได้มากถึง 30 เมตร มวลน้ ามหาศาลที่คลื่นพัดพาขึ้นไปบนฝั่งจะปะทะกับ อาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ขวางหน้าซึ่งถ้าหากเป็นอาคารเตี้ย ๆ ที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรงก็จะถูก ท าลายจนราบเรียบ คลื่นสึนามิจึงนับเป็นพิบัติภัยที่ร้ายแรงมากอย่างหนึ่งของมนุษย์