การที่คนเรามีความสนใจแต่ตนเองและคำนึงถึงแต่ตนเอง จึงส่งผลให้เกิดเป็นประโยชน์ส่วนตนดังมีความหมายที่สรุปได้ ดังนี้
ประโยชน์ส่วนตน หมายถึง ความสนใจตนเอง การคำนึงถึงตนเอง
ประโยชน์ส่วนตน หมายถึง ผลประโยชน์ที่บุคคลได้รับ โดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ของตนหาผลประโยชน์จากบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ผลประโยชน์ส่วนตนมีทั้งที่เกี่ยวกับเงินทองและไม่ได้เกี่ยวกับเงินทอง เช่น ที่ดิน หุ้น ตำแหน่ง หน้าที่ สัมปทาน ส่วนลด ของขวัญ หรือสิ่งที่แสดงน้ำใจไมตรีอื่น ๆ การลำเอียงการเลือกปฏิบัติ เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป ประโยชน์ส่วนตน เป็นการคำนึงถึงตนเอง เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากบุคคลหรือกลุ่มบุคคล เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด
2. ผลประโยชน์ส่วนตน (private interest) “ผลประโยชน์” คือสิ่งใด ๆ ที่มีผลต่อบุคคล กลุ่มบุคคลไม่ว่าในทางบวกหรือลบ “ผลประโยชน์ส่วนตน” ไม่ได้ครอบคลุมเพียงผลประโยชน์ด้านการงานหรือธุรกิจของเจ้าหน้าที่ แต่รวมถึงคนที่ติดต่อสัมพันธ์ด้วย เช่น เพื่อน ญาติ คู่แข่ง ศัตรู เมื่อใดเจ้าหน้าที่ประสงค์จะให้คนเหล่านี้ได้หรือเสียประโยชน์ เมื่อนั้นก็ถือว่ามีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ผลประโยชน์ส่วนตนสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ ที่เกี่ยวกับเงิน (pecuniary) และที่ไม่เกี่ยวกับเงิน (non-pecuniary)
2.1 ผลประโยชน์ส่วนตนที่เกี่ยวกับเงิน ไม่ได้เกี่ยวกับการได้มาซึ่งเงินทองเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการเพิ่มพูนประโยชน์หรือปกป้องการสูญเสียของสิ่งที่มีอยู่แล้ว เช่น ที่ดิน หุ้น ตำแหน่งในบริษัทที่รับงานจากหน่วยงาน รวมถึงการได้มาซึ่งผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรูปตัวเงิน เช่น สัมปทาน ส่วนลด ของขวัญหรือของที่แสดงน้ำใจไมตรีอื่น ๆ
2.2 ผลประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับเงิน เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ครอบครัว หรือกิจกรรมทางสังคม วัฒนธรรมอื่น ๆ เช่น สถาบันการศึกษา สมาคม ลัทธิ แนวคิด มักอยู่ในรูปความลำเอียง อคติเลือกที่รักมักที่ชัง และมีข้อสังเกตว่าแม้แต่ความเชื่อ ความคิดเห็นส่วนตัวก็จัดอยู่ในประเภทนี้
ประโยชน์ส่วนตน กรณีที่เป็นประชาชนทั่วไป หมายถึง การที่ตนเองต้องการผลประโยชน์หรือสิทธิ หรือการอำนวยความสะดวกบางประการ จึงได้กระทำการต่าง ๆ ผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น การติดสินบน การแอบอ้างตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตน เป็นต้น
ประโยชน์ส่วนตน กรณีที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หมายถึง การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้กระทำการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ส่วนตนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะต่าง ๆ เพื่อหาประโยชน์ในทางการเงินหรือธุรกิจจนกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่
2. ประโยชน์ส่วนรวมการที่คนเรามีความสนใจและคำนึงถึงผู้อื่น หรือส่วนรวมมากกว่าตนเอง แสดงถึงการเป็นผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งในหนังสือเรียนรายวิชาการป้องกันการทุจริตได้ให้ความหมายของประโยชน์ส่วนรวมว่า หมายถึง การคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติมากกว่าประโยชน์ของตนเอง
ประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์สาธารณะ หมายถึง การที่บุคคลใด ๆ ในสถานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของรัฐ) ได้กระทำการใด ๆ ตามหน้าที่หรือได้ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการดำเนินการในอีกส่วนหนึ่งที่แยกออกมาจากการดำเนินการตามหน้าที่ในสถานะของเอกชน การกระทำการใด ๆ ตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงมีวัตถุประสงค์หรือมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หรือการรักษาประโยชน์ส่วนรวมที่เป็นประโยชน์ของรัฐการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
3. ผลประโยชน์ทับซ้อน การมีผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมขัดกันส่งผลให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
ซึ่งสามารถสรุปความหมายของ ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interests) ได้ว่า เป็นการขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม หรือการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมหรือการขัดกันระหว่างผลประโยชน์สาธารณะและผลประโยชน์ส่วนตน และนอกจากนี้ องค์กรสากล Organization for Economic Cooperation and Development (OECD) ให้นิยามและแบ่งประเภทของ ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interests) ไว้ว่า เป็นความทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ผลประโยชน์ทับซ้อน มี 3 ประเภท ดังนี้
1. ผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกิดขึ้นจริง (actual) มีความทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและสาธารณะเกิดขึ้น
2. ผลประโยชน์ทับซ้อนที่เห็น (perceived & apparent) เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่คนเห็นว่ามีแต่จริง ๆ อาจไม่มีก็ได้ ถ้าจัดการผลประโยชน์ทับซ้อนประเภทนี้อย่างขาดประสิทธิภาพ ก็อาจนำมาซึ่งผลเสียไม่น้อยกว่าการจัดการผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกิดขึ้นจริง ข้อนี้แสดงว่าเจ้าหน้าที่ไม่เพียงแต่จะต้องประพฤติตนอย่างมีจริยธรรมเท่านั้น แต่ต้องทำให้คนอื่น ๆ รับรู้ และเห็นด้วยว่าไม่ได้รับประโยชน์เช่นนั้นจริง
3. ผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นไปได้ (potential) ผลประโยชน์ส่วนตนที่มีในปัจจุบันอาจจะทับซ้อนกับผลประโยชน์สาธารณะได้ในอนาคต