ภูมิปัญญาชาวบ้าน หมอขวัญบายศรีสู่ขวัญ เอิ้นขวัญพวน
สืบสานภูมิปัญญาแห่งวิถีไทยพวน
ภูมิปัญญาชาวบ้าน หมอขวัญบายศรีสู่ขวัญ เอิ้นขวัญพวน
สืบสานภูมิปัญญาแห่งวิถีไทยพวน
ภูมิปัญญาชาวบ้าน หมอขวัญบายศรีสู่ขวัญ เอิ้นขวัญพวน
สืบสานภูมิปัญญาแห่งวิถีไทยพวน
นายสุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์
ภูมิปัญญาด้านหมอขวัญ พิธีสู่ขวัญหรือที่เรียกว่า "พิธีบายศรี" ในภาษาไทยพวนเรียกว่า “เอิ้นขวัญพวน”เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2482 ณ บ้านเกาะหวาย ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เป็นบุตรของนายจ๊ก แซ่บ่าง และนางละมูล นนท์ประเสริฐ สมรสกับนางสาวอัมพร สิงหวิบูลย์ มีบุตรธิดารวม 3 คน ในพิธีเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการอนุรักษ์และสืบสานพิธีกรรมและวัฒนธรรมของชุมชนไทยพวนในอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ด้วยความรู้และความสามารถที่สั่งสมมาตลอดชีวิตท่านได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและรักษามรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่
นายสุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์
ได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนย้วยโพธิ์แดงอนุสรณ์ ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายกวัฒนากร (วัดอุดมธานี) จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และศึกษาต่อกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองนครนายก ในหลักสูตรการประเมินเทียบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษา (ระดับต่ำกว่าปริญญาตรี) จนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย และศึกษาต่อในระดับสูงจนจบระดับปริญญาตรี เอกรัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา ปี พ.ศ. 2561 ในปีพ.ศ. 2519 อายุ 35 ปี ได้เข้าทำงานที่บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ในแผนกการขาย ตำแหน่งสุดท้ายคือหัวหน้าแผนกอบรมของบริษัท และในปี พ.ศ. 2521ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก และดำรงตำแหน่งจนเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2544 ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอปากพลี และได้เลื่อนเป็นประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก 2 สมัย 10 ปี ในขณะดำรงตำแหน่ง ได้รับคัดเลือกให้เป็นพ่อดีเด่นแห่งชาติ ปี 2563 ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก และได้รับคัดเลือกเป็นผู้ไกล่เกลี่ยประนีประนอมประจำศาลจังหวัดนครนายก
บทบาทและผลงานด้านพิธีกรรม
นายสุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์ เป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่องานด้านสังคมและมีบทบาทสำคัญในด้านศาสนพิธีและพิธีกรรมของชุมชนไทยพวน มีบทบาททั้งในเวทีระดับชุมชนและจังหวัดทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเกิดให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นทางด้านขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมและพิธีกรรม ทั้งการจัดและดำเนินพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีสู่ขวัญหรือที่เรียกว่า"พิธีบายศรี" ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญที่ทำในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเรียกขวัญและเสริมกำลังใจให้กับบุคคล พิธีสู่ขวัญนี้เป็นทั้งการแสดงความยินดีและการปลอบใจ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อและวัฒนธรรมของชุมชนไทยพวน จึงถือว่าเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านหมอขวัญ ในพิธีกรรมของชุมชนไทยพวนอำเภอปากพลี
ประเภทภูมิปัญญา
หมอขวัญในพิธีบายศรีสู่ขวัญ
หมอขวัญเป็นบุคคลสำคัญในพิธีบายศรีสู่ขวัญ ทำหน้าที่เป็นผู้นำประกอบพิธีกรรม โดยใช้ภูมิปัญญาทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมในการเรียกขวัญเพื่อเสริมสิริมงคลแก่เจ้าของขวัญ หมอขวัญมักเป็นผู้เฒ่าผู้แก่หรือบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับในชุมชน
หน้าที่ของหมอขวัญกับการประกอบพิธีกรรม
หมอขวัญเป็นผู้กล่าวบทสวดเรียกขวัญ เชิญขวัญให้อยู่กับตัวเจ้าของขวัญ ใช้คำพูดที่ไพเราะและมีความหมายมงคลเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
การจัดเครื่องบูชาและบายศรี
หมอขวัญต้องมีความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบของพานบายศรี เช่น ใบตอง ดอกไม้สด ข้าวต้ม ไข่ต้ม และด้ายผูกข้อมือ กำกับให้การจัดเตรียมเครื่องบูชาถูกต้องตามประเพณี
การผูกข้อมือ (ผูกแขน)
เป็นสัญลักษณ์ของการมอบพรและความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของขวัญใช้ด้ายมงคลที่ผ่านพิธีกรรมแล้วผูกข้อมือ พร้อมกล่าวคำอวยพรหมอขวัญเป็นปราชญ์พื้นบ้านที่มีความเชี่ยวชาญด้านพิธีกรรมบายศรีสู่ขวัญ มีบทบาทสำคัญในการประกอบพิธี การกล่าวคำมงคล การผูกข้อมือ และการให้คำแนะนำเกี่ยวกับขวัญ เพื่อเสริมขวัญกำลังใจและความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมพิธี
พิธีกรรม/ความเชื่อ
พิธีบายศรีสู่ขวัญ หรือการสู่ขวัญแบบพวน เป็นการเรียกขวัญเพื่อเป็นศิริมงคล ให้แก่ผู้รับการสู่ขวัญขวัญคือจิตวิญญาณของบุคคล ซึ่งถือว่าร่างกายและจิตใจหรือขวัญจะอยู่รวมกันจะทำพิธีในงานมงคลต่าง ๆ เช่นบ้านใหม่ บวช แต่งงาน และการต้อนรับ
พิธีบายศรีสู่ขวัญ ใช้เครื่องเชิญขวัญที่เรียกว่า เครื่องบายศรี ทำด้วยใบตองที่รูปคล้ายกระทงเป็นชั้นๆ ขนาดใหญ่เล็กสอบขึ้นตามลำดับ เป็น 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น หรือ 9 ชั้น มีเสาปักตรงกลางเป็นแกน มีเครื่องสังเวยวางอยู่ ในบายศรี และมีไข่ขวัญ(ไข่ต้ม) เสียบอยู่บนยอดบายศรี มีการพันด้ายสายสิญจน์ไว้โดยรอบมีการผูกรับขวัญ ผู้ทำพิธีกรรมเรียกว่า หมอขวัญ การสู่ขวัญเป็นประเพณีไทยพวนโบราณ ถือว่าเป็นสิริมงคลอันดีแก่การเป็นอยู่ ต้องให้หมอขวัญ เป็นผู้จัดพิธีกรรม มุ่งให้เป็นสิริมงคลแก่ผู้รับหมอขวัญจะแต่งกายรียบร้อย มีผ้าขาวม้าพาดบ่าตามขนบธรรมเนียม หมอขวัญจะมีการจัดพาขวัญ คือเครื่องบูชาจัดวางไว้ในโตกหรือพาน มีข้าวสวย ไข่ต้ม กล้วยน้ำหว้า ขนมต้ม เหล้า น้ำ ธูป เทียน ดอกไม้ ด้ายผูกแขน
หมอขวัญ จะมีการทำบุพกิจพิธีก่อนการสู่ขวัญ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้เข้ารับการสู่ขวัญ รวมถึงเพื่อให้พิธีกรรมสมบูรณ์และเป็นมงคล โดยมีทำพิธีกรรมเริ่มจากจุดเทียน กราบพระขอโอกาสเสียก่อน (ตั้งนโม ๓ จบ) พนมมือจับบายศรี อัญเชิญเทวดาอารักษ์ ให้ลงมาฟัง (ว่า บท สัคเค กาเม จะ รูเปฯ ) เริ่มนำประนมเข้าสู่พิธีการ จากนั้นจะให้ผู้เฒ่าผู้แก่ ผูกข้อมือรับขวัญ ให้พรและผูกด้ายสายสิญจน์ ให้กับทุกคนที่เข้าร่วมงาน เนื้อหาของบทสู่ขวัญเป็นการเรียกขวัญเข้ามาอยู่กับตัว นิยมผูกข้อมือซ้าย เพราะหัวใจอยู่เบื้องซ้าย เป็นสภาพเดิมของกำเนิด ควรได้รับการเอ็นดูก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล และเชื่อว่าเป็นการป้องกันขวัญออกจากร่าง ไปอีก แล้วกล่าวคำผูกแขนเป็นการอวยพรให้เจ้าของขวัญให้มีความสุข
บทสู่ขวัญน้อย
เป็นบทสู่ขวัญที่เป็นภาษาไทยพวน
ศรี ศรี มื้อนี้ แม่นมื้อดี แม่นมื้อชอบ มื้อประกอบวันดี วันชัยดิถี อมุตโชค
บัดนี้ ฝูงพ่อแม่แก่ลุงตา เพิ่นมานั่งล้อมเบิกคุณขวัญ เฮ้อเจ้าได้อยู่มั่น ดังก้อนผาแอ่น
ดังแท่นผาจวง ดังแท่นผาหลวงไกรลาศ ขอให้เจ้าเป็นอาสน์ ดังแม่โคนม ขอให้เจ้านั่งเตียง
พรมไปทุกชาติ ปูลาดไว้เป็นตัน สรรพสรรเงินตรา ก็ให้ได้มาพรั่งพร้อม พี่และน้องล้อม
มาพึ่งบุญ นำเจ้า…ชัยยะตุพวัง ชัยยะมังคะลัง ดั่งนี้ ข้าฯเทอญ ฯ
บัดนี้ ข้อยจักเชิญเอาสามสิบขวัญ ให้แล่นมาเต้า เก้าสิบขวัญให้แล่นมาโฮมแก่เจ้าเนอ
มาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเอ็ดไฮ่อยู่ป่าหญ้าคา ขวัญเจ้าไปเอ็ดนาอยู่ป่าหญ้าแฝก
ก็ให้มาเน้อ มื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปเถี่ยว ไปแถก ก็ให้มานี้วันนี้ มาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าหลง
ไปอยู่นำบุ่งผีนั่ง ไปอยู่นำตั่งผีหลวง ก็ให้มามื้อวันนี้
มาเยอขวัญเอย น้ำเพียงอกให้เจ้าตีวัวหยั่ง นำท่วมฝั่งให้เจ้าตีวัวลอย น้ำท่วมดอยให้คอย
เยอะคอยย่อง มาฮอดฮ่องน้อยให้เจ้าก่ายโขมา มาฮอดนาอย่ามัวซันกอข้าว มาฮอดเหง้าไม้
อย่าได้ทอดหัวนอน ดึกออนซอนอย่าได้สท้าน มาอยู่บ้านเฮือนของตน
มาเยอขวัญเอย ขวัญทั้งมวลมีฮ้อยซาวสี่ ให้มาอุ้มศรีอยู่ในตัวตน อย่ามีกังวลไปจักสิ่ง
อยู่มั่นมิ่งปานเทวดา สมบทคาถาว่า ชัยยะตุ พลัง ชัยยะมังคะลัง บัดนี้เทอญ
ความสำคัญต่อชุมชน
หมอขวัญมีบทบาทสำคัญในการประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานในชุมชนไทยพวน โดยพิธีกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในชุมชน แต่ยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไทยพวนที่ให้ความสำคัญกับความสามัคคีและความเป็นสิริมงคล นายสุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์ ถือเป็นปราชญ์ชาวบ้านผู้มีบทบาทสำคัญในการรักษาและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมนี้ ท่านได้อุทิศตนในการสืบสานและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านพิธีกรรม ทำให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของประเพณีดั้งเดิม ผลงาน ของท่านมีส่วนช่วยให้พิธีบายศรีสู่ขวัญยังคงอยู่คู่กับชุมชน โดยได้เป็นจุดเรียนรู้หนึ่ง ของมิวเซียม ปะพวน ที่ปากพลีร้างความเข้มแข็งและความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชาวไทยพวน ด้วยเหตุนี้ หมอขวัญและพิธีบายศรีสู่ขวัญจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อชุมชน ไม่เพียงแต่ในแง่ของวัฒนธรรม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันระหว่างผู้คน ส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และช่วยธำรงไว้ซึ่งรากเหง้าของชุมชนไทยพวนให้คงอยู่ต่อไป
บรรณานุกรม
มิวเซียม ปะพวน. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). แผ่นนิทรรศการ ชีวิตและผลงานของนายสุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์.
ปากพลี, นครนายก: มิวเซียม ปะพวน.
มิวเซียม ปะพวน. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). แผ่นนิทรรศการ พิธีบายศรีสู่ขวัญ. ปากพลี, นครนายก:
มิวเซียม ปะพวน.
สุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์. (2561). พิธีบายศรีสู่ขวัญ [แผ่นพับ]. สุทัศน์ แสงมณี (เรียบเรียงและจัดพิมพ์).
สุรศักดิ์ สิงหวิบูลย์. (สัมภาษณ์, วันที่ 18 เดือนมีนาคม พ.ศ.2568). ภูมิปัญญาชาวบ้าน หมอขวัญ
ในพิธีบายศรีสู่ขวัญ.
แหล่งข้อมูลออนไลน์
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหวาย. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). ทะเบียนปราชญ์ชาวบ้าน [ออนไลน์].
เข้าถึงได้จาก https://fa6.naxapi.com/kowai.go.th/dnm_file/news/15811132_center.pdf
[สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เดือนมีนาคม พ.ศ.2568].
มิวเซียม ปะพวน
วัดฝั่งคลอง ตำบล เกาะหวาย อำเภอปากพลี นครนายก
14.163716129005177, 101.26339939232984