ประวัติของ "บัวหลวงขาว"
บัวหลวง (Nelumbo nucifera) เป็นพืชที่มีประวัติยาวนานหลายพันปี มีหลักฐานการค้นพบเมล็ดบัวหลวงในประเทศจีนที่มีอายุกว่า 1,300 ปี และยังสามารถนำมาเพาะให้งอกได้ แสดงให้เห็นถึงความทนทานและพลังแห่งชีวิตอันน่าทึ่งของพืชชนิดนี้
สำหรับ "บัวหลวงขาว" โดยเฉพาะ มีชื่อเรียกในภาษาบาลี-สันสกฤตที่ปรากฏในพุทธศาสนาว่า "บุณฑริก" (Pundarika) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์สูงสุดในพุทธศาสนา: บัวหลวงขาวคือตัวแทนของสภาวะจิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง หลุดพ้นจากกิเลสโดยสิ้นเชิง เปรียบดังดอกบัวที่กำเนิดจากโคลนตม แต่สามารถชูช่อขึ้นมาเบ่งบานเหนือน้ำได้อย่างงดงามโดยไม่มีสิ่งสกปรกเจือปน
สัญลักษณ์ของการตรัสรู้: บัวหลวงขาวมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด
รากฐานแห่งอารยธรรม: ในอารยธรรมโบราณหลายแห่ง เช่น อียิปต์ อินเดีย และจีน บัวหลวงเป็นทั้งอาหาร ยารักษาโรค และดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมต่างๆ
ดังนั้น ประวัติของบัวหลวงขาวจึงไม่ได้ผูกติดกับนักผสมพันธุ์คนใดคนหนึ่ง แต่ผูกพันกับความเชื่อ จิตวิญญาณ และวิถีชีวิตของมนุษยชาติมานับพันปี
การทำความเข้าใจลักษณะของบัวหลวงเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดและขยายพันธุ์
ชื่อวิทยาศาสตร์: Nelumbo nucifera Gaertn.
ชื่อสามัญ: Sacred Lotus, Indian Lotus
ชื่อไทย: บัวหลวง, ปทุม, โกมล และ บุณฑริก (สำหรับดอกสีขาว)
ลักษณะเด่นที่แตกต่างจากบัวสกุล Nymphaea:
ใบ: ใบเป็นใบเดี่ยวรูปวงกลม ก้านใบติดอยู่กลางแผ่นใบ (Peltate) ผิวใบมีสารเคลือบคล้ายขี้ผึ้งทำให้น้ำไม่เกาะ (Lotus Effect) ใบแก่จะชูขึ้นเหนือน้ำ
ดอก: ก้านดอกแข็งแรง ชูดอกขึ้นเหนือน้ำอย่างสง่างาม
ฝัก (Receptacle): เมื่อกลีบดอกร่วง จะเห็นส่วนของรังไข่เจริญเป็นฝักรูปกรวยที่มีเมล็ดฝังอยู่ภายใน ซึ่งเป็นลักษณะที่พบในสกุล Nelumbo เท่านั้น
ไหล (Rhizome): มีลำต้นใต้ดินเป็นท่อนยาวเรียกว่า "ไหลบัว" หรือ "รากบัว" ซึ่งใช้สะสมอาหารและขยายพันธุ์
สำหรับนักขยายพันธุ์บัว "บัวหลวงขาว" และ "บัวหลวงชมพู" คือต้นกำเนิดและรากฐานทางพันธุกรรม (Foundation Stock) ของบัวหลวงลูกผสมทั้งหมดในโลก
เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม (Species): บัวหลวงขาวคือรูปแบบสีที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ใช่ลูกผสมที่มนุษย์สร้างขึ้นในยุคหลัง
แหล่งรวมยีนพื้นฐาน: เป็นแหล่งรวมยีนที่ควบคุมลักษณะสำคัญ เช่น ขนาดดอกที่ใหญ่ กลิ่นหอม ความแข็งแรงของก้านดอก และความสามารถในการปรับตัว
จุดเริ่มต้นของการพัฒนา: นักขยายพันธุ์บัวหลวงทั่วโลกใช้บัวหลวงขาวและชมพูดั้งเดิมเป็นพ่อแม่พันธุ์ในการคัดเลือกและผสมข้ามพันธุ์ เพื่อสร้างสรรค์บัวหลวงลูกผสมให้มีลักษณะใหม่ๆ เช่น:
สีใหม่: สีเหลือง, สีทูโทน, หรือสีที่เปลี่ยนไปตามวัน (Changeable)
รูปทรงใหม่: ดอกซ้อน (Double-petal), ดอกซ้อนแน่น (Thousand-petal)
ขนาดใหม่: บัวหลวงยักษ์ หรือ บัวหลวงแคระ (Dwarf/Micro Lotus)
ประวัติของบัวหลวงยังรวมถึงการเป็นพืชที่มนุษย์ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ซึ่งเป็นอีกมิติที่น่าสนใจ
อาหาร: รากบัว (เหง้า), ไหลบัว, สายบัว (ก้านใบ), เมล็ดบัว (ทั้งสดและแห้ง), ดีบัว (ต้นอ่อนในเมล็ด), และแม้กระทั่งกลีบดอกและเกสร สามารถนำมาประกอบอาหารและทำเครื่องดื่ม/ชาได้
ยา: ทุกส่วนของบัวหลวงมีสรรพคุณทางยาในตำรับยาแผนโบราณของเอเชีย