รายวิชา ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
(The King’s Wisdom for Local Development)
รายวิชา ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
(The King’s Wisdom for Local Development)
คำอธิบายรายวิชา
แนวคิดและหลักการของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การประยุกต์ใช้หลักการทรงงาน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง แนวคิดการพัฒนาแบบยั่งยืนในชีวิตประจำวันได้ การวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ฉลาดรู้เพื่อการพัฒนาชุมชนต้นแบบตามศาสตร์ พระราชาสู่การพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ความร่วมมือกันทำงานโดยบูรณาการแบบองค์รวมกับทีมภาคีเครือข่าย
สารสนเทศออนไลน์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง "มูลนิธิชัยพัฒนา" โดย ทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในลักษณะของการดำเนินงานพัฒนาต่างๆ ในกรณีที่ต้องถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณที่ระบบราชการไม่สามารถดำเนินการได้ทันที จนเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาไม่สอดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำโดยเร็ว การที่มูลนิธิชัยพัฒนาเข้ามาดำเนินการเช่นนี้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง รวดเร็วฉับพลัน โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น อาจกล่าวได้ว่าการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นการช่วยให้กระบวนการพัฒนา เกิดความสมบูรณ์ขึ้น
"ชัยชนะของประเทศนี้ โดยงานของมูลนิธิชัยพัฒนานั้นก็คือ ความสงบ ... เป็น เมืองไทยที่มีความเจริญก้าวหน้า จนเป็นชัยชนะของการพัฒนาตามที่ได้ตั้งชื่อ มูลนิธิชัยพัฒนา ชัยของการพัฒนานี้มีจุดประสงค์ คือ ความสงบ ความเจริญ ความอยู่ดีกินดี"
(พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 4 ธันวาคม 2537)
มูลนิธิมั่นพัฒนา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อศึกษา รวบรวม และเผยแพร่องค์ความรู้ เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ในมิติต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Philosophy of Sufficiency Economy) มาประยุกต์ใช้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ
โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” จึงถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2556 ด้วยความร่วมมือระหว่าง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และภาคีเครือข่าย โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา เพื่อน้อมนำศาสตร์พระราชา และภูมิปัญญาท้องถิ่นลงสู่การปฏิบัติเพื่อหยุดท่วม หยุดแล้งลุ่มน้ำป่าสักอย่างยั่งยืน จนสามารถสร้างรูปธรรมตัวอย่างความสำเร็จและการขยายผล เริ่มจากการสร้างต้นแบบ ทั้งบุคคล ชุมชน และโรงเรียน แล้วจึงขยายผลออกไปสู่ลุ่มน้ำอื่น ๆ ทั่วประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นสมควรยกย่องและเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทรงภูมิปัญญาด้านการเกษตรในสาขาต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้มีคุณความดี มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์สมควรเป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ให้ได้รับการดูแลด้านสวัสดิการและสนับสนุนให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ประสบการณ์และความสามารถสู่สังคม
ปราชญ์ของแผ่นดินมี 4 สาขา
1. ปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย
2. ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง
3. ปราชญ์เกษตรดีเด่น
4. ปราชญ์เกษตรผู้นำชุมชนและเครือข่าย
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ก่อตั้งขึ้นโดยปณิธานในการน้อมนำแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์มาเป็นหลักการในการพัฒนาประเทศและศักยภาพของคนไทย ให้ก้าวไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นในแนวพระราชดำริที่ได้รับการพิสูจน์มาตลอดระยะเวลามากกว่า 60 ปีแล้วว่า เป็นแนวทางที่นำไปสู่ความสุขของประชาชนได้อย่างแท้จริง ด้วยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี จึงมีมติเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2552 ให้จัดตั้งมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริและสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระขึ้น
“ศาสตร์พระราชา” เป็นความรู้วิชาภูมิปัญญาของพระเจ้าแผ่นดิน: พระปรีชาญาณที่เกิดจากการ ประมวลสรรพสิ่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ซึ่ง“ศาสตร์ พระราชาไม่ล้าสมัย” ศาสตร์พระราชาเป็นศาสตร์แห่งความจริง เป็นศาสตร์แห่งชีวิต เป็นศาสตร์แห่งการสร้าง ความเป็นราชา ผู้นำในตัวของเราเอง เมื่อเราศึกษาเรียนรู้เข้าใจในสรรพวิชา สรรพจริยาวัตร สรรพปัญญา เป็น กระบวนวิธีที่ทันสมัยอยู่เสมอเพราะศาสตร์พระราชาเป็น “วิถีวิธีพัฒนาปัญญาแห่งชีวิต” โดยองค์ประกอบของ ศาสตร์พระราชา จึงประกอบด้วย 7 หลักศาสตร์พระราชา (1) หลักคิดปณิธานเพื่อปวงชนชาวไทย (2) หลัก ครองราชย์ (3) หลักการทรงงาน (4) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (5) หลักทฤษฎีใหม่ (6) หลักวิธีการปฏิบัติ และ (7) หลักวิถีแบบอย่าง ซึ่งเสมือนเป็นชิงช้าชีวิตแห่งการบริหารจัดสรรตามการมุ่งพัฒนากับคน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ แบบบูรณาการ ที่มีตัวอย่างชัดเจน เช่นทฤษฎีใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนวิธีในการแก้ไขปัญหา ความยากจนของประชาชนที่ทำการเกษตร หัวใจสำคัญอยู่ที่ “น้ำ” น้ำกิน น้ำใช้ไปตลอดปี “วนวิถีตามวิธีฤดูกาล” และที่สำคัญคือความรู้ในการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในพื้นที่จำกัด กอปรด้วยวิธีการ “เข้าใจ” ในภูมิสังคมของคน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ทุนทั้งปวงในพื้นที่ “เข้าถึง” วิถีชีวิตของคน ปัญหาของชุมชน ท้องถิ่น ความต้องการอย่างแท้จริงของประชาชน องค์ความรู้ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และ “พัฒนา” แบบมี ส่วนร่วมกับคน ชุมชนท้องถิ่นให้เกิดความยั่งยืน ประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุข สังคมมีความร่มเย็น ประเทศมี ความสันติสุข มีอนาคตใหม่ให้กับลูกหลานสืบสาน รักษา ต่อยอด
บทความนี้ได้ประมวลข้อมูลจากพระปฐมบรมราชโองการ พระราชกรณียกิจและโครงการใน พระราชดำริ รวมทั้งพระราชดำรัสเกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะในส่วนที่พระองค์ทรงมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความอดอยาก หิวโหยและปัญหาความยากจนให้แก่ราษฎรจากข้อมูลเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า พระองค์ท่านทรงพระปรีชาสามารถในศาสตร์หลายแขนงรวมถึงเศรษฐศาสตร์ และได้ทรงใช้หลักวิชาการเศรษฐศาสตร์ร่วมกับวิทยาศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความยากจน การอุทิศพระองค์เป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาความยากจนของพระองค์ท่านได้ทำให้บุคคลต่าง ๆ และหน่วยงานของรัฐตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่าปัญหาความยากจนเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ถือได้ว่ารุนแรงที่สุด เพราะกลุ่มคนจนคือกลุ่มประชากรที่มีรายได้อยู่ในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับประชากรกลุ่มอื่น ๆ ปัจจุบันนี้คนจนในประเทศไทยได้ลดลงมาจากที่เคยมีเกินครึ่งของประเทศใน พ.ศ. 2505 เหลือเพียงร้อยละ 8.6 ของประชากรใน พ.ศ. 2559 อย่างไรก็ตามความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้ระหว่างประชากรกลุ่มต่าง ๆ แม้ว่าจะลดลงบ้าง แต่ก็ลดลงน้อยและช้ามาก และยังคงมีความเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีความเหลื่อมล้ำด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านการถือครองทรัพย์สิน ซึ่งมีความเหลื่อมล้ำสูงกว่าด้านรายได้ รัฐบาลจึงควรมีนโยบายเพื่อแก้ไข ปัญหาเหล่านี้ให้บรรเทาลง
มิฉะนั้นแล้วอาจเกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้
ศูนย์เรียนรู้ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” บ้านหนองบัวบาน อำเภอน้ำพอง ได้คัดเลือกพื้นที่แห่งนี้เป็น IGNIพื้นที่ดำเนินงานเพื่อสืบสานพระราชปณิธาน ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดี พัฒนาวิถีประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น กิจกรรมจัดตั้งและขยายผล “หมู่บ้านตามรอยพ่อ..
สานต่อ..วิถีพอเพียง” มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน ส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาหมู่บ้านและดำเนินวิถีชีวิตของคนในชุมชน และเพื่อให้เป็นจุดเรียนรู้สำหรับการขยายผลไปสู่หมู่บ้านอื่นโดยให้ชุมชนเรียนรู้จากความสำเร็จของชุมชนเองและสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชนและคนภายนอกชุมชนในการพัฒนาความคิดพัฒนาอาชีพและรายได้รวมทั้งการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศาสตร์ของพระราชา เน้นการพัฒนาที่มุ่งสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ตลอดจนสร้างความสุขแบบยั่งยืนภายใต้หลัก 3S ได้แก่ Survival (การอยู่รอด) Sufficiency (พอเพียง) และ Sustainability (ยั่งยืน) การทำงานต้องให้ประชาชนสามารถหารายได้ด้วยตนเองจากการเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร พร้อมทั้งปกป้องสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ร่วมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุก ๆ คนได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุก ๆ ขั้นตอนการพัฒนา เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ โดยเริ่มจากการระบุปัญหา ความต้องการและสิ่งที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วน และร่วมกันออกแบบโครงการ วิธีการดำเนินงานและการประเมินผล กระตุ้นให้ประชาชนรู้จักคิดและลงมือทำเอง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้สามารถขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาได้ด้วยตัวเอง หลักการสำคัญอีกประการของศาสตร์พระราชาคือ “การพัฒนาแบบองค์รวมและ การ
บูรณาการ” เป็นความร่วมมือกันระหว่างหน่วยราชการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรท้องถิ่นโดยงานพัฒนาครอบคลุมตั้งแต่การสร้างความมั่นคงทางอาหารและน้ำ ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การชลประทาน ถนนและไฟฟ้า เพื่อปูทางไปสู่โครงการพัฒนาในระยะยาว นอกจากนั้นยังได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการพัฒนาคน สุขภาวะ การดำรงชีวิตและการศึกษาอย่างมีบูรณาการและเป็นองค์รวม เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่รอบด้านและยั่งยืน
เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการสอนในรายวิชาศาสตร์พระราชา เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น (2000102) ซึ่งเป็นรายวิชาในหมวดวิชาการศึกษาทั่วไปตามหลักสูตร ปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เป็นเอกสารที่ผู้เรียบเรียงได้เรียบเรียงจากความรู้ เกี่ยวกับอาเซียนและประสบการณ์ในการสอนรายวิชาศาสตร์พระราชาโดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ ศาสตร์พระราชา หลักการทรงงาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการประยุกต์ใช้ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล