ธรรมศึกษา คือ การเรียนการสอบหลักสูตรธรรมศึกษา วิชาพระพุทธศาสนา ประกอบด้วย ๔ วิชาคือ ๑.วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม ๒.วิชาธรรมะ ๓.วิชาพุทธประวัติและพระสาวก ๔.วิชาวินัยสำหรับคฤหัสถ์ ฯ หลักสูตรของธรรมศึกษานั้นเป็นหลักสูตรสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ภิกษุสามเณร คือเป็น แม่ชี คฤหัสถ์ หรือชาวบ้านทั่วไป รวมทั้งนักเรียนนักศึกษาตามสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยแบ่งเป็นการเรียนและสอบวัดความรู้ ระดับชั้นตรี-ชั้นโท-ชั้นเอก และแบ่งเป็นระดับประถม, มัธยม, อุดมศึกษา (รวมกับประชาชนทั่วไป) ฯ ผู้ที่สนใจการเรียนและสอบธรรมศึกษาสามารถติดต่อได้ที่ วัดหรือโรงเรียน สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ฯ ผู้สอบได้ จะได้รับใบประกาศนียบัตรจากสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
ประกาศสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
เรื่อง การสอบธรรมสนามหลวง ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม กำหนดให้นักเรียนธรรมศึกษา เข้าสอบวัดความรู้การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม ตามหลักสูตรของคณะสงฆ์ พร้อมกันทั่วราชอาณาจักร ในวันและเวลา ดังนี้...
ธรรมศึกษาชั้นตรี-โท-เอก
วันพฤหัสบดี ที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒)
เวลา ๘.๓๐ - ๑๑.๓๐ น. สอบวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม
เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๕๐ น. สอบวิชาธรรม
เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น. สอบวิชาพุทธ
เวลา ๑๕.๐๐ - ๑๕.๕๐ น. สอบวิชาวินัย
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
ประกาศผลสอบธรรมศึกษา
(คัดลอกลิงก์ นำไปวางในช่องที่อยู่เว็บ แล้วกด Enter)
https://dhammastudy.org/passlist/public
หากชื่อ นามสกุล ฯลฯ ผู้สอบได้ตามประกาศนี้สะกดผิด หรือมีข้อมูลอื่นใดไม่ตรงตามความเป็นจริง ขอให้เจ้าสำนักเรียน มีหนังสือแจ้งขอแก้ไขถึงสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง ภายในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗
กระดาษสอบวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม สำหรับธรรมศึกษา (PDF) ใช้ปริ้นท์ด้วยกระดาษยาวขนาด F14 , และให้ตั้งค่าปริ้นเตอร์เป็นขนาดกระดาษ Legal (215.9x355.6 มม.)
กระดาษสำหรับให้นักเรียนฝึกหัดเขียนแต่งเรียงความแก้กระทู้ธรรม ธรรมศึกษาตรี-โท-เอก กระดาษ A4
กำลังรอข้อมูล......................
ตัวอย่างใบตอบข้อสอบธรรมศึกษา (ห้ามนำไปใช้ในสนามสอบจริง เพราะขนาดแบบฟอร์มอาจจะไม่เท่าของจริง)
▲ ตัวอย่างวิธีฝนกระดาษใบตอบ ข้อสอบธรรมศึกษา ชั้นตรี-โท-เอก ▲
✎ คุณสมบัติสำหรับการขอเปิดเป็นสนามสอบ
๑. องค์กร-สถาบันการศึกษานั้นจะต้องมีผู้สมัครเรียนสมัครสอบธรรมศึกษา รวม ๑๐๐ คนขึ้นไป เว้นแต่ตำบลนั้นยังไม่มีสนามสอบ
๒. มีเครื่องคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เพื่อส่งรายชื่อผู้ขอเข้าสอบไปที่เว็บไซต์สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง และรับดาวน์โหลดข้อสอบในวันสอบจากเว็บไซต์สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
๓. มีเครื่องพิมพ์ ปริ้นเตอร์ และเครื่องถ่ายเอกสาร หรือเครื่องทำสำเนา เพื่อสำเนาข้อสอบที่ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงในวันสอบ และนำไปแจกจ่ายให้กับผู้เข้าสอบ
-----------------------------------------------------
✎ ขั้นตอนการขอเปิดสนามสอบ
๑. องค์กร-สถาบันการศึกษามีผู้สมัครเรียนสมัครสอบธรรมศึกษา รวม ๑๐๐ คนขึ้นไป
๒. องค์กร-สถาบันการศึกษาที่จัดการเรียนการสอนธรรมศึกษามีหนังสือแจ้งความประสงค์ขออนุมัติเปิดเป็นสนามสอบธรรมศึกษาไปยังเจ้าคณะจังหวัด/เจ้าสำนักเรียน
๓. เจ้าคณะจังหวัด/เจ้าสำนักเรียนเสนอขออนุมัติจากแม่กองธรรมสนามหลวง โดยให้ระบุจำนวนผู้สมัครขอเข้าสอบแต่ละชั้นและรวมได้ตามหลักเกณฑ์ข้อที่ ๑ และแจ้งนามพระสังฆาธิการที่รับผิดชอบกำกับดูแลสนามสอบมาด้วย (ดูตัวอย่างบัญชีแจ้งจำนวน, บัญชีแจ้งประธานสนามสอบ และบัญชีแจ้งผู้รับข้อสอบ)
๔. ให้นำเสนอก่อนวันออกพรรษา ๑ เดือน
๕. เมื่อแม่กองธรรมสนามหลวงอนุมัติแล้ว จะมีหนังสือแจ้งตอบเป็นลายลักษณ์อักษร
๖. ให้จัดทำบัญชีผู้สมัครขอเข้าสอบส่งผ่านเว็บไซต์สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง ก่อนวันออกพรรษา ๑ วัน โดยศึกษาแบบฟอร์มต่างๆ และวิธีส่งรายชื่อผู้ขอเข้าสอบผ่านเว็บไซต์ตามลิงก์ด้านล่าง
---------------------------------------------------------------------
(คัดลอกลิงก์ไปวางในช่องที่อยู่เว็บ แล้วกด Enter)
ลิงก์เว็บไซต์ข้อมูลบัญชีแบบฟอร์มต่างๆ เกี่ยวกับการสอบธรรมศึกษา
☛ https://help.gongtham.net/ธรรมศึกษา/รู้จักบัญชีต่างๆของธรรมศึกษา/
วิธีส่งรายชื่อผ่านเว็บ
ขั้นตอนการส่งบัญชีรายชื่อผู้ขอเข้าสอบธรรมศึกษาผ่านเว็บไซต์สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง
☛ https://help.gongtham.net/ธรรมศึกษา/วิธีส่งรายชื่อผู้เข้าสอบธรรมศึกษาผ่านเว็บไซต์/
การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม หรือที่เรียกกันว่า นักธรรม เกิดขึ้นตามพระดำริของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นการศึกษาพระธรรมวินัยในภาษาไทย เพื่อให้ภิกษุสามเณรผู้เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนา สามารถศึกษาพระธรรมวินัยได้สะดวกและทั่วถึง อันจะเป็นพื้นฐานนำไปสู่สัมมาปฏิบัติ ตลอดจนเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างไกลออกไป
การศึกษาพระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ไทยแต่โบราณมา นิยมศึกษาเป็นภาษาบาลีที่เรียกว่าการศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ยากสำหรับภิกษุสามเณรทั่วไป จึงปรากฏว่าภิกษุสามเณรที่มีความรู้ในพระธรรมวินัยอย่างทั่วถึงมีจำนวนน้อย เป็นเหตุให้สังฆมณฑลขาดแคลนพระภิกษุผู้มีความรู้ความสามารถที่จะช่วยกิจการพระศาสนาทั้งในด้านการศึกษา การปกครอง และการแนะนำสั่งสอนประชาชน ดังนั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงได้ทรงพระดำริวิธีการเล่าเรียนพระธรรมวินัยในภาษาไทยขึ้น สำหรับสอนภิกษุสามเณรวัดบวรนิเวศวิหารเป็นครั้งแรก นับแต่ทรงรับหน้าที่ปกครองวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ เป็นต้นมา โดยทรงกำหนดหลักสูตรการสอนให้ภิกษุสามเณรได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาทั้งด้านหลักธรรม พุทธประวัติและพระวินัย ตลอดถึงหัดแต่งแก้กระทู้ธรรม เมื่อทรงเห็นว่า การเรียนการสอนพระธรรมวินัยเป็นภาษาไทยดังนี้ได้ผล ทำให้ภิกษุสามเณรมีความรู้กว้างขวางขึ้น เพราะเรียนรู้ได้ไม่ยาก จึงทรงดำริที่จะขยายแนวทางนี้ไปยังภิกษุสามเณรทั่วไปด้วย ประกอบกับใน พ.ศ. ๒๔๔๘ ประเทศไทยเริ่มมีพระราชบัญญัติเกณฑ์ทหาร ซึ่งภิกษุทั้งหมดจะได้รับการยกเว้น ส่วนสามเณรจะยกเว้นให้เฉพาะสามเณรผู้รู้ธรรม ทางราชการได้ขอให้คณะสงฆ์ช่วยกำหนดเกณฑ์ของสามเณรผู้รู้ธรรม สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงทรงกำหนดหลักสูตรองค์สามเณรรู้ธรรมขึ้น ต่อมาได้ทรงปรับปรุงหลักสูตรองค์สามเณรรู้ธรรมนั้นเป็น “องค์นักธรรม” สำหรับภิกษุสามเณรชั้นนวกะ (คือผู้บวชใหม่) ทั่วไป ได้รับพระบรมราชานุมัติ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๔ และโปรดให้จัดการสอบในส่วนกลางขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน โดยใช้วัดบวรนิเวศวิหาร วัดมหาธาตุ และวัดเบญจมบพิตร เป็นสถานที่สอบ การสอบครั้งแรกนี้ ๓ วิชา คือ ธรรมวิภาคในนวโกวาท แต่งความแก้กระทู้ธรรม และแปลภาษามคธ เฉพาะท้องนิทานในอรรถกถาธรรมบท
พ.ศ. ๒๔๕๕ ทรงปรับปรุงหลักสูตรองค์นักธรรมให้เหมาะสมสำหรับภิกษุสามเณรทั่วไปจะเรียนรู้ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยแบ่งหลักสูตรเป็น ๒ อย่าง คือ อย่างสามัญ เรียนวิชาธรรมวิภาค พุทธประวัติ และเรียงความแก้กระทู้ธรรม และอย่างวิสามัญ เพิ่มแปลอรรถกถาธรรมบทมีแก้อรรถบาลีไวยากรณ์และสัมพันธ์ และวินัยบัญญัติที่ต้องสอบทั้งผู้ที่เรียนอย่างสามัญและวิสามัญ แนวทางการจัดการเรียนรู้ธรรมศึกษา ชั้นตรี วิชาธรรม
พ.ศ. ๒๔๕๖ ทรงปรับปรุงหลักสูตรองค์นักธรรมอีกครั้งหนึ่ง โดยเพิ่มหลักธรรมหมวดคิหิปฏิบัติเข้าในส่วนของธรรมวิภาคด้วย เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการครองชีวิตฆราวาส หากภิกษุสามเณรรูปนั้น ๆ มีความจำเป็นต้องลาสิกขาออกไปด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง เรียกว่า นักธรรมชั้นตรี
การศึกษาพระธรรมวินัยแบบใหม่นี้ได้รับความนิยมจากหมู่ภิกษุสามเณรอย่างกว้างขวางและแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว เพียง ๒ ปีแรกก็มีภิกษุสามเณรสมัครเข้าสอบสนามหลวงเกือบพันรูป เมื่อทรงเห็นว่าการศึกษานักธรรมอำนวยคุณประโยชน์แก่พระศาสนาและภิกษุสามเณรทั่วไป ในเวลาต่อมาจึงทรงพระดำริขยายการศึกษานักธรรมให้ทั่วถึงแก่ภิกษุทุกระดับ คือ ทรงตั้งหลักสูตรนักธรรมชั้นโทสำหรับภิกษุชั้นมัชฌิมะ คือ มีพรรษาเกิน ๕ แต่ไม่ถึง ๑๐ และนักธรรมชั้นเอก สำหรับภิกษุชั้นเถระคือ มีพรรษา ๑๐ ขึ้นไป ดังที่เป็นหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของคณะสงฆ์สืบมาตราบถึงทุกวันนี้
ต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงพิจารณาเห็นว่า การศึกษานักธรรมมิได้เป็นประโยชน์ต่อภิกษุสามเณรเท่านั้น แม้ผู้ที่ยังครองฆราวาสวิสัยก็จะได้รับประโยชน์จากการศึกษานักธรรมด้วย โดยเฉพาะสำหรับเหล่าข้าราชการครู จึงทรงตั้งหลักสูตรนักธรรมสำหรับฆราวาสขึ้น เรียกว่า “ธรรมศึกษา” มีครบทั้ง ๓ ชั้นคือ ชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก ซึ่งมีเนื้อหาเช่นเดียวกันกับหลักสูตรนักธรรมภิกษุสามเณร เว้นแต่วินัยบัญญัติที่ทรงกำหนดใช้เบญจศีล เบญจธรรม และอุโบสถศีลแทน ได้เปิดสอบธรรมศึกษาชั้นตรีครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ และเปิดสอบครบทุกชั้นในเวลาต่อมา มีฆราวาสทั้งหญิงและชายเข้าสอบเป็นจำนวนมาก นับเป็นการส่งเสริมการศึกษาพระพุทธศาสนาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ปัจจุบันการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมนี้ มีสมเด็จพระวันรัต (พฺรหฺมคุตฺตเถร) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นแม่กองธรรมสนามหลวง เน้นการพัฒนาศาสนทายาทให้มีคุณภาพสามารถ ดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วยดี ทั้งถือว่าเป็นกิจการของคณะสงฆ์ส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน