บทที่ 4 การปกครองส่วนท้องถิ่น
บทที่ 4 การปกครองส่วนท้องถิ่น
1 การปกครองส่วนท้องถิ่น
1. ความหมาย และความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่น
การปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง การกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ท้องถิ่น โดยให้ประชาชนในท้องถิ่นดำเนินการบริหารท้องถิ่นของตนเอง
การปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญหลายประการ ดังนี้
· การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นรากฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยเพราะการปกครองส่วนท้องถิ่นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นปกครองตนเอง ตามหลักประชาธิปไตย
· การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกลไกที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ เพราะช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่าง ๆ
· การปกครองส่วนท้องถิ่นจะส่งเสริม สนับสนุน ให้การบริการสนองความต้องการของประชาชน ให้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของประชาชน
· การปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยแบ่งเบาภารกิจของรัฐบาลในส่วนกลางให้ลดน้อยลง ทำให้รัฐบาลมีเวลาในการปกครองและบริหารงานในระดับชาติมากขึ้น
ดังนั้น การปกครองส่วนท้องถิ่นจึงมีประโยชน์ช่วยส่งเสริมให้เกิดเสรีภาพ ความเจริญก้าวหน้าและเสถียรภาพ ส่งผลให้ท้องถิ่นนั้น ๆมีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
2. โครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่นและอำนาจหน้าที่
โครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งได้ ดังนี้
1) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีฐานะเป็นนิติบุคคลและราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในเขตจังหวัด มีหน้าที่ เช่น ดูแลความสงบเรียบร้อย จัดการศึกษาจัดสวัสดิการสังคม
2) เทศบาล แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร มีหน้าที่ในการให้บริการแก่ประชาชนในด้านต่าง ๆ หรือหน้าที่อื่นๆ ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย
3) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มีฐานะเป็นนิติบุคคลและราชการส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ในการ
พัฒนาตำบลในด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
4) การปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษการปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เป็นการบริหาร
ราชการส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งในประเทศไทยมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น ได้แก่ กรุงเทพมหานคร
และเมืองพัทยา
โครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่น
องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด
เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจตราข้อบัญญัติขององค์การบริหารส่วนจังหวัดประกอบด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติราชการขององค์การส่วนจังหวัดให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทางราชการ
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน อยู่ในตำแหน่งวาระละ 4 ปี มีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดตามกฎหมาย
เทศบาล
สภาเทศบาล
ประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน อยู่ในตำแหน่งวาระละ 4 ปี
มีหน้าที่ตราเทศบัญญัติ และควบคุมการบริหารงานของเทศบาล
นายกเทศมนตรี
มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน อยู่ในตำแหน่งวาระละ 4 ปี แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการของเทศบาลให้เป็นไปตามกฎหมายเทศบัญญัติและนโยบายที่ได้แถลงไว้
องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
สภาองค์การบริหารส่วนตำบล
ประกอบด้วยสมาชิกขององค์การบริหารส่วนตำบล หมู่บ้านละ 2 คน มาจากการเลือกตั้ง ถ้าตำบลใดมีเพียงหนึ่งหมู่บ้านให้มีสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 6 คน และถ้าตำบลใดมีเพียงสองหมู่บ้านให้มีสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวนหมู่บ้านละ 3 คน
นายกองค์การบริหารส่วนตำบล
มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนที่อยู่ภายในตำบล อยู่ในตำแหน่งว่าระละ 2 ปี แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน มีหน้าที่กำหนดนโยบาย แถลงนโยบาย รับผิดชอบในการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล และรายงานผลการปฏิบัติงานตามนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สามารถแต่งตั้งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลใด้ไม่เกิน 2 คน เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล 1 คน
การปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
กรุงเทพมหานคร
เป็นการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษ มีลักษณะการบริหารที่แตกต่างกับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ชาวกรุงเทพฯ ได้มีส่วนเข้ามารับผิดชอบในการบริหารกรุงเทพมหานครโดยตรง โครงสร้างการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร แบ่งได้ ดังนี้
1. สภากรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ที่มาจากการเลือกตั้ง มีกำหนดวาระละ 4 ปี มีอำนาจเสนอและพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
2. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร อยู่ในตำแหน่งวาระละ 4 ปี ทำหน้าที่บังคับบัญชารับผิดชอบการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร โดยมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 4 คน เป็นผู้ช่วยในการบริหารราชการกรุงเทพมหนคร
เมืองพัทยา
เป็นการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีการกระจายอำนาจบางส่วนให้ท้องถิ่นดำเนินการเอง โดยมุ่งแก้ปัญหาเกี่ยวกับความเสื่อมโทรมของเมืองพัทยาและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ สำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนทั่วไป เพื่อส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่นและของชาติ เช่น การจัดการจราจร การจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การปรับปรุงแหล่งเสื่อมโทรม การกำจัดขยะมูลฝ่อย การควบคุมและส่งเสริมกิจการท่องเที่ยว การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น โครงสร้างการบริหารงานของเมืองพัทยา แบ่งได้ ดังนี้
1. สภาเมืองพัทยา ประกอบด้วยสมาชิกสภาเมืองพัทยา 24 คน มาจากการเลือกตั้งของประชาชนผู้มีสิทธิในเมืองพัทยา มีกำหนดวาระละ 4 มีหน้าที่ตราข้อบัญญัติเมืองพัทยา
2. นายกเมืองพัทยา มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในเขตเมืองพัทยา อยู่ในตำแหน่งวาระละ 4 ปี มีหน้าที่ในการควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของเมืองพัทยา และเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของเมืองพัทยา