ประเพณีเข้าพรรษาของกะเหรี่ยงนั้นมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้นอยู่กับกลุ่มกะเหรี่ยงและพื้นที่ แต่มีลักษณะร่วมคือ การรับอิทธิพลพุทธศาสนาและพิธีกรรมที่ผสมผสานกับความเชื่อดั้งเดิม เช่น พิธีทำ "ทะเดิ่ง" หรือ "ฉัตร" เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าและเป็นการเสริมบุญบารมี รวมถึงการไหว้เจดีย์ไฟในคืนวันออกพรรษาเพื่อส่งเทวดากลับสวรรค์และปัดเป่าสิ่งอัปมงคล.
ความเป็นมาและพัฒนาการ:
จากความเชื่อดั้งเดิม:
เดิมชาวกะเหรี่ยงนับถือศาสนาผี มีพิธีกรรมบวงสรวงและเซ่นสังเวย.
การนับถือศาสนาพุทธ:
ภายหลังชาวกะเหรี่ยงหันมานับถือศาสนาพุทธมากขึ้น แต่ยังคงรักษาความเชื่อดั้งเดิมไว้ โดยนำมาผสมผสานกับพิธีกรรมทางศาสนา.
การปรับใช้พิธีกรรม:
พิธีที่เกี่ยวข้องกับช่วงเข้าพรรษาของกะเหรี่ยงจึงเป็นการผสมผสานระหว่างการปฏิบัติในพุทธศาสนาเข้ากับความเชื่อดั้งเดิม.
ตัวอย่างประเพณีในช่วงออกพรรษา:
การทำ « ทะเดิ่ง หรือ ฉัตร »:
เป็นประเพณีสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนวันออกพรรษา โดยเป็นการรวมพลังสามัคคีของคนในชุมชนเพื่อจัดเตรียมวัสดุ ทำฉัตรจากไม้ไผ่จักตอก วัสดุตกแต่ง เช่น แมลง จักจั่น ปลา ดอกไม้ นำไปแห่ และปักรอบเจดีย์. พิธีนี้มีความเชื่อว่าเพื่อเสริมบุญบารมี และสะเดาะเคราะห์.
การไหว้เจดีย์ไฟ:
ในคืนวันออกพรรษา ชาวกะเหรี่ยงจะไหว้เจดีย์ไฟเพื่อเป็นการบูชาพระอรหันต์ และมีความเชื่อว่าการทำเทียนที่มีไส้เทียนมากกว่าอายุ 1 เส้นเป็นการต่อชะตาชีวิต.
การปล่อยโคมลอย:
การปล่อยโคมลอยในคืนวันออกพรรษา มีความเชื่อว่าเป็นการส่งเหล่าเทวดาอารักษ์ที่ลงมาช่วยปกป้องคุ้มครองชาวบ้านในช่วงเข้าพรรษากลับขึ้นสู่สวรรค์.
ความหมายและจุดมุ่งหมาย:
เสริมสร้างบุญบารมีและสะเดาะเคราะห์:
พิธีกรรมต่างๆ เช่น การทำฉัตร มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างบุญบารมีและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย.
ขอขมาและอวยพร:
เป็นการขอขมาต่อบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลในชีวิต.
ความสามัคคีในชุมชน:
พิธีต่างๆ มักเป็นการร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน ทำให้เกิดความสามัคคีและสร้างความผูกพันในสังคม.
ผู้ให้ข้อมูล https://www.google.com/search?
ผู้เรียบเรียง นางรัตนา ปักกัง
ภาพถ่าย เฟส นักล่าใต้แสงจันทร์