1. สภาพปัญหาการบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา

                                การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เกิดคุณภาพนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นคุณภาพของผู้เรียน ที่เชื่อมั่น ว่าคุณภาพ ผู้เรียนจะเกิดได้และบรรลุหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และมาตรฐาน การเรียนรู้ และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐นั้น จะต้องมีกระบวนการ สู่ความสำเร็จ มีองค์ประกอบ และปัจจัย คือ คุณภาพของผู้เรียน ที่โรงเรียนจะต้องประกันคุณภาพต่อ ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่าผู้เรียนนั้นจะต้องมีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักสูตร มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ ได้กำหนดหลักการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา โดยกำหนดรายละเอียดไว้ในหมวด ๖ มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรา ๔๗ กำหนดให้มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ประกอบกับกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๑ ได้กำหนดให้สถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา แต่ละระดับและประเภทการศึกษาที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด

                           โรงเรียนบ้านสงาว เป็นโรงเรียนประถมศึกษา เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ๒ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีผลการประกันคุณภาพภายในปีการศึกษา 2565 ที่สะท้อนว่า โรงเรียนต้องเร่งยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด การพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะในศตวรรษที่ 21 เน้นการอ่าน เขียน คิดคำนวณ การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาได้ ซึ่งการอ่านนั้น เป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาเนื่องจากจะทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นจึงต้องส่งเสริมและพัฒนาครูให้สามารถจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการอ่านของผู้เรียน ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สอดคล้องกับนโยบาย ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้นักเรียนสามารถอ่านออกเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้น ปีงบประมาณ พ.ศ. 256๗-๒๕๖๘ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเรื่อง ส่งเสริมการอ่าน

                                   จากสภาพปัญหาข้างต้น โรงเรียนบ้านสงาว จึงมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วย Model การบริหารจัดการสถานศึกษา คือ SANGAO Model โดย SANGAO Model มุ่งให้ผู้เรียนมี ความพอเพียง(Sufficiency)     มีเจตคติที่ดี(Attitude) เป็นเบื้องต้น  และเน้นการบริหารโดยการสร้างเครือข่าย(Goal of spirit)  กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน (Goal of spirit)   มีความรับผิดชอบ(Acknowledge ment ) และร่วมมือกันทำให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยพัฒนาองค์กรสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้  Organization Development (OD = LO)  โดยมีการพัฒนาทั้งระบบ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการ PLC ร่วมกันระหว่าง ผู้บริหาร ครู บุคลากร เพื่อสะท้อนปัญหา หาแนวปฏิบัติที่ดี เป็นแบบอย่างในการส่งเสริมการอ่านให้กับผู้เรียนซึ่งสอดคล้องกับผลลัพธ์ (Outcome) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 1  LOEI ONE IS ONE : เลยหนึ่งเป็นหนึ่งเดียว  โรงเรียน ครู นักเรียน ร่วมใจ รวมพลัง กันสร้างสรรค์ มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน 

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

                     การบริหารจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพสถานศึกษาให้มีความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ อย่างมีคุณภาพ SANGAO Model ของโรงเรียนบ้านสงาว เพื่อการขับเคลื่อนจุดเน้นเร่งด่วน เพื่อส่งเสริมการอ่านให้กับผู้เรียน โดยใช้ขั้นตอนการดำเนินงานตามรูปแบบ  SANGAO Model และดำเนินการแบบมีส่วนร่วมได้ยึดวงจร PDCA ของเดมมิ่ง โดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้      

•       ขั้นการวางแผน  (P)        
              ๑)  แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานส่งเสริมการอ่าน 

                 ๒)  กำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ตัวชี้วัดความสำเร็จ เครื่องมือ และวิธีการ

                 ๓)  กำหนดแผนงาน/ปฏิทินดำเนินงาน

•       ขั้นดำเนินงานตามแผน  (D)

             จัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามปฏิทินที่กำหนดดังนี้

                 ๑) กิจกรรมในชั้นเรียน/การจัดการเรียนรู้สู่นักเรียน

                 ๒) กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน

                 ๓) กิจกรรมรักษ์ภาษาไทย/กิจกรรมอ่านคล่อง เขียนคล่อง

•       ขั้นประเมินผล  (C)

                ประเมินผลกิจกรรมทุกกิจกรรม โดยการสังเกตพฤติกรรม สอบถามการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจ            

•       ขั้นการปรับปรุงพัฒนา  (A)

                ๑) นำผลจากการสรุปแต่ละกิจกรรมหาส่วนบกพร่องในการดำเนินการและการจัดกิจกรรม

                ๒) นำข้อบกพร่องมาสรุปและวางแผนในการพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป

โดยใช้ SANGAO Model เป็นตัวขับเคลื่อน ประกอบด้วย

S : (Sufficiency)     =   ความพอเพียง              

A : (Attitude)         =  เจตคติที่ดี สร้างเจตคติที่ดีให้กับผู้เรียนและครูผู้สอน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการอ่านที่หลากหลาย          

N :(Network)        = การสร้างเครือข่ายพัฒนา  ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู บุคลากร ผู้ปกครอง ศึกษานิเทศก์ที่จะมาร่วมพัฒนาผู้เรียน               

G: (Goal of spirit)  = กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน กำหนดเป้าหมายให้นักเรียนมีทักษะการอ่าน อ่านได้คล่อง  และมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น

A : (Acknowledge ment  ) = มีความรับผิดชอบ ในการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการอ่าน

O : Organization Development (OD = LO) =  การร่วมมือกัน นำไปสู่ความสำเร็จ การพัฒนาองค์กรสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้  โดยมีการพัฒนาทั้งระบบ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการ PLC ร่วมกันระหว่าง ผู้บริหาร ครู บุคลากร เพื่อสะท้อนปัญหา หาแนวปฏิบัติที่ดี เป็นแบบอย่างในการส่งเสริมการอ่านให้กับผู้เรียน   

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง

3.1 เชิงปริมาณ

      3.1.1 ผู้เรียนร้อยละ 80 ได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่จัดขึ้น

      3.1.2 ผู้เรียนร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน ตามนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1

      3.1.3 ผู้เรียนร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสูงขึ้น

      3.1.4 ครูผู้สอนวิชาภาษาไทยร้อยละ 90 จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านตาม SANGAO Model

3.2 เชิงคุณภาพ

      3.2.1 ผู้เรียนมีพัฒนาการในด้านทักษะการอ่านสูงขึ้น

      3.2.2 ครูผู้สอนวิชาภาษาไทยมีทักษะการจัดการเรียนรู้ส่งเสริมการอ่านได้อย่างหลากหลาย มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทันสมัย และมีคุณภาพ