วอเตอร์เครส

วอเตอร์เครส

ชื่อวิทยาศาสตร์    Nasturtium officinale

ชื่อสามัญ    water cress

วงศ์    Brassicaceae

ลักษณะ :

สลัดน้ำมีสองสายพันธุ์คือ

พันธุ์สีเขียว เป็นสายพันธุ์ที่ต้องการสภาพอากาศอบอุ่น ไม่ทนต่ออุณหภูมิต่ำติดดอกและเมล็ดง่าย

พันธุ์สีน้ำตาล เป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างทนทานต่ออุณหภูมิต่ำ ติดดอกและเมล็ดยาก ขยายพันธุ์โดยการปักชำต้น

สลัดน้ำเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูง รากจะเจริญได้ดีในพื้นที่ ๆ มีระดับน้ำตื้น (5-10 เซนติเมตร) มีน้ำสะอาดไหลผ่านช้า ๆ ตลอดเวลา การปลูกในที่ ๆ ไม่มีการหมุนเวียนของน้ำ จะทำให้น้ำเน่าเสีย และสลัดน้ำจะตาย ในกรณีที่ไม่สามารถหาแหล่งปลูกในที่มีน้ำไหลผ่านได้ อาจจะปลูกตามขอบบ่อ โดยสูงกว่าระดับน้ำ 15 เซนติเมตร และบังร่มเงา หรืออาจจะปลูกในพื้นที่ ๆ ร่มรำไร และให้น้ำแบบพ่นฝอยวันละสองครั้ง

การปลูกเพื่อบริโภคในครอบครัว และปลูกเป็นไม้ประดับ อาจจะปลูกในกระถางหรือถาดปลูก โดยการผสมวัสดุปลูกลงไปในภาชนะ สูง 5-7 เซนติเมตร ใช้ถาดรองภาชนะและใส่น้ำให้สม่ำเสมอ วางไว้ใกล้หน้าต่างหรือที่ ๆ ได้รับแสงรำไร

คุณค่าทางอาหาร :

สารประกอบในวอเตอร์เครสที่สำคัญ คือกลูโคซิโนเลต พีโนลิกและฟลาโวนอย เมื่อคุณเคี้ยวหรือหั่นวอเอตร์เครส สารกลูโคซิโนเลตจะแตกตัวเป็น ไอโซไทโอไซยาเนต หนึ่งในนั้นคือ PEITC ( พีนิลเลตทิล ไอโซไทโอไซยาเนต) ซึ่งจากงานวิจัยมากกว่า 50 งานพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งและป้องการเกิดมะเร็ง

ประโยชน์

วอเตอร์เครส หรือที่เราคนไทยเรียกว่า สลัดน้ำ เป็นผักในตระกูลดอกกระหล่ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นผักใบเขียว นิยมนำมาทำเป็นผักสลัด หรืออาจนำมาทานเป็นผักแกล้มกับน้ำพริก ตลอดจนเป็นส่วนประกอบของอาหารเมนูต่างๆตามใจชอบ แต่ทั้งนี้ในเรื่องคุณค่าทางอาหารแล้วมีประโยชน์เหลือเชื่อเลยทีเดียว ถ้าเทียบจากน้ำหนักที่เท่ากันแล้ว วอเตอร์เครสประกอบด้วยวิตามินซีมากกว่าส้ม มีแคลเซียมมากกว่านมทุกชนิด มีธาตุเหล็กมากกว่าผักขม และยังประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระอีกด้วย