ประวัติของ"บัวสนามชัย" 

เป็น บัวในกลุ่มอุบลชาติ (Waterlily) สกุล Nymphaea ไม่ใช่บัวหลวง (Lotus) ถือเป็นการกลับมาที่สกุลบัวผันอีกครั้ง

1. ผู้สร้างและประวัติการตั้งชื่ออันเป็นมงคล

• ผู้สร้างสรรค์: ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณภัทรสน์ เกิดสุวรรณ และทีมงาน

• ปีที่เปิดตัว: พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019)

• ที่มาของชื่อ: ชื่อ "สนามชัย" ไม่ได้ตั้งขึ้นโดยบังเอิญ แต่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและร่วมเฉลิมฉลองในวาระอันเป็นมงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย คือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

  • เหตุผล: ชื่อ "สนามชัย" มาจาก "ถนนสนามไชย" ซึ่งเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค การตั้งชื่อนี้จึงเป็นการจารึกเหตุการณ์สำคัญของชาติไว้กับบัวสายพันธุ์ใหม่ที่งดงามได้อย่างลงตัว

2. การพัฒนาสายพันธุ์และพ่อแม่พันธุ์ (Parentage)

สำหรับนักขยายพันธุ์ รายละเอียดส่วนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง

• เป้าหมายการพัฒนา: ทีมวิจัย มทร.ธัญบุรี มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างบัวอุบลชาติลูกผสมให้มี สีสันใหม่ที่แตกต่าง ไปจากบัวที่มีอยู่เดิมในตลาด

• สายพันธุ์พ่อแม่: บัวสนามชัยเกิดจากการผสมข้ามระหว่างบัวลูกผสมของ มทร.ธัญบุรี เอง ซึ่งมีรหัสสายพันธุ์ที่ใช้ในการวิจัย โดยมีต้นแม่เป็นบัวลูกผสมรหัส RMUTT 13-37 ซึ่งมีลักษณะเด่นด้านการออกดอกดกและมีกลิ่นหอมแรง ผสมกับเกสรของบัวลูกผสมอีกต้นหนึ่งที่มีศักยภาพในการให้สีที่แปลกใหม่

• ความสำเร็จ: ผลจากการผสมพันธุ์และคัดเลือกอย่างเป็นระบบ ทำให้ได้บัวลูกผสมที่มีสีสันใหม่ตามเป้าหมาย มีความแข็งแรงทนทาน และมีลักษณะเด่นอื่นๆ ครบถ้วน

3. ลักษณะเด่นทางพฤกษศาสตร์

• ชื่อวิทยาศาสตร์: Nymphaea 'Sanam Chai'

• ประเภท: อุบลชาติเขตร้อน บานกลางวัน (Tropical Day-Blooming Waterlily)

• ดอก: นี่คือลักษณะที่โดดเด่นที่สุด

  • สี: มีสีที่เป็นเอกลักษณ์ คือ "สีเหลืองอมส้ม" หรือ "สีส้มโอรส" (Salmon-Orange/Peach) ซึ่งเป็นโทนสีที่หาได้ยากและเป็นที่ต้องการในตลาดบัวเขตร้อน

  • รูปทรง: ดอกเป็นรูปถ้วยเมื่อแรกบาน และจะบานแผ่ออกเป็นรูปดาวในวันถัดมา กลีบดอกซ้อนกันสวยงาม

  • ความดก: เป็นบัวที่ออกดอกดกตลอดทั้งปี

  • กลิ่น: มีกลิ่นหอมแรง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ถ่ายทอดมาจากต้นแม่

• ใบ: ใบเป็นรูปไข่ค่อนข้างกลม ขอบใบหยักมน ใบอ่อนมีจุดประสีน้ำตาลแดง เมื่อใบแก่จะจางลงเป็นสีเขียว

4. ความสำคัญและจุดเด่นในวงการบัว

• ความสำคัญทางวัฒนธรรม: เป็นบัวที่มีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์และเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำคัญของชาติในยุคปัจจุบัน ทำให้มีคุณค่าทางใจและเป็นที่ต้องการของนักสะสม

• ความสำคัญทางพฤกษศาสตร์: ความสำเร็จในการสร้าง โทนสีใหม่ (Novelty Color) เป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับการพัฒนาพันธุ์บัวในประเทศไทยและของโลก เป็นที่ต้องการของนักขยายพันธุ์เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอด

• บทบาทของสถาบันการศึกษา: เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของสถาบันการศึกษาไทย (มทร.ธัญบุรี) ในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชได้อย่างเป็นรูปธรรม มีมาตรฐานเทียบเท่ากับนักปรับปรุงพันธุ์อิสระชั้นนำ