😁แถมกันสักนิด พิชิตแผนบริหารการสอน
😁แถมกันสักนิด พิชิตแผนบริหารการสอน
Prompt 1 เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบ 8 ตัวชี้วัด
กำหนดให้ท่านเป็นครูผู้เชี่ยวชาญการสอนวิชา ภาษาไทย เขียนแผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา: ........ภาษาไทย....
เรื่อง: ........การพูดโน้มน้าวใจ …….
ระดับชั้น: ............ม.2.........................
ระยะเวลา: .........1...ชม........................
มีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้......5 ขั้น คือ....
กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (CO-5STEPs)
แนวคิดของกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง 5 ขั้นตอน (CO-5STEPs)
ในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง 5 ขั้นตอน มีรายละเอียด ดังนี้
1. ขั้นเสนอสิ่งเร้าและระบุคำถามสำคัญ (Stimulating and Key Questioning Collaboratively) ครูนำเสนอสิ่งเร้าที่ เช่น วัตถุสิ่งของ วิดีทัศน์ รูปภาพ การตั้งคำถาม เปิดโอกาสให้ผู้เรียนตั้งคำถามได้ทั้งคำถามง่ายและคำถามยาก ให้ผู้เรียนคาดคะเนคำตอบอาจเป็นรายบุคคล หรือทีมด้วยการใช้วิธีต่าง ๆ
2. ขั้นแสวงหาสารสนเทศและวิเคราะห์อย่างรวมพลัง (Searching and Analyzing Collaboratively) ผู้เรียนทำกิจกรรมศึกษาค้นคว้าตามสื่อการเรียนรู้ที่ครูเตรียมไว้ในเวลาที่กำหนด ผู้เรียนวิเคราะห์ข้อมูล/สารสนเทศที่ได้จากกิจกรรมการเรียนรู้
3. ขั้นรวมพลังอภิปรายและสร้างความรู้ (Discussing and Constructing Collaboratively) ครูให้แต่ละกลุ่มผู้เรียนนำเสนอผังกราฟิก ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายผังกราฟิก ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแก้ไข ปรับปรุงข้อมูล/สารสนเทศในผังกราฟิกที่สร้างให้มีสาระความรู้ที่ถูกต้องและชัดเจน4. ขั้นสื่อสารและสะท้อนคิดอย่างรวมพลัง (Communicating and Reflecting Collaboratively) ผู้เรียนเตรียมนำเสนอผลงานความรู้ที่ผ่านการแก้ไขปรับปรุงแล้ว ด้วยวิธีการบอกเล่า สะท้อนกระบวนการ เรียนรู้การทำงาน ข้อเด่น ข้อด้อย จนได้บทเรียน
5. ขั้นรวมพลังประยุกต์และตอบแทนสังคม (Applying and Serving Collaboratively) ผู้เรียนช่วยกันนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปปรับใช้ในการเรียนรู้ร่วมกับสาระอื่น ๆ หรือปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การบอกเล่า การถ่ายวิดีทัศน์ การเขียนบทความ การทำโครงงาน
****ให้ท่านระบุกระบวนการจัดการเรียนรู้ แต่ละขั้นอย่างละเอียด ขั้นที่มีคำถามกระตุ้นการคิด ก็ให้มีพร้อมแนวตอบ
องค์ประกอบของการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ดังนี้
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ - มาตรฐานการเรียนรู้ (เขียนข้อความทั้งหมด ตามเล่มหลักสูตรแกนกลาง) - ตัวชี้วัด (เขียนข้อความทั้งหมด ตามเล่มหลักสูตรแกนกลาง)
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ต้องวิเคราะห์หาคำสำคัญในตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ว่าต้องการให้นักเรียนรู้อะไร ทำอะไรได้ (ดึงมาจากตัวชี้วัดในแผนนี่ เท่านั้น) แล้วทำการสังเคราะห์เป็นแก่นความรู้/เรียกว่า สาระสำคัญ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ( - การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ต้องมาจากตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ - การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ระบุพฤติกรรมชัดเจน สามารถวัดได้
4. สาระการเรียนรู้ - สาระแกนกลาง (ตามเล่มหลักสูตรแกนกลาง) - สาระท้องถิ่น (ตามเล่มหลักสูตรสถานศึกษา ถ้ามี)
5. สมรรถนะสำคัญ - เลือกสมรรถนะที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด หรือผลการเรียนรู้ (1 แผน ไม่จำเป็นต้องวัดครบทุกข้อ แต่ 1 รายวิชาต้องวัดครบ ทั้ง 5 ข้อ)
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เลือกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่สอดคล้องกับกิจกรรมได้ออกแบบให้ผู้เรียนมี ซึ่งอาจไม่ครบทั้ง 8 ประการ) (1 แผน ไม่ จำเป็นต้องวัดครบทุกข้อ แต่ 1 รายวิชาต้องวัดครบทั้ง 8 ข้อ)
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ - กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยกิจกรรมน าสู่การเรียน (ขั้นนำ) กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ (ขั้นสอน) และ กิจกรรมรวบยอด (ขั้นสรุป) หรือผู้สอนอาจ จัดกิจกรรมตามรูปแบบทฤษฎีการเรียนรู้/วิธีสอน/กระบวนการจัดการเรียนรู้ เทคนิคการสอน/เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างหลากหลายตามความเหมาะสม ซึ่งวิธีการดังกล่าวนั้นสามารถทำให้ ผู้เรียนบรรลุมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีวัดที่กำหนดไว้) - การออกแบบการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ตามเป้าหมายการเรียนรู้ สามารถสร้างชิ้นงาน/ภาระ งานตามที่ กำหนด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมาย และสะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนเกิดคุณภาพที่กำหนดไว้ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ - ทั้งนี้การออกแบบกิจกรรมเป็นการพัฒนาคุณลักษณะตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดสมรรถนะ สำคัญ และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้วย กลุ่มสาระการเรียนรู้ รายวิชา รหัสวิชา ชั้น หน่วยการเรียนรู้ที่ เรื่อง เวลาเรียน ชั่วโมง
8. การวัดและประเมินผล (การวัดและประเมินผลตามจุดประสงค์) - ประกอบด้วยการประเมินผลชิ้นงาน ภาระงานรวบยอด การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการประเมิน ตนเองของผู้เรียน (การวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ เป็นการประเมินเพื่อการพัฒนา ซึ่งผู้สอน ประเมินผลการ เรียนรู้ตามตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ที่ก าหนดเป็นเป้าหมายในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การซักถาม การ สังเกต การตรวจการบ้าน การแสดงออกในการปฏิบัติผลงาน การแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ของผู้เรียน โดยมีเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ ใช้ในพัฒนา)
9. วัสดุ อุปกรณ์ สื่อ และแหล่งเรียนรู้ - การกำหนดวัสดุ อุปกรณ์ สื่อ และแหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัดและกิจกรรมการเรียนรู้
10. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 3 ส่วน - ผลการจัดกิจกรรม - ปัญหาที่พบ - ข้อเสนอแนะและแนวทาการแก้ปัญหา
11. ความคิดเห็นของผู้บริหาร
โดยกิจกรรมการเรียนรู้ในแผนการจัดการเรียนรู้นี้ สะท้อนการจัดการเรียนรู้ 8 ตัวชี้วัดนี้อย่างชัดเจน
ตัวชี้วัด
เกณฑ์การพิจารณาผลการปฏิบัติ
คะแนน (เต็ม 5)
1. ผู้เรียนสามารถเข้าถึงสิ่งที่เรียนและเข้าใจบทเรียน
1) เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหลักสูตร
2) โครงสร้างบทเรียนเป็นระบบ เหมาะสมกับเวลา
3) ใช้สื่อประกอบเหมาะสมและบรรลุวัตถุประสงค์
4) มีนวัตกรรม/วิธีการใหม่ในการจัดการเรียนรู้
5) มีการปรับเปลี่ยนกิจกรรม/สื่อหลังการสอน
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
2. ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้หรือประสบการณ์เดิมกับการเรียนรู้ใหม่
1) มีการทบทวนความรู้/ทักษะเดิม
2) เข้าถึงผู้เรียนที่ยังไม่พร้อม
3) ช่วยเหลือผู้เรียนที่ยังเชื่อมโยงไม่ได้
4) ใช้วิธีใหม่ให้ผู้เรียนเชื่อมโยงได้ชัดเจน
5) ปรับเปลี่ยนวิธีการเชื่อมโยง (บันทึกหลังสอน)
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
3. ผู้เรียนได้สร้างความรู้เอง หรือสร้างประสบการณ์ใหม่จากการเรียนรู้
1) ออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้เรียน
2) มีการลงมือปฏิบัติจริง
3) ผู้เรียนสรุปด้วยตนเอง
4) มีการคิดค้นวิธีใหม่ให้ผู้เรียนสร้างความรู้
5) ปรับเปลี่ยนวิธีให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
4. ผู้เรียนได้รับการกระตุ้นและเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้
1) เชื่อมโยงกับชีวิตจริงหรือชุมชน
2) มีกิจกรรมที่ท้าทาย เหมาะสมกับวัย
3) ผู้เรียนสะท้อนความสำเร็จ/ความผิดพลาดได้
4) มีการคิดค้นวิธีใหม่ในการกระตุ้นแรงจูงใจ
5) มีการปรับเปลี่ยนวิธีเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจ
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
5. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญจากการเรียนรู้
1) ฝึกทักษะครบถ้วนตามวัตถุประสงค์
2) บูรณาการทักษะสู่การปฏิบัติ
3) ประยุกต์ใช้ทักษะในสถานการณ์ใหม่
4) คิดค้นวิธีพัฒนาทักษะใหม่
5) ปรับเปลี่ยนวิธีพัฒนาทักษะ (มีบันทึกหลังสอน)
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
6. ผู้เรียนได้รับข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้
1) มีการสังเกตข้อผิดพลาดหรือความเข้าใจผิด
2) ประเมินผลระหว่างเรียนอย่างเหมาะสม
3) ให้ผลสะท้อนกลับแก่ผู้เรียน
4) คิดค้นวิธีใหม่ในการให้ข้อมูลสะท้อนกลับ
5) ปรับเปลี่ยนวิธีให้ข้อมูลสะท้อนกลับ (มีบันทึก)
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
7. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ในบรรยากาศชั้นเรียนที่เหมาะสม
1) ครูเป็นแบบอย่างที่ดี
2) กระตุ้นให้นักเรียนมั่นใจและอิสระในการเรียนรู้
3) ใช้สื่อหลากหลายเพื่อกระตุ้นการคิด
4) คิดค้นวิธีใหม่สร้างบรรยากาศเรียนรู้ที่ดี
5) ปรับบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ (มีบันทึก)
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
8. ผู้เรียนสามารถกำกับการเรียนรู้และมีการเรียนรู้แบบนำตนเอง
1) กำหนดเป้าหมายหรือปฏิบัติด้วยตนเอง
2) ประเมินตนเองหรือเพื่อนประเมิน
3) ได้รับมอบหมายเรียนรู้ต่อเนื่องนอกบทเรียน
4) คิดค้นวิธีใหม่ให้เกิดการเรียนรู้แบบนำตนเอง
5) ปรับเปลี่ยนวิธีให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง (มีบันทึก)
☐ 1 ☐ 2 ☐ 3 ☐ 4 ☐ 5
Prompt 2 เขียนโครงสร้างหน่วยการเรียนรู้
กำหนดให้ท่านเป็นครูผู้เชี่ยวชาญการสอนวิชา เคมี เขียนแผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา: ...เคมีเพิ่มเติม....................
เรื่อง: ........กรด-เบส…….
ระดับชั้น: ............ม.5.........................
ระยะเวลา: .........24...ชม........................
มีข้อมูลพื้นฐานคือ
ให้ท่านเขียน “โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้”
โดยมีรูปแบบการเขียนดังนี้ “หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าเคมี เวลา 27 ชั่วโมง
1. ผลการเรียนรู้
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
คํานวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏิกิริยาที่เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์
วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน และระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมทั้งเขียนครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยารีดักชันของปฏิกิริยารีดอกซ์
ทดลอง และเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขียนแสดงปฏิกิริยารีดอกซ์
ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชันและวิธีครึ่งปฏิกิริยา
ระบุองค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟ้า และเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาที่แอโนดและแคโทด ปฏิกิริยารวม และแผนภาพเซลล์
คํานวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้าและปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น
อธิบายหลักการทํางาน และเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติยภูมิ
ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทําโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ
สืบค้นข้อมูล และนําเสนอตัวอย่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเซลล์เคมีไฟฟ้าในชีวิตประจําวัน
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม
เคมีไฟฟ้าเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระหว่างพลังงานไฟฟ้าและการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนแล้วทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน ซึ่งเป็นเลขที่แสดงประจุไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าสมมติของอะตอมธาตุเรียกปฏิกิริยาชนิดนี้ว่า ปฏิกิริยา
รีดอกซ์
ปฏิกิริยารีดอกซ์มีทั้งครึ่งปฏิกิริยาที่มีการให้อิเล็กตรอน เรียกว่า ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยาที่มีการรับอิเล็กตรอน เรียกว่า ครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน โดยสารที่ให้อิเล็กตรอนจะมีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้น เรียกว่า ตัวรีดิวซ์ ส่วนสารที่รับอิเล็กตรอนจะมีเลขออกซิเดชันลดลง เรียกว่า ตัวออกซิไดส์
การเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์สามารถพิจารณาได้จากผลการทดลองของปฏิกิริยารีดอกซ์
ปฏิกิริยารีดอกซ์เขียนแทนได้ด้วยสมการรีดอกซ์ ซึ่งการดุลสมการรีดอกซ์ทําได้โดยการใช้เลขออกซิเดชันและวิธีครึ่งปฏิกิริยา
เซลล์เคมีไฟฟ้าประกอบด้วยแอโนด แคโทด และสารละลายอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งอาจเชื่อมต่อกันด้วยสะพานเกลือ โดยที่แอโนดเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและแคโทดเกิดปฏิกิริยารีดักชัน ทําให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่จากแอโนดไปแคโทด เซลล์เคมีไฟฟ้าสามารถเขียนแสดงได้ด้วยแผนภาพเซลล์
ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์คํานวณได้จากค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์ ถ้าค่าศักย์ไฟฟ้าของเซลล์เป็นบวก แสดงว่าปฏิกิริยารีดอกซ์เกิดขึ้นได้เอง ซึ่งทําให้เกิดกระแสไฟฟ้าเรียกเซลล์ชนิดนี้ว่า เซลล์กัลวานิก แต่ถ้าค่าศักย์ไฟฟ้าของเซลล์เป็นลบ แสดงว่าปฏิกิริยา
รีดอกซ์ไม่สามารถเกิดได้เอง ต้องมีการให้กระแสไฟฟ้าจึงจะเกิดปฏิกิริยาได้เซลล์ชนิดนี้เรียกว่าเซลล์อิเล็กโทรลิติก
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการสังเกต
2) ทักษะการสำรวจค้นหา
3) ทักษะการวิเคราะห์
4) ทักษะการทำงานร่วมกัน
5) ทักษะการทดลอง
6) ทักษะการตีความหมายและลงข้อสรุป
7) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. รับผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
4. มุ่งมั่นในการทำงาน
5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
6. การวัดและการประเมินผล
7. กิจกรรมการเรียนรู้
Prompt 3 แผนบริหารการสอน (Course Syllabus)
กำหนดให้ท่านเป็นครูผู้เชี่ยวชาญการสอนวิชา เคมี
รายวิชา: ...เคมีเพิ่มเติม....................
ระดับชั้น: ............ม.5.........................
ระยะเวลา: .........24...ชม........................
มีข้อมูลพื้นฐาน คือ
...............................................................................
ให้ท่านออกแบบแผนบริหารการสอน (Course Syllabus)
โดยยึดแม่แบบแผนบริหารการสอน (Course Syllabus) ดังนี้
แผนบริหารการสอน (Course Syllabus)
ชื่อสถานศึกษา: ...............................................
กลุ่มสาระการเรียนรู้: .......................................
รายวิชา: ........................................................
รหัสวิชา: ......................................................
ชั้น: ............................................................
ภาคเรียน/ปีการศึกษา: ..................................
เวลาเรียน: ............. ชั่วโมง/สัปดาห์
จำนวนหน่วยกิต: ..........................................
ครูผู้สอน: ....................................................
text
[เขียนคำอธิบายรายวิชาที่กระชับ ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ และระบุกระบวนการจัดการเรียนรู้หลัก]
text
[ระบุมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง]
text
[ระบุจุดประสงค์การเรียนรู้เชิงพฤติกรรมที่ชัดเจน วัดได้ และสอดคล้องกับตัวชี้วัด]
สมรรถนะสำคัญ:
ความสามารถในการสื่อสาร
การบูรณาการ: [ระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะนี้]
ความสามารถในการคิด
การบูรณาการ: [ระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะนี้]
ความสามารถในการแก้ปัญหา
การบูรณาการ: [ระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะนี้]
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
การบูรณาการ: [ระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะนี้]
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
การบูรณาการ: [ระบุกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะนี้]
การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง:
หลักพอเพียง
การบูรณาการในกระบวนการเรียนการสอน
ความพอประมาณ
[ระบุแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความพอประมาณ]
ความมีเหตุผล
[ระบุแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความมีเหตุผล]
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี
[ระบุแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการมีภูมิคุ้มกัน]
เงื่อนไขความรู้
[ระบุองค์ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนการสอน]
เงื่อนไขคุณธรรม
[ระบุคุณธรรมที่ส่งเสริมในกระบวนการเรียนการสอน]
หน่วยที่
ชื่อหน่วยการเรียนรู้
ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้เชิงพฤติกรรม
สาระสำคัญ
เวลา (ชั่วโมง)
คะแนน
0
ปฐมนิเทศ
-
[ระบุจุดประสงค์]
[ระบุสาระสำคัญ]
[ระบุเวลา]
-
1
[ชื่อหน่วย 1]
[ระบุตัวชี้วัด]
[ระบุจุดประสงค์]
[ระบุสาระสำคัญ]
[ระบุเวลา]
[ระบุคะแนน]
...
...
...
...
...
...
...
รูปแบบและเทคนิคการสอน:
การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Learning Cycle)
การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
การสอนแบบโครงงาน (Project-Based Learning)
การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
การสอนแบบอภิปราย (Discussion Method)
การสอนแบบรวมพลัง 5 ขั้นตอน (Collaborative 5-Steps)
การสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT-Based Learning)
ตัวอย่างการบูรณาการกับรายวิชาอื่น:
คณิตศาสตร์: [ระบุแนวทางการบูรณาการ]
ภาษาไทย: [ระบุแนวทางการบูรณาการ]
ภาษาต่างประเทศ: [ระบุแนวทางการบูรณาการ]
สังคมศึกษา: [ระบุแนวทางการบูรณาการ]
สื่อการเรียนรู้:
หนังสือเรียน
เอกสารประกอบการเรียน
สื่อดิจิทัล และแพลตฟอร์มออนไลน์
วิดีทัศน์
แอปพลิเคชันสำหรับการเรียนรู้
แหล่งเรียนรู้:
ห้องสมุดโรงเรียน
ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ (ระบุเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง)
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน/ท้องถิ่น
สัดส่วนคะแนน (ตัวอย่าง 70:30)
คะแนนระหว่างภาคเรียน 70 คะแนน
ด้านความรู้ (K) 30 คะแนน
ด้านทักษะกระบวนการ (P) 30 คะแนน
ด้านคุณลักษณะ (A) 10 คะแนน
คะแนนปลายภาคเรียน 30 คะแนน
เครื่องมือการวัดและประเมินผล:
แบบทดสอบ (ก่อนเรียน/หลังเรียน/กลางภาค/ปลายภาค)
แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (พร้อมเกณฑ์การให้คะแนนแบบรูบริค)
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
แบบประเมินทักษะปฏิบัติ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
แบบประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน:
ช่วงคะแนน (ร้อยละ)
ระดับผลการเรียน
ความหมาย
80 - 100
4
ดีเยี่ยม
75 - 79
3.5
ดีมาก
70 - 74
3
ดี
65 - 69
2.5
ค่อนข้างดี
60 - 64
2
ปานกลาง
55 - 59
1.5
พอใช้
50 - 54
1
ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ
0 - 49
0
ต่ำกว่าเกณฑ์
แนวทางการให้ข้อมูลย้อนกลับ:
การให้ข้อมูลย้อนกลับรายบุคคล
การให้ข้อมูลย้อนกลับรายกลุ่ม
การให้ข้อมูลย้อนกลับทั้งชั้นเรียน
แนวทางการพัฒนาผู้เรียน:
การซ่อมเสริมสำหรับผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์
การส่งเสริมสำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ
การจัดการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ
การเข้าชั้นเรียน:
เข้าเรียนตรงเวลา (อธิบายกฎระเบียบและข้อยกเว้น)
การแต่งกายถูกระเบียบ
การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน
การส่งงาน:
กำหนดการส่งงาน
รูปแบบการส่งงาน
บทลงโทษกรณีส่งงานช้าหรือคัดลอกผลงาน
การวัดผลประเมินผล:
กฎระเบียบในการสอบ
บทลงโทษกรณีทุจริตในการสอบ
แนวทางปฏิบัติกรณีขาดสอบ
วิธีการรายงานผล:
การประชุมผู้ปกครอง
สมุดรายงานผลการเรียน
การรายงานผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
การแจ้งผลเป็นรายบุคคล
text
[ระบุวิธีการนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป]
การปรับประยุกต์: แม่แบบนี้สามารถปรับใช้ได้กับทุกรายวิชา โดยเน้นการปรับให้สอดคล้องกับธรรมชาติของวิชา บริบทของผู้เรียน และนโยบายของสถานศึกษา
การเพิ่มรายละเอียด: ควรเพิ่มรายละเอียดในแต่ละหัวข้อให้ชัดเจน โดยเฉพาะการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เชิงพฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรู้ และวิธีการวัดและประเมินผล
การวิเคราะห์ผู้เรียน: ควรมีการวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนจัดทำแผนการสอน เพื่อให้กิจกรรมการเรียนรู้และวิธีการวัดผลประเมินผลสอดคล้องกับความต้องการและศักยภาพของผู้เรียน
การบูรณาการ: เน้นการบูรณาการกับรายวิชาอื่นและการเชื่อมโยงกับชีวิตจริง เพื่อให้ผู้เรียนเห็นความเชื่อมโยงและการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
การติดตามและประเมินผล: ควรมีการติดตามและประเมินผลการใช้แผนการสอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น3