เรื่องที่ 2 ทักษะพื้นฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแก้ปัญหาและเทคนิคการเรียนรู้ด้วยตนเอง คำถามธรรมดา ๆ ที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถฟังอย่างรู้เรื่อง และคิดได้อย่างปราดเปรื่อง อ่านได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนเขียนได้อย่างมืออาชีพ ทั้งนี้ ก็เพราะเราเข้าใจกันดี ว่า ทั้งหมดนี้เป็นทักษะพื้นฐาน (basic skills) ที่สำคัญ และเป็นความสามารถ (competencies) ที่จำเป็น สำหรับการดำรงชีวิตทั้งในโลกแห่งการทำงาน และในโลกแห่งการเรียนรู้

การฟัง เป็นการรับรู้ความหมายจากเสียงที่ไดัยินเป็นการรับสารทางหู การได้ยินเป็นการเริ่มต้นของ การฟังและเป็นเพียงการกระทบกันของเสียงกับประสาทตามปกติ จึงเป็นการใช้ความสามารถทางร่างกาย โดยตรง ส่วนการฟังเป็นกระบวนการท างานของสมองอีกหลายขั้นตอนต่อเนื่องจากการได้ยิน เป็น ความสามารถที่จะได้รับรู้สิ่งที่ได้ยิน ตีความและจับความสิ่งที่รับรู้นั้น เข้าใจและจดจา ไว ้ซึ่งเป็น ความสามารถทางสติปัญญา การพูด เป็นพฤติกรรมการสื่อสารที่ใช้กันแพร่หลายทั่วไป ผู้พูดสามารถใช้ทั้ง วจนภาษา (คือการ สื่อสารโดยผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน) และอวัจนภาษา (คือการสื่อสารโดยไม่ใช้การฟัง การพูด การอ่าน เช่น ภาษาท่าทาง รูปลักษณ์ต่าง ๆ) ในการส่งสารติดต่อไปยังผู้ฟังได้ชัดเจนและรวดเร็ว การพดู หมายถึง การ สื่อความหมายของมนุษย์โดยการใช้เสียง และกิริยาท่าทางเป็นเครื่องถ่ายทอดความรู้ความคิด และความรู้สึก จากผู้พูดไปสู่ผู้ฟัง การอ่าน เป็นพฤติกรรมการรับสารที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการฟัง ปัจจุบันมีผู้รู้นักวิชาการและ นักเขียนนา เสนอความรู้ ข้อมูล ข่าวสารและงานสร้างสรรค์ ตีพิมพ์ ในหนังสือและสิ่งพิมพ์อื่น ๆ มาก นอกจากนี้แล้วข่าวสารสำคัญ ๆ หลังจากน าเสนอด้วยการพูด หรืออ่านให้ฟังผ่านสื่อต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะ ตีพิมพ์รํกษาไว้เป็นหลักฐาน ความสามารถในการอ่านจึงส าคัญและจำเป็นยิ่งต่อการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ในสังคมปัจจุบันการเขียน เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของบุคคลออกมาเป็นสัญลักษณ์ คือ ตัวอักษร เพื่อสื่อความหมายให้ผู้อูื่นเขา้ใจจากความข้างต้นทำให้มองเห็นความหมายของการเขียนว่า มี ความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น นักเรียน ใชก้ารเขียนบนัทึกความรู้ ทำแบบฝึกหัด และตอบข้อสอบบุคคลทั่วไป ใช้การเขียนจดหมาย ทำสัญญา พินัยกรรมและคำ่ประกัน เป็นต้น พ่อค้า ใช้ การเขียนเพื่อโฆษณาสินค้า ทำบญัชี ใบสั่งของ ทำใบเสร็จรับเงิน แพทย์ ใช้บันทึกประวัติคนไข้ เขียนใบสั่งยา และอื่น ๆ เป็นต้น