กะเพรา


ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum tenuiflorum L.

ชื่อพ้อง: Ocimum sanctum L.

ชื่อวงศ์: LABIATAE

ชื่อสามัญ: Holy basil, Thai basil, Sacred basil.


ชื่ออื่นๆ

   เชียงใหม่: ก้อมก้อ, ก้อมก้อดง

   กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน: ห่อกวอซู, ห่อตูปลู

   เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน: อิ่มคิมหลำ

   ภาคกลาง: กะเพรา, กะเพราขน, กะเพราขาว, กะเพราแดง

   ภาคอีสาน: อีตู่ไทย

ประโยชน์ทางยา


ใบหรือทั้งต้น

ใช้เป็นยาขับลมแก้ปวดท้อง ท้องเสีย และคลื่นไส้อาเจียน นิยมใช้กะเพราแดงมากกว่ากะเพราขาว

ใบ

รสเผ็ดร้อน ต้มเอาน้ำดื่มเป็นยาขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ แก้จุกเสียด แก้ลมตานซาง แก้คลื่นเหียนอาเจียน น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับเหงื่อ ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน น้ำคั้นจากใบใช้ทาภายนอกแก้โรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน รักษาหูด หยอดหูแก้อาการปวดหู ใบแห้งใช้ชงดื่มกับน้ำแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และน้ำมันจากใบใช้เป็นยาฆ่ายุงได้ซึ่งมีฤทธิ์ได้นาน 2 ชั่วโมง หรือไล่แมลงวันทอง บดเป็นยานัตถุ์ แก้คัดจมูก ยาชงหรือน้ำต้มใบใช้แก้ตับอักเสบและบำรุงธาตุสำหรับเด็ก

ดอก

รสเผ็ดร้อน ผสมกับน้ำผึ้งรับประทานแก้หลอดลมอักเสบ

เมล็ด

รสเผ็ดร้อน เป็นยาขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ และไตอักเสบ, เมื่อนำเมล็ดไปแช่น้ำจะพองตัวเป็นเมือกขาวใช้พอกบริเวณตาเมื่อฝุ่นละอองเข้าตาหรือตามีผง และจะไม่ทำให้ตาช้ำ

ราก

รสเผ็ดร้อน ต้มน้ำดื่มเป็นยาขับเหงื่อในคนไข้โรคมาลาเรีย แก้ธาตุพิการ

ทั้งห้า

หรือทุกส่วนของต้น เป็นยาเพิ่มน้ำนมในสตรีหลังหลอดบุตร ขับน้ำนม บรรเทาอาการไข้เรื้อรัง