การประหยัดจากขนาดสะสม หรือ Cumulative economy of scale เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของกิจการ เพื่อดูสถานะของหุ้นว่า โดยแท้จริงแล้ว ผู้บริหารและลักษณะกิจการของหุ้นตัวนั้น มีศักยภาพในการใช้ทรัพยากร เน้นที่เป็น ที่ดิน อาคาร และเครื่องจักรอุปกรณ์ (property, plant and equipment) เพื่อสร้างกำไรซึ่งสะสมตกทอดอยู่ในกิจการในรูปมูลค่ากำไรของผู้ถือหุ้น (owner's earning) ได้ดีเพียงไร ในกรอบเวลาตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน และในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรอย่างไร การคำนวณหาค่า cumulative economy of scale ของหุ้น ทำได้โดยการสกัดข้อมูลจากงบการเงินเป็นรายไตรมาส หรือรายปี ในที่นี้จะแนะนำท่านผู้อ่านถึงแนวทางการคำนวณการประหยัดจากขนาดสะสมจากงบการเงินรายไตรมาสดังนี้
เริ่มจา่กการรวบรวมงบการเงินรายไตรมาสของกิจการที่สนใจทุกไตรมาสนับแต่ก่อตั้งกิจการมา ตามปรกติบริษัทที่ยังไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะทำงบการเงินเป็นรายปีเท่านั้น ต่อเมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้วจึงถูกบังคับให้เปิดเผยงบการเงินเป็นรายไตรมาส ดังนั้นค่าที่คำนวณได้สำหรับช่วงเวลาก่อนที่หุ้นจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นจะได้ค่าออกมาเป็นรายปี เมื่อรวบรวมเอกสารงบการเงินได้แล้ว จึงทำการคำนวณค่า cumulative economy of scale โดยเริ่มจากงบการเงินที่เก่าที่สุดไล่ไปมาจนถึงงบการเงินฉบับล่าสุดในปัจจุบัน ตามปกติข้อมูลในงบการเงินจะมีชุดตัวเลขสองชุด คือชุดที่เป็นของกิจการนั้นล้วน ๆ กับชุดที่เป็นผลรวมของตัวบริษัทนั้นและบริษัทย่อยทั้งหมด การวิเคราะห์ของเราจะใช้ชุดตัวเลขของกิจการรวม (consolidated items ) ไม่ใช่เฉพาะของบริษัทแม่ งบการเงินจะมีอยู่ 3 งบได้แก่ งบดุล (balance sheet) ตัวเลขแสดงค่า ณ วันสิ้นงวด, งบกำไร-ขาดทุน (income statement) ตัวเลขเป็นค่าของรอบระยะเวลาในงวดนั้น ๆ และ งบกระแสเงินสด (cash-flow statement) ตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการหาค่าการประหยัดจากขนาดสะสมได้แก่ จำนวนหุ้นของกิจการ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของกิจการ และ กระแสเงินสดซึ่งกิจการใช้ไปในการซื้อที่ดิน อาคาร และเครื่องจักรอุปกรณ์ ขั้นตอนการคำนวณค่าและตำแหน่งในงบการเงินของข้อมูลเป็นดังนี้
หา [ cash flow from operation activities = กระแสเงินสดที่ได้รับ (ใช้ไป) จากการดำเนินงาน ] ข้อมูลนี้อยู่ในงบกระแสเงินสด
หา [ capital expenditures = cash paid for acquisition of property plant and equipment = เงินสดที่จ่ายเพื่อซื้อ ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์] ข้อมูลนี้อยู่ในงบกระแสเงินสด
owner's earning = [cash flow from operation] - [capital expenditures] = กำไรของผู้ถือหุ้น = ข้อ 1 ลบ ข้อ 2
หาร ข้อ 3 และ ข้อ 2 ด้วยจำนวนหุ้นของกิจการ (ข้อมูลนี้อยู่ในงบดุล) จะได้ owner's earning per share และ capital expenditures per share
ทำตามขั้นตอนในข้อ 1-4 สำหรับแต่ละไตรมาส (หรือปี) ตั้งแต่งวดเก่าที่สุด ไล่มาจนถึงงวดปัจจุบัน รวมผลทั้งหมดของ owner's earning per share จะได้ cumulative owner's earning per share และรวมผลทั้งหมดของ capital expenditures per share จะได้ cumulative capital expenditures per share
ค่า cumulative economy of scale = [ cumulative owner's earning per share ] หารด้วย [ cumulative capital expenditures per share ]
ตัวอย่าง การคำนวณค่า owner's earning per share และ capital expenditures per share จากงบการเงินของ SNC สำหรับงวดไตรมาส 2011Q1 เป็นดังรูป (หน่วยพันบาท)
======================================================
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน
======================================================
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน
======================================================
งบดุล
======================================================
จากรูป งบการเงิน SNC ไตรมาส 2011Q1 มีเงินสดไหลเข้าจากการดำเนินงาน 159.135 ล้านบาท ซื้อที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ 65.132 ล้านบาท มีหุ้นที่ออกและชำระแล้ว 301,403,239 หุ้น
1. cash flow from operation = 159.13 ล้านบาท
2. capital expenditures = cash paid for acquisition of property plant and equipment = 65.13 ล้านบาท
3. owner's earning = 159.13 - 65.13 = 94.00 ล้านบาท
4. owner's earning per share = 94.00/301.40 = 0.31 บาท และ capital expenditures per share = 65.13/301.40 = 0.22 บาท
ทำข้อ 1-4 สำหรับทุกไตรมาสเริ่มจากงวดเก่าที่สุดไล่มาจนถึงงวดใหม่ที่สุด แล้วรวมตัวเลขของทุกงวดจะได้
a. cumulative owner's earning per share = 1.09 บาท
b. cumulative capital expenditures per share = 7.20 บาท
ผลการคำนวณข้อมูลของทุกงวดแสดงในตาราง
ดังนั้น cumulative economy of scale ของ SNC ณ สิ้นสุดไตรมาส 2011Q1 = a/b = 1.09/7.20 = 0.15 หรือ 15% หรือพูดได้ว่า ที่ผ่านมา SNC ซื้อที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ รวม 100 บาท ดำเนินงานไปแล้วได้กำไรที่ตกทอดไปยังผู้ถือหุ้นในรูปมูลค่าที่สะสมไว้ในกิจการรวมทั้งหมด 15 บาท ค่า cumulative เป็นค่าที่สะท้อนผลกระทบ (บวกและลบ) จากการกระทำทุกอย่างของบริษัทจากอดีตถึงปัจจุบันย้อนไปเท่าที่มีข้อมูล ทำให้ได้ภาพที่เป็นจริงมากกว่าพิจารณาปัจจุบันสั้น ๆ แล้วไปคาดหมายอนาคต
[ ลืมตลาดไทยที่เล็กจิ๋ว เอาห้าพันบาทไปลองลงทุนในตลาดโลกกันดีกว่า ]
[ หน้าแรก ] [ This page in English ]