ระดับ ม.ปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
เรื่องที่ 1 จิตพอเพียงต้านการทุจริต
1. ความหมายของ STRONG : จิตพอเพียงต้านการทุจริต
จิต หมายถึง ใจ สิ่งที่ทำหน้าที่ นึก รับความรู้สึก
พอเพียง หมายถึง พอดีกับความต้องการเติมเท่าที่จำเป็น ความพอประมาณ มีเหตุมีผลการเดินทางสายกลาง
พอเพียง หมายถึง ได้เท่าที่กะไว้ เช่น ได้เท่านี้ก็พอเพียงแล้ว
ต้าน หมายถึง ทนไว้ ยันไว้ รับไว้ ปะทะไว้ กันไว้ คัดค้าน ทัดทานต่อสู้
ต้าน หมายถึง ต่อต้าน โต้ ขัดขวา
ต้าน หมายถึง ยัน หรือรับไว้เพื่อไม่ให้ล้ำแนวเข้ามา เช่น ต้านข้าศึก รับแรงปะทะ (เรือต้านลม)
ต้านทาน (นาย ก. ขัดขวาง ยับยั้งต่อสู้ยันไว้)เป็นต้น
ทุจริต หมายถึง ประพฤติชั่ว โกง ไม่ซื่อตรง
จากข้อมูลข้างต้น กล่าวได้ว่า จิตพอเพียงต้านการทุจริต คือ การมีจิตสำนึกในการดำเนินชีวิต
แบบพอเพียงที่จะไม่กระทำการทุจริต
จากแผนภาพโมเดล องค์ประกอบของ STRONG : จิตพอเพียงต้านการทุจริต
รองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ได้กำหนดองค์ประกอบแต่ละเรื่องไว้ ดังนี้
1. S (Sufficient) : ความพอเพียง หมายถึง ผู้นำ ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชน
น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับประยุกต์เป็นหลักความพอเพียงในการทำงานการดำรงชีวิต
การพัฒนาตนเองและส่วนรวม รวมถึงการป้องกันการทุจริตอย่างยั่งยืน ซึ่งความพอเพียงต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ของมนุษย์แม้ว่าจะแตกต่างกันตามพื้นฐาน แต่การตัดสินใจว่าความพอเพียงของตนเองต้องตั้งอยู่บนความมีเหตุ
มีผลรวมทั้งต้องไม่เบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และส่วนรวมความพอเพียงดังกล่าวจึงเป็นภูมิคุ้มกันให้บุคคลนั้น
ไม่กระทำการทุจริต ซึ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจ (Knowledge) และปลุกให้ตื่นรู้ (Realize)
2. T (Transparent) : ความโปร่งใส หมายถึง ผู้นำ ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชน
ต้องปฏิบัติงานบนฐานของความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงต้องมีและปฏิบัติตามหลักปฏิบัติ ระเบียบ
ข้อปฏิบัติ กฎหมาย ด้านความโปร่งใส ซึ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจ (Knowledge) และปลุกให้ตื่นรู้ (Realize)
3. R (Realize) : ความตื่นรู้ หมายถึง ผู้นำ ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชน
มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักรู้ถึงรากเหจ้าของปัญหาและภัยร้ายแรงของการทุจริตประพฤติชอบภายใน
ชุมชนและประเทศ ความตื่นรู้จะบังเกิดเมื่อได้พบเห็นสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการทุจริตย่อมจะมีปฏิกิริยาเฝ้า
ระวังและไม่ยินยอมต่อการทุจริตในที่สุดซึ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจ (Knowledge) เกี่ยวกับสถานการณ์
การทุจริตที่เกิดขึ้น ความร้ายแรงและผลกระทบต่อระดับบุคคลและส่วนรวม
4. (Onward) : มุ่งไปข้างหน้า หมายถึง ผู้นำผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชน
มุ่งพัฒนาปรับเปลี่ยนตนเองและส่วนรวมให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน บนฐานความโปร่งใส
ความพอเพียงและร่วมสร้างวัฒนธรรมสุจริตให้เกิดขึ้นอย่างไม่ย่อท้อ ซึ่งต้องมีความรู้ความเข้าใจ (Knowledge)
ในประเด็นดังกล่าว
5. N (Knowledge) : ความรู้ หมายถึง ผู้นำ ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชนต้องมี
ความรู้ ความเข้าใจสามารถนำความรู้ไปใช้ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินได้อย่างถ่องแท้ในเรื่อง
สถานการณ์การทุจริต ผลกระทบที่มีต่อตนเองและส่วนรวม ความพอเพียงต้านการทุจริตการแยกแยะ
ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมที่มีความสำคัญยิ่งต่อการลดการทุจริตในระยะยาว รวมทั้ง
ความละอายไม่กล้ากระทำการทุจริตและเกิดความไม่ทนเมื่อพบเห็นว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นเพื่อสร้างสังคม
ไม่ทนต่อการทุจริต
6. G (Generosity) : ความเอื้ออาทร หมายถึง คนไทยมีความเอื้ออาทร มีเมตตา มีน้ำใจต่อกัน
บนฐานของจิตพอเพียงต้านการทุจริต ไม่เอื้อต่อการรับหรือการให้ผลประโยชน์ต่อพวกพ้อง
2. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ประมวลและกลั่นกรองจาก
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
(พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9) เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และขอพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตนำไปเผยแพร่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9) ทรงพระกรุณาปรับปรุง
แก้ไขและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตตามที่ขอพระมหากรุณา
โดยมีใจความว่า
"เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่
ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ
ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจาก
การเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ความรอบคอบ และความระมัดระวัง
อย่างยิ่งในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอนและขณะเดียวกันจะต้อง
เสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในซาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึก
ในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร
มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและ
กว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี"
คุณลักษณะที่สำคัญ "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"
แนวทางการดำเนินชีวิตให้อยู่บนทางสายกลางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ้น
จากภัยและวิกฤติการณ์ต่าง 1 ที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืนประกอบด้วย 3 ห่วง
2 เงื่อนไข ดังแผนภาพต่อไปนี้
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีต่อความจำเป็นไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไปและต้อง
ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ
หลักกฎหมาย หลักศีลธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมที่ดีงาม คิดถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึง
ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง
ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถปรับตัวและรับมือได้อย่างทันท่วงที
เงื่อนไขในการตัดสินใจในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เงื่อนไขความรู้ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้าน
ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวัง
ในการปฏิบัติ
2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซื่อสัตย์
สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตแนวทางสายกลาง การพึ่งตนเองรู้จัก
ประมาณตนอย่างมีเหตุผล อยู่บนพื้นฐานความรู้และคุณธรรมในการพิจารณา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ดำเนินการไม่ได้เฉพาะเจาะจงในเรื่องของเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียวแต่ยังครอบคลุมไปถึงการดำเนินชีวิต
ด้านอื่น ๆ ของมนุษย์ให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข เช่น หากเรามีความพอเพียง เราจะไม่ทุจริต คดโกง
ไม่ลักขโมยของไม่เบียดเบียนผู้อื่น ก็จะส่งผลให้ผู้อื่นไม่เดือดร้อน สังคมก็อยู่ได้อย่างปกติสุข เป็นต้น
จัดทำโดย...นางภานิษา เชื้อเมืองพาน