ข้าพเจ้าริเริ่มพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model) ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชันของ สสวท.(ห้องทดสองเสมือนจริง) เรื่องการหักเหของแสง ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ผลปรากฏว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่อ อินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) เรื่อง การหักเหของแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นได้ ดังนั้น ครูผู้สอนจึงควรนำการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL Model)ร่วมกับการใช้สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน(การทดลองเสมือนจริง) ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนด
รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566
ตารางสรุปผลสัมฤทธิ์รายวิชาที่สอน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566
รายงานการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
ผู้ศึกษา นางสาวปัญชลิกาไชยเชษฐ์
ปีที่พิมพ์ 2565
บทคัดย่อ
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพต้องอาศัยเทคนิคและวิธีการสอนหลายรูปแบบ แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นนวัตกรรมการสอนอย่างหนึ่งที่ช่วยให้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์บรรลุเป้าหมายได้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนคำยางพิทยา อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี จำนวน 22 คน ซึ่งได้โดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าระดับความยาก (P) ตั้งแต่ 0.40 ถึง 0.70 และค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.38 ถึง 0.86 มีค่าความเชื่อมั่นแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 3) แบบวัดความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ จำนวน 25 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy ) ตั้งแต่ 0.42 ถึง 0.84 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับของแบบวัดความพึงพอใจเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ t- test ( Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีประสิทธิภาพ 89.66/ 76.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 75/75
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีค่าเท่ากับ 0.8226 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 82.26
3. นักเรียนที่ได้เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนที่ได้เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.33) และนักเรียนมีความพึงพอใจรายข้อในระดับมากที่สุดทุกข้อ
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้น ครูผู้สอนจึงควรนำแบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนด