ผลลัพธ์ (Outcomes) ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา
ด้านนโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) ตามนโยบายของ สพฐ. ตัวชี้วัดที่ 7 การแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. กลุ่มเป้าหมาย
ผู้นิเทศพิจารณาเลือกครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ที่สนใจรับการนิเทศโดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ผ่านการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน(Professional Learning Community - Lesson Study) : (PLC-LS) ทั้งแบบออนไซต์และแบบออนไลน์ จากโรงเรียนในสังกัดทั้ง 85 โรงเรียน (อย่างน้อยโรงเรียนละ 1 วงสนทนา) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 (ตามแผนการนิเทศ ครั้งที่ 2/2565) และภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 (ตามแผนการนิเทศ ครั้งที่ 1/2566)
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
การนิเทศ ติดตามและประเมินผลการขับเคลื่อนสถานศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มีการดำเนินการแบบวิจัยและพัฒนาเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพปัญหา ระยะที่ 2 การสร้างความเข้าใจ และระยะที่ 3 ติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียนในสังกัด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพปัญหา โดยมีการขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 ศึกษา วิเคราะห์ ประชุมคณะทำงาน เพื่อวางแผนและจัดทำรายละเอียดกรอบภาระงานการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) ภายใต้โครงการการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ขั้นที่ 2 สำรวจสภาพปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ พัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนสถานศึกษาผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์
ระยะที่ 2 การสร้างความเข้าใจ ประกอบด้วย
ขั้นที่ 1 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขและฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยจัดทำเว็บไซต์ เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินการขับเคลื่อนการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนกับครูในสังกัดและผู้สนใจได้ศึกษา
เว็บไซต์เพื่อฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน
ลิงค์ http://learningloss.secondary33.go.th
การแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ในรูปแบบ AI
ชื่อ คลินิกแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) สพม.สุรินทร์
ลิงค์ https://shorturl.at/gkRSV
แพลตฟอร์มการคัดกรองภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ลิงค์ http://sr4child2566.sesao33.net/
ขั้นที่ 2 ประชุมชี้แจงรายละเอียดกรอบภาระงาน โดยจัดทำคู่มือการนิเทศแบบบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) โดยมีการเสนอและรับรองจากคณะกรรมการ ก.ต.ป.น.ของเขตพื้นที่และการประชุมผู้บริหารเพื่อรับทราบ
การประชุมชี้แจงให้โรงเรียน ศึกษาสภาพปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยการส่งหนังสือแจ้งโรงเรียนในสังกัด จำนวน 85 โรงเรียน เพื่อสำรวจภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน
ขั้นที่ 3 ออกนิเทศ ติดตาม ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนสร้างความรู้ความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยมีการประเมินครูผู้สอนที่เปิดชั้นเรียน ทั้งแบบออนไซต์และแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ลิงค์ http://dbnited2566a.sesao33.net/ เพื่อนิเทศ ติดตามการเรียนการสอนเพื่อการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยนำตัวชี้ PA4 ของ ว.PA เข้ามาเป็นตัวชี้วัดในวัดและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 4 การสร้างแรงจูงใจจากการดำเนินการภายในโรงเรียน โดยมีการจัดการประกวด Best Practice กิจกรรม การบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) กิจกรรม การบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) ในรูปแบบออนไลน์
ลิงค์ http://dbbest2565.sesao33.net/
ข้าพเจ้าได้ติดตามประเมินผลการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาของสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การศึกษาบรรลุผลตามพันธกิจที่กำหนดไว้ เช่น การแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ซึ่งมีความครอบคลุมในด้านการอ่าน การเขียน และ การคิดคำนวณ ทำให้ได้ศึกษาวิธีการ แนวคิด กระบวนในการส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ชี้แจงแนวทางในการดำเนินการให้โรงเรียนและผู้บริหารได้รับทราบ และให้ความรู้แก่ครูหัวหน้าวิชาการ เช่น การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การใช้กรอบหลักสูตรบูรณาการเรียนรู้กับท้องถิ่น เพื่อนำไปสื่อสารกับครูในโรงเรียนในการขับเคลื่อนประเด็นนี้ในทุกชั้นเรียน และทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้งนี้ทางกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาได้จัดประกวด Best Practice ระดับโรงเรียน ซึ่งทำให้ทราบว่าแต่ละโรงเรียนมีโครงการ/กิจกรรมต่างๆในขับเคลื่อน เช่น โรงเรียนศรีรามประชาสรรค์ได้นำนวัตกรรม PA Model ในการแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) แบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่ภาวะถดถอยเชิงผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ (Academic learning loss) ผ่านกิจกรรม Academic shopping และภาวะถดถอยเชิงคุณลักษณะของการเรียนรู้ (Attribute learning loss) ผ่านกิจกรรม Positive Thinking เพื่อให้นักเรียนเกิดคุณลักษณะ เก่ง ดี มีสุข โรงเรียนห้วยจริงวิทยา ใช้การบริหารโรงเรียนโดยใช้ H-JING Model โดยดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีที่มีโครงการ / กิจกรรม มีขั้นตอนการดำเนินงานแบบ P-D-C-A อย่างต่อเนื่อง โดยผสานความร่วมมือกับทุกกลุ่มงานในการพัฒนาผู้เรียนทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ จนส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลมากมาย นอกจากนี้ในแต่ละโรงเรียนก็มีโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ
ที่แก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ให้กับนักเรียน เช่น โครงการส่งเสริมวิชาการ ค่ายวิชาการ กิจกรรมสอนซ่อมเสริม เป็นต้น
ระยะที่ 3 ติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียนในสังกัด โดยมีการดำเนินการ 4 ขั้นตอน คือ
ขั้นที่ 1 การออกนิเทศ ติดตาม ครั้งที่ 2 โดยมีคู่มือการนิเทศแบบบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) เพื่อนิเทศ ติดตามการเรียนการสอนเพื่อการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยมีการประเมินครูผู้สอนที่เปิดชั้นเรียน ทั้งแบบออนไซต์และแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ลิงค์ http://dbnited2566a.sesao33.net/ ทั้งแบบออนไซต์และแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล http://dbnited2566a.sesao33.net/ เพื่อนิเทศ ติดตามการเรียนการสอนเพื่อการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน โดยนำตัวชี้ PA4 ของ ว.PA เข้ามาเป็นตัวชี้วัดในวัดและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 2 ขยายผลการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) ของครูผู้สอนมาจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์
-การประชุมชี้แจงรายงานผลการดำเนินการแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) ของผู้เรียน
ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ณ ห้องหัสดิน สพม.สุรินทร์
ขั้นที่ 3 การส่งเสริมให้ครูผู้สอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ได้พัฒนาการจัดการเรียนการสอนและส่งผลงานเพื่อร่วมการประกวดคัดเลือกผลงานนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) ประเภท ครูผู้พัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ผ่านการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) ประจำปีการศึกษา 2566
ขั้นที่ 4 สรุปและประเมินผลการดำเนินการเพื่อปรับปรุงและพัฒนาในปีงบประมาณถัดไป
3. ผลการดำเนินงาน
เชิงปริมาณ
1. โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนสถานศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ โดยมีการจัดกิจกรรม/โครงการเพื่อการแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน คิดเป็นร้อยละ 100 ของโรงเรียนในสังกัด
2. โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีการรายงานผลการคัดกรองนักเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ผ่านแพลตฟอร์มของระบบนิเทศติดตาม สพม.สุรินทร์ คิดเป็นร้อยละ 100 ของโรงเรียนในสังกัด
3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีผลการดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน การแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ดังนี้
3.1 ผู้เรียนที่ได้รับการคัดกรองภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ประเด็น (อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น) ทั้งหมดจำนวน 54,117 คน
3.2 ผู้เรียนที่ไม่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ประเด็น “อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น” จำนวน 49,219 คน
3.3 ผู้เรียนที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ประเด็น “อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น” จำนวน 4,898 คน
3.3.1 ผู้เรียนที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ประเด็น “อ่านออก” ทั้งหมดจำนวน 3,566 คน และมีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ลดลง จำนวน 3,316 คน คิดเป็นร้อยละ 92.99
3.3.2 ผู้เรียนที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ประเด็น “เขียนได้” ทั้งหมดจำนวน 3,167 คน และมีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ลดลง จำนวน 2,980 คน คิดเป็นร้อยละ 94.10
3.3.3 ผู้เรียนที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ประเด็น “คิดเลขเป็น” ทั้งหมดจำนวน 4,355 คน และมีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ลดลง จำนวน 4,011 คน คิดเป็นร้อยละ 92.10
4. โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดบทเรียนร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ในวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ผลการดำเนินงานพบว่ามีครูเข้าร่วม 126 คน ครบ 85 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 100
5. สหวิทยาเขตทั้ง 8 สหวิทยาเขตมีโรงเรียนต้นแบบในการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) ผลการดำเนินงานพบว่ามีครูสมัครผ่านระบบ google form และระบบออนไลน์ช่องทางอื่น รวมทั้งสิ้นจำนวน 117 คน จำนวน 85 โรงเรียน คิดจากสหวิทยาเขต สหวิทยาเขต 1 จำนวน 5 คน สหวิทยาเขต 2 จำนวน 7 คน สหวิทยาเขต 3 จำนวน 11 คน สหวิทยาเขต 4 จำนวน 31 คน สหวิทยาเขต 5 จำนวน 20 คน สหวิทยาเขต 6 จำนวน 35 คน สหวิทยาเขต 7 จำนวน 6 คน และสหวิทยาเขต 8 จำนวน 2 คน ซึ่งครบทั้ง 8 สหวิทยาเขต คิดเป็นร้อยละ 100
6. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีห้องเรียนต้นแบบและครูต้นแบบในการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ผ่านการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) ประจำปีการศึกษา 2566 ผลการดำเนินงานพบว่ามีครูสมัครผ่านระบบ google form และระบบออนไลน์ช่องทางอื่น รวมทั้งสิ้นจำนวน 117 คน จำนวน 85 โรงเรียน จำนวน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คิดเป็นร้อยละ 100 และเป็นไปตามแนวทางการประเมินตามตัวชี้วัดใน PA4 ของ ว.PA
เชิงคุณภาพ
1. โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนสถานศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) สามารถจัดกิจกรรม/โครงการเพื่อการแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ดำเนินการคัดกรองนักเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ผ่านแพลตฟอร์มของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีการนิเทศแบบบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) ซึ่งเป็นวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
4. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีการจัดประกวดคัดเลือกนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) การส่งเสริมการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) ของสถานศึกษา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาสถานศึกษาการขับเคลื่อนสถานศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss)
6. สหวิทยาเขตทั้ง 8 สหวิทยาเขต มีโรงเรียนต้นแบบในการการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) และสามารถขยายผลการดำเนินการที่เป็นเลิศไปยังโรงเรียนในสหวิทยาเขต
7. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีการจัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนและถอดบทเรียนร่วมกัน
8. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีเว็บไซต์เพื่อฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ที่ลิงค์ http://learningloss.secondary33.go.th และสร้างทางเลือกในการเข้าถึงการแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ในรูปแบบ AI ชื่อ คลินิกแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) สพม.สุรินทร์ ลิงค์ https://shorturl.at/gkRSV
9. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ มีครูต้นแบบ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ผ่านการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) ประจำปีการศึกษา 2566
10. ครูผู้สอนได้พัฒนาการจัดการเรียนรู้และมีผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียนโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ผ่านการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) ประจำปีการศึกษา 2566 โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่ใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติ
11. นักเรียนได้รับพัฒนาความรู้ ทักษะ/กระบวนการ และเจตคติที่ดีต่อการเรียนการสอนของครู ทำให้มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ลดลง และได้รับการพัฒนาให้สมรรถนะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
12. ผู้บริหารมีคุณธรรม เป็นผู้นำทางวิชาการ นำหลักธรรมมาภิบาลมาใช้ในการบริหารจัดการและมีความเป็นผู้นำทางวิชาการ
13. ทุกภาคส่วนสนับสนุน สู่พื้นที่นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล สนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมทางการศึกษาโดยประสาน ส่งเสริม สร้างเครือข่ายในการร่วมขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้สื่อการเรียนรู้ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีดิจิทัลแหล่งเรียนรู้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคเรียนที่ 2/2565
1. นักเรียนได้รับการสนับสนุน ช่วยเหลือดูแลทั้งด้านวิชาการและส่งเสริมลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์รวมทั้งทักษะและสมรรถนะสำคัญผู้เรียน
2. นักเรียนได้รับการแก้ไข หรือพัฒนาทั้งด้านวิชาการ ลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์รวมทั้งทักษะ และสมรรถนะสำคัญผู้เรียน
ภาคเรียนที่ 1/2566
1. นักเรียนได้รับการสนับสนุน ช่วยเหลือดูแลทั้งด้านวิชาการและส่งเสริมลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์รวมทั้งทักษะและสมรรถนะสำคัญผู้เรียน
2. นักเรียนได้รับการแก้ไข หรือพัฒนาทั้งด้านวิชาการ ลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์รวมทั้งทักษะ และสมรรถนะสำคัญผู้เรียน
ตัวชี้วัด (Indicators) ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น (โปรดระบุ)
ภาคเรียนที่ 2/2566
1. นักเรียนได้รับการสนับสนุน ช่วยเหลือดูแลทั้งด้านวิชาการและส่งเสริมลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์รวมทั้งทักษะและสมรรถนะสำคัญผู้เรียน
2. นักเรียนได้รับการแก้ไข หรือพัฒนาทั้งด้านวิชาการ ลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์รวมทั้งทักษะ และสมรรถนะสำคัญผู้เรียน
ภาคเรียนที่ 1/2567
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ตามค่าเป้าหมายของสถานศึกษา
3) ผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ........ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามค่าเป้าหมายของสถานศึกษา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ตามค่าเป้าหมายของสถานศึกษา
4) ผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ........มีสมรรถนะตามค่าเป้าหมายของสถานศึกษา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ตามค่าเป้าหมายของสถานศึกษา
5) ผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ........มี..........ตามค่าเป้าหมายที่กำหนด (เขียนผลลัพธ์ (Outcomes) ตามประเด็นท้าทายที่ผู้สอนกำหนดเอง)
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ตามค่าเป้าหมายของสถานศึกษา