นายวิชาญ คำหนัก อายุ 62 ปี
บ้านเลขที่ 21/2 บ้านห้วยงูสิงห์ หมู่ที่ 4 ตำบลตะเคียนปม
อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน 51160
เบอร์โทรศัพท์ 080-6784650
ในช่วงก่อนจะถึงวันเพ็ญเดือนยี่ ชาวล้านนาจะประดิษฐ์โคมรูปลักษณะต่างๆ เพื่อเตรียมใช้ในการจุดผางประทีสบูชาที่วัดในวันเพ็ญเดือนยี่ โดยการแขวนใส่ค้างโคมบูชาตามพระธาตุเจดีย์ แขวนไว้หน้าวิหาร กลางวิหาร หรือในปัจจุบันนิยมแขวนประดับตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน โคมล้านนามีลักษณะหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่การสร้างสรรค์ตามภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น โคมรูปแบบโบราณที่พบทั่วไปในล้านนา เช่น โคมรังมดส้ม (โคมธรรมจักร) โคมดาว โคมไห โคมเงี้ยว(โคมเพชร) โคมกระบอก โคมหูกระต่าย
โคมดอกบัวโคมญี่ปุ่น โคมผัด ฯลฯ ในปัจจุบันมีการประดิษฐโคมรูปแบบใหม่ เช่น โคมรูปจรวด รูปเครื่องบิน โคมร่ม โคมปราสาท ฯลฯ โคมต่างๆเหล่านี้ ส่วนใหญ่ใช้ไม้ไผ่เฮียะ นำมาหักขึ้นเป็นโครง ติดกระดาษสาหรือกระดาษแก้ว ผ้าดิบ ตัดลายกระดาษสีเงิน สีทอง ประดับตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ปัจจุบันหมู่บ้านที่เป็นแหล่งผลิตโคมและจำหน่ายโคมที่ใหญ่ที่สุด คือ บ้านเมืองสาตร ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โคมยี่เป็งแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันที่รูปทรงและการประดับตกแต่งลวดลาย เป็นรูปแบบเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น
สำหรับจุดมุ่งหมายของโคมล้านนาเป็นการให้แสงสว่างในยามค่ำคืน และยังถวายเป็นพุทธบูชาในประเพณีสำคัญต่างๆ ทางพระพุทธศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันออกพรรษา เป็นต้น โดยการบูชาโคมล้านนามีความเชื่อว่าจะนำความสว่างไสวให้เกิดแก่ชีวิต สร้างความเป็นสิริมงคล ความเจริญ ความสุข แสงของโคมนำทางสู่สติปัญญาให้แก่เจ้าของบ้านและคนในครอบครัว เปรียบเสมือนแสงทางส่องชีวิตต่ออายุของผู้ถวายโคมไฟเพื่อเป็นพุทธบูชา และถ้าหากเกิดมาชาติหน้าจะเป็นบุคคลที่มีความฉลาดเฉลียว เปรียบดั่งแสงของเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงท่ามกลางความมืดมืด ต่อมาในภายหลังจึงมีการประดิษฐ์โคมในลักษณะรูปร่างต่างๆ ตามยุคตามสมัย แต่ยังคงเป็นการสืบสานงานศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาวล้านนาให้คงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน
ประเภทของโคมยี่เป็งประเภทต่าง ๆ
โคมกระจัง
โคมเงี้ยว
โคมญี่ปุ่น
โคมกระบอก
โคมไห
โคมหูกระต่าย
โคมแอว
โคมดาว
ไม้ไผ่
2. กระดาษสี
3. กาว
4. กรรไกร
5. เทปกาวหนังไก่
1. วัดไม้ความกว้างของช่อง 3 นิ้วครึ่ง วัดให้ได้ 9 ช่อง
2. หักตามรอยที่วัดไว้ 3 นิ้วครึ่ง
3. ประกอบให้เป็นวงตามรูป
4. ทำเป็นวงแบบนี้จำนวน 6 ชิ้น
5. เอามาประกอบตามมุมที่หักไว้โดยใช้กาวหนังไก่พันยึดไว้
6. เอา 6 ชิ้นมาประกอบกันตามมุมก็จะได้ รูปทรงแบบนี้
7. นำกระดาษมาติดตามช่อง
8. เว้นช่องข้างบนและล่างไว้ ช่องล่างไว้สำหรับติดหางโคม ข้างบนสำหรับพูกเชือกและติดหลอดไฟ
9. ตัดหางโคมให้ได้ 4 เส้น ตามรูปทรงที่ท่านต้องการ
ขั้นตอนที่ 1
วัดไม้ความกว้างของช่อง 3 นิ้วครึ่ง
วัดให้ได้ 9 ช่อง
ขั้นตอนที่ 2
หักตามรอยที่วัดไว้ 3 นิ้วครึ่ง
ขั้นตอนที่ 3
ประกอบให้เป็นวงตามรูป
ขั้นตอนที่ 4
ทำเป็นวงแบบนี้จำนวน 6 ชิ้น
ขั้นตอนที่ 5
เอามาประกอบตามมุมที่หักไว้โดยใช้กาวหนังไก่พันยึดไว้
ขั้นตอนที่ 6
เอา 6 ชิ้นมาประกอบกันตามมุมก็จะได้ รูปทรงแบบนี้
ขั้นตอนที่ 7
เว้นช่องข้างบนและล่างไว้ ช่องล่างไว้สำหรับติดหางโคม ข้างบนสำหรับพูกเชือกและติดหลอดไฟ
ขั้นตอนที่ 8
เว้นช่องข้างบนและล่างไว้ ช่องล่างไว้สำหรับติดหางโคม ข้างบนสำหรับพูกเชือกและติดหลอดไฟ
ขั้นตอนที่ 9
ตัดหางโคมให้ได้ 4 เส้น ตามรูปทรงที่ท่านต้องการ
ข้อมูลอ้างอิง :
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สำนักหอสมุด ศูนย์สารสนเทศภาคเหนือ (2560). การทำโคมยี่เป็ง. [ออนไลน์]. สืบค้น วันที่ 23 มิถุนายน 2566, จาก https://lannainfo.library.cmu.ac.th/lannatradition/yeepeng-chomyeepeng.php
เรื่อง/เนื้อหาโดย นายวิชาญ คำหนัก
รวบรวม/เรียบเรียงโดย นางสาวฐิติมา พนัสโยธานนท์ บรรณารักษ์
ภาพถ่ายโดย ศูนย์สารสนเทศภาคเหนือ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่