ครูปัญชลิกา   ไชยเชษฐ์

2.1 สร้างและพัฒนาหลักสูตรระดับชั้นเรียน รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ว23103 ดำเนินการดังนี้

     1. ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษา

    2. ศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้

    3.จัดทำหลักสูตรระดับชั้นเรียน มีองค์ประกอบ ดังนี้

  3.1 ความสำคัญ ธรรมชาติและลักษณะเฉพาะของกลุ่มสาระ

3.2 วิสัยทัศน์ของกลุ่มสาระ พันธกิจ เป้าหมาย

  3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

  3.4 คุณภาพของผู้เรียน

  3.5 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

  3.6 จัดทำคำอธิบายรายวิชาและตัวชี้วัด

  3.7 จัดทำโครงสร้างรายวิชา

  3.8 จัดทำกำหนดการจัดการเรียนรู้

  3.9 จัดทำระบบการวัดและประเมินผล

    4. ดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตร โดยได้ดำเนินการ

       4.1  วิเคราะห์ตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ว23103ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 

      4.2  วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสาระการเรียนรู้มาตรฐานการเรียนรู้ กับกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อนำไปออกแบบและจัดทำหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560)

เอกสารข้อ 1  เพิ่มเติม

การเก็บรวบรวมข้อมูล

ขั้นตอนที่ 1  การสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อออกแบบพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับจัดกิจกรรมจัดการเรียนรู้ 

(Research; R1) จากการศึกษาค้นคว้าตำราเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

เอกสารข้อ 6 เพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 2

2.2  จัดทำและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23103 ตามแนวการจัดกระบวนการเรียนรู้ Active learning  โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ซึ่งเป็นขั้นตอนการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการลงมือทำ  โดยมีคุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งในและนอกสถานศึกษาที่มีความรู้ความสามารถช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ในเนื้อหา การเฉลยของตัวอย่างกิจกรรม และแบบฝึกทักษะ พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข (กระบวนการ PLC)

เอกสารข้อ 2 เพิ่มเติม

เอกสารข้อ 4 เพิ่มเติม

เอกสารข้อ 5 เพิ่มเติม

เอกสารข้อ 14 เพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 3 การใช้และการหาประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model) ร่วมกับการใช้สื่อ     

อินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง)  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   โดยจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้  จากการทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนคำยางพิทยา มีนักเรียนจำนวน 17 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)  ใช้เวลาในการทดลอง 100 นาที

เอกสารข้อ 3 เพิ่มเติม

เอกสารข้อ 7 เพิ่มเติม

เอกสารข้อ 8 เพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 4 การพัฒนาและการขยายผลการใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model) ร่วมกับการใช้

สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง)  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   โดยขยายผลให้ผู้สอนวิชาชีววิทยาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้

เอกสารข้อ 14 เพิ่มเติม

เอกสารข้อ 15 เพิ่มเติม

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

        1.  นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่ได้เรียนโดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่อ       อินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) เรื่อง การหักเหของแสง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05  โดย การทดสอบก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ  3.35 คะแนนและมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.69  ส่วนคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนนักเรียนทำคะแนนได้สูงขึ้นเท่ากับ 8.47  คะแนนและมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.18 ตามลำดับ  และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเมื่อพิจารณาผลที่ได้จากการศึกษาพบว่าเมื่อนักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้โดยรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model) ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน สสวท.(การทดลองเสมือนจริง) เรื่อง การหักเหของแสง  แล้วทำการทดสอบด้วยข้อสอบฉบับเดิมพบว่าผลการสอบนักเรียนมีคะแนนสูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model) ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน (การทดลองเสมือนจริง)  ตอน การหักเหของแสง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส่งผลต่อคะแนนสอบหลังเรียนอย่างชัดเจน   

       3. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1  ที่ได้เรียนโดยการสอนรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) เรื่อง การหักเหของแสง มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.34) และนักเรียนมีความพึงพอใจรายข้อในระดับมากที่สุดทุกข้อ

โดยสรุป  การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่อ                         

อินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) เรื่อง การหักเหของแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นได้  ดังนั้น ครูผู้สอนจึงควรนำการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง)  ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนด

นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566  จำนวน 17 คน  ร้อยละ 80 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการหักเหของแสงและผ่านการประเมินทักษะการทดลองโดยใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง)ที่ตั้งไว้

นักเรียนร้อยละ 100 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model) ร่วมกับการใช้สื่อ    อินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) เรื่อง การหักเหของแสง  มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.34 ขึ้นไป  เกินกว่าระดับความคาดหวัง