ประเพณีทำบุญสลากภัตวัดพระธาตุจอมสวรรค์
วัดพระธาตุจอมสวรรค์ ตั้งอยู่ในเขตบ้านบวก หมู่ที่ ๓ ตำบลดงดำ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ประดิษฐานพระธาตุเก่าแก่และสำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอลี้ อยู่ท่ามกลางป่าเขา ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย เคยมาบูรณะไว้ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๘) วัดพระธาตุจอมสวรรค์ มีพระภิกษุประจำ 1 รูป ปีหนึ่งชาวบ้านเขตนี้ถึงจะขึ้นมาสรงน้ำพระธาตุ ตามประเพณีสรงน้ำพระธาตุจอมสวรรค์และทำบุญสลากภัตเป็นประจำทุกปี
ประเพณีสลากภัต
ประเพณีสลากภัต
ประเพณีตานข้าวสลากหรือสลากภัต ความหมาย ตานข้าวสลากหรือตานก๋วยสลาก เป็นภาษาถิ่น หมายถึงการที่ทายกทายิกา(ผู้ให้ทาน)นำข้าวปลาอาหารพร้อมทั้งสิ่งของ ใส่ในก๋วยหรือชะลอมที่สาน ด้วยไม้ไผ่ที่สมควรแก่พระสงฆ์ต้องใช้ชาวนาน้อย เรียกว่า กิ๋นสลาก บางท้องที่เรียกว่า ตานก๋วยสลาก บางแห่งเรียกว่า การถวายสลากภัต นับเป็นประเพณีที่เก่าแก่ที่เกิดขึ้นในพุทธศาสนา และเป็นประเพณีทางศาสนาที่สำคัญที่ชาวนาน้อยปฏิบัติสืบต่อกันมา
ประวัติความเป็นมาของการถวายสลากภัต
ในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร ได้มีนางกุมาริกาได้อุ้มลูกชายวิ่งหนีนางยักษ์ผู้มีเวรต่อกันหลายชาติแล้วติดตามมาจะทำร้ายลูกของนาง นางเห็นจวนตัวจึงพาลูกวิ่งหนีเข้าไปวัดเชตวันนำลูกน้อยวางแทบพระบาทพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงตรัสคำสอนต่อนางมาริกาและนางยักษ์ด้วยคำสอนที่ว่า เวรย่อมไม่ระงับด้วยเวร เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แล้วให้นางทั้งสองเห็นผิดชอบชั่วดีนางยักษ์รับศีลห้าแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า เมื่อรับศีลแล้วไม่รู้จะทำมาหากินอย่างไรนางกุมาริกาเห็นดังนั้น จึงรับอาสาพานางยักษ์ไปอยู่ด้วย นางยักษ์ได้รับการอุปการะจากนางกุมาริกาหลายประการจึงอยากตอบแทนบุญคุณนาง จึงเป็นผู้พยากรณ์เกี่ยวกับดินฟ้าอากาศให้กับนางมาริกาทำให้นางมาริการ่ำรวยขึ้นจากการประกอบอาชีพตามคำพยากรณ์ของนางยักษ์จนเพื่อนบ้านมีความสงสัยพากันขอความช่วยเหลือจากนางยักษ์ จนมีฐานะร่ำรวยขึ้น ด้วยความสำนึกในบุญคุณนางยักษ์จึงพากันซื้อเครื่องอุปโภค บริโภคอาหารการกินเครื่องใช้มาสังเวยให้กับนางยักษ์เป็นจำนวนมาก จนข้าวของนางยักษ์มีเหลือกินเหลือใช้นางยักษ์จึงนำมาเป็นสลากภัต โดยให้พระสงฆ์ได้ทำการจับเบอร์ด้วยหลักอุปโลกกรรม คือ ของที่ถวายมีทั้งของราคามากราคาน้อยพระสงฆ์รูปใดได้ของที่ราคาน้อยก็อย่าเสียใจให้ถือว่าเป็นโชคของตน
ประเพณีดังกล่าวประกอบด้วยเหตุผล ๗ ประการ
( ๑) ประชาชนว่างเว้นจากภารกิจการทำนา
( ๒) ผลไม้ เช่น ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ส้มเกลี้ยง กำลังสุก
( ๓) ประชาชนหยุดพักไม่เดินทางเพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน
( ๔) พระสงฆ์จำพรรษาอย่างพรักพร้อม
( ๕) ได้โอกาสสงเคราะห์คนยากจน
( ๖) ถือว่ามีอานิสงส์มาก คนทำบุญสลากมักจะมีโชคลอยมา
( ๗) มีโอกาสหาเงินและวัตถุบำรุงวัด
ระยะเวลาทำบุญทานสลากภัตหรือกิ๋นสลาก ทำกันตั้งแต่เดือน ๑๒ เหนือเป็นเรื่อยมาจนถึงเดือนยี่เหนือ คือ ช่วงเดือน ๑๑ - ๑๒ ของภาคกลาง ชาวบ้านจะนำพืชผลมาถวายใส่ไว้ในก๋วยสลาก สลากภัตของชาวนาน้อย แต่ปัจจุบันนิยมใส่จานธรรมดา ซึ่งของชาวตำบล เกาะตาล จะทำกันมากก็หน้าผลไม้ เช่น หน้ามะม่วง ประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ของทุกปี
เนื้อหาโดย : นายจอมแก่น พิศวงค์ / อบต.เกาะตาล จังหวัดกำแพงเพชร
เรืยบเรียงเนื้อหาโดย : นายจอมแก่น พิศวงค์
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ : โดย นายจอมแก่น พิศวงค์ / เทศบาลตำบลดงดำ /โรงเรียนบ้านบวก(อภิชัยราษฎรร์นฤมิต