หมอนวดแผนไทย

บุคคลต้นแบบในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต

       ตำแหน่งในสังคม

       1. เป็นปราชญ์ชาวบ้านของบ้านห้วยโป่งสามัคคี

       2. คณะกรรมการศูนย์เรียนเศรษฐกิจพอเพียง หมู่11

       3. เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง ติดสังคม ( CC ) ของ

           รพสต.บ้านแม่ตืน

       4. เป็นผู้ช่วยแพทย์แผนไทย รพสต.แม่ตืน

  บุคคลต้นแบบตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ด้านอาชีพ

      ปัจจุบัน นางกนกพร ปันแสง ประกอบอาชีพ นวดแผนไทย และทำอาชีพรเสริมทำการเกษตร อาทิเช่น  การทำนา  ทำสวนลำไย นางกนกพร ปันแสง ได้หาความรู้จาก  หนังสือ  โทรทัศน์  และหนังสือพิมพ์  และได้เข้าร่วมศึกษาจาก อบรม และนางกนกพร ปันแสง ยังได้ฝึกปฏิบัติเพิ่มเติมจากการอบรม  เช่น เศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักพืชสวนครัวในครัวเรือน การปลูกพืชผักต่างๆ ทำปุ๋ยหมัก ทำปุ๋ยอินทรีย์ ทำฮอร์โมนไข่ ออร์โมนหน่อกล้วย จากการที่ นางกนกพร ปันแสง ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการเกษตร และไปศึกษาดูงานที่ ศูนย์การเรียนรู้ห้วยฮ้องไคร้ ศูนย์เรียนรู้ของหมายตำบลศรีวิชัย ทำให้ นางกนกพร ปันแสง ได้ทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง จนมีความรู้  ความเข้าใจ  สามารถที่จะนำความรู้นี้ไปสอนให้เด็กรุ่นหลัง และคิดได้ว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทำไม่อยาก  และยังให้ผลผลิตที่มาก และเป็นเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถทำได้ในครัวเรือน ทำให้เรา พอมี  พอกิน  พอใช้  ไม่ยากจน จนเกินไป

      การใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิต

       นางกนกพร ปันแสง ได้นำหลักปรัชญา 3 ห่วง 2 เงื่อนไข  เข้ามาใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองโดย เดินทางสายกลาง  3 ห่วง

 1.มีความพอประมาณ

นางกนกพร ปันแสง ประกอบอาชีพหลักคือ นวดแผนไทย  ครอบครัวมีรายได้จากการทำอาชีพจากนวดแผนไทย ได้เดือนละ 12,000.- บาท แต่นางกนกพร ปันแสง ก็ยังยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ พออยู่  พอกิน  พอใช้ โดยนางกนกพร ปันแสง ได้ปลูกผักไว้กินเอง ถ้าเหลือจากการขาย จึงนำไปแบ่งปันเพื่อนบ้าน ทำให้ นางกนกพร ปันแสง สามารถลดร่ายจ่าย และเพิ่มรายได้ ได้อีกด้วย

2.ความมีเหตุผล

       นางกนกพร ปันแสง ทำอาชีพ นวดแผนไทย โดยและทำอาชีพเสริมทำการเกษตร ยึดหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับเปลี่ยนการ ดำเนินอาชีพ ซึ่งเดิม ทำอาชีพเกษตรกรรมได้ใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี มากกว่าปุ๋ยชีวภาพ และการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้มีรายจ่ายที่มาก จึงเกิดแนวคิดว่าควรใช้ความรู้จากการที่ได้เข้าร่วมอบรมมาแล้ว มาเปลี่ยนแปลงตนเอง  เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยการเปลี่ยนจากการทำอาชีพเกษตรกรรม มาประกอบอาชีพนวดแผนไทยเพราะ ต้องใช้สารเคมี และปุ๋ยเคมีเป็นจำนวนมาก ในการพ่นสารเคมีใน     

การทำสวนกระหล่ำปลี ทำให้เป็นเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง จึงปรับเปลี่ยนตนเองมาประกอบอาชีพนวดแผนไทย ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นปลอดภัยจากสารเคมี มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และผู้ประกอบอาชีพนวดแผนไทยต้องมีสุขภาพที่สมบูรณ์ อ่านออกเขียนได้ มีความรู้ ความสามารถ ความรับผิดชอบ และทักษะทางวิชาชีพเพียงพอ มี คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และมีเจตคติที่ดีที่จะประกอบโรคศิลปะตาม ปรัชญาแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยึดถือสวัสดิภาพและสุขภาพของผู้ป่วยและสาธารณชนเป็นอันดับแรก โดยจะประกอบโรคศิลปะ เพื่อ บำบัดโรค รักษาผู้ป่วยด้วยการแพทย์แผนไทย เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชนและผู้ป่วยอย่างถึงพร้อมด้วยจริยธรรม แห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ให้บริการผู้มาใช้บริการนวดแผนไทยด้วยใจรักในวิชาชีพที่ได้ผ่านการฝึกอบรม และพร้อมกันนั้นนางกนกพร ปันแสง ก็ทำอาชีพเสริมเกษตรกรรมไปด้วย และได้หันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพแทนในการทำเกษตร การใช้ปุ๋ยชีวภาพยังปลอดภัยกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี  และยังรักษาสภาพดิน ผลผลิตที่ได้ก็มากกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี  และที่สำคัญ นางกนกพร ปันแสง ยังได้ทำปุ๋ยชีวภาพ การทำบ่อขยะภายในบ้านเพื่อนำมาเป็นปุ๋ยชีวภาพใช้ ปลูกผักสวนในครัวเรือน

 3.มีภูมิคุ้มกันที่ดี

       นางกนกพร ปันแสง ทำอาชีพนวดแผนไทย และทำอาชีพเสริมทำการเกษตร ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงและแน่นอนและพอใช้ในครอบครัว นางกนกพร ปันแสง ก็ยังยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีคุณธรรมและจริยธรรมประจำตัว จึงจะทำให้ผู้รับบริการเกิดความประทับใจ และมีเจตคติที่ดีต่อหมอนวดแผนโบราณ ไม่ดื่มสุรา ไม่หลอกลวง ไม่เลี้ยงไข้  ไม่เจ้าชู้ มีความสุภาพ ไม่แสดงกิริยาท่าทางลวนลามหรือใช้คำพูดแทะโลม และก่อนนวด นางกนกพร ปันแสง ต้องสอบถามโรคประจำตัว หรือจุดที่มีปัญหา เช่น ความดันโลหิตสูง หรือต่ำ โรคเบาหวาน และ ควรนวดหลังจากรับประทานอาหารมื้อหนักอย่างน้อยประมาณ ๑ ชั่วโมง 

หากเป็นอาหารว่าง เช่น กาแฟ ขนม หรือผลไม้เพียงเล็กน้อย อย่างน้อยประมาณ ๓๐ นาที เมื่อทำการนวดเสร็จแล้ว นางกนกพร ปันแสง ได้แนะนำ ผู้มาใช้บริการในการนวดต้องปฏิบัติ หลังการนวดไม่ควรอาบน้ำทันที ควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ หลังการนวด ควรพักผ่อนหลังการนวด  ทำให้นางกนกพร ปันแสง ปลูกผักสวนครัว ปลูกทุกอย่างที่กินได้ และเลี้ยงไก่เอง เลี้ยงปลา ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดรายจ่าย และยังเพิ่มรายได้ ไม่สุรุ่ยสุร่าย ทำให้ครอบครัวของ นางกนกพร ปันแสง ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ได้นำหลักการบัญชีครัวเรือนมาใช้ในการประเมินค่าใช้จ่ายของตนเองและครอบครัว ได้พัฒนาตนเองเพิ่มพูนความรู้จากเรื่องที่ อบรมมา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งๆขึ้นไป

 2 เงือนไข  คือ

มีความรู้ คู่ คุณธรรม  

นางกนกพร ปันแสง ได้พัฒนาอาชีพนวดแผนไทย  โดยการเข้าร่วมอบรมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิเช่น อบรมโครงการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ กระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2562

หลักสูตร 70 ชั่วโมง อบรมนวดแผนไทย สาธารณสุขอำเภอลี้ มีความรู้ความเข้าใจและสามารถปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิตของตนเองให้ดีขึ้นได้และสามารถเป็นต้นแบบให้กับกลุ่มนวดแผนไทย และกลุ่มเกษตรกรในหมู่บ้านได้ด้วย

นางกนกพร ปันแสง ยังมีความตระหนักในคุณธรรม  มีความซื่อสัตย์สุจริต ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัยและมีความอดทนต่อสิ่งต่างๆ  มีความเพียร  ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต